xs
xsm
sm
md
lg

อีกแล้ว! ชาวกาฬสินธุ์พบบ่อน้ำมรกตดื่มแก้โรคสารพัด - ผู้ว่าฯเตือนงมงายเสี่ยงถูกมิจฉาชีพตุ๋น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - ชาวเมืองน้ำดำฮือฮา “บ่อน้ำมรกต” สีเขียวสดผุดกลางไร่นา เชื่อเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วังพญานาคแห่กราบ ดื่มสดเชื่อรักษาสารพัดโรค ผู้ว่าฯเล็งส่งทีมสาธารณสุขเข้าตรวจสอบหวั่นเกิดโรคระบาด-แก๊งมิจฉาชีพต้มตุ๋นแฉมีการตั้งโต๊ะรับบริจาค ขณะที่ประชาชนรู้ข่าวแห่กราบไหว้ทั่วสารทิศตื่นคนป่วยใกล้ตายกินน้ำเข้าไปเดินได้หน้าตาเฉย

วันนี้ (13 ม.ค.) เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า ชาวบ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียง ต่างพากันร่ำลือ ว่า ในเขตตำบลลำพาน อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ว่า มีการค้นพบบ่อน้ำที่มีสีเขียวมรกต และเชื่อว่า มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะสามารถรักษาได้สารพัดโรค จนทำให้ข่าวที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีประชาชนจากทุกสารทิศเดินทางเข้ามากราบไหว และดื่มน้ำเพื่อรักษาสุขภาพ

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปเพื่อพิสูจน์ตามคำร่ำลือ โดยบ่อน้ำดังกล่าวอยู่ที่บ้านทุ่งสว่าง หมู่ที่ 16 ต.ลำพาน อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งห่างจากตัวเมืองกาฬสินธุ์ประมาณ 10 กิโลเมตร โดยบ่อน้ำดังกล่าวเป็นของ นางมะลิ ไพรไชยยน อายุ 77 ปี บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่

ทันทีที่เดินทางเข้าไปถึง ได้พบประชาชนที่เดินทางมาจากหลายจังหวัด ต่างพากันกราบไหว้บูชา จากนั้น ก็จะเดินเข้าไปตักน้ำมาดื่มกินกันสดๆ โดยมีการตั้งโต๊ะรับบริจาคด้วย

นางมะลิ ไพรไชยยน อายุ 77 ปี เจ้าของบ่อน้ำ กล่าวว่า ในส่วนตัวอาชีพของตนเอง และครอบครัว จะประกอบอาชีพทำรีสอร์ตสวนอาหาร และเมื่อประมาณเดือนเมษายน 2550 ได้ทำการขุดสระเพื่อที่จะเลี้ยงปลาตามปกติ โดยได้ใช้รถขุดไร่นาทำบ่อปลาจำนวน 3 บ่อ เพื่อที่จะรองรับน้ำจากคลองชลประทาน ตามขนาดความยาว 40 เมตร กว้าง 20 เมตร จำนวน 2 บ่อ และบ่อขนาดเล็กที่จะเป็นบ่อดินเอาไว้เลี้ยงปลาดุก ที่มีขนาดประมาณ ความยาว 20 เมตร กว้าง 10 เมตร

โดยเมื่อมีการขุดไปก็ได้มีการปล่อยน้ำระบายเข้าพื้นที่ แต่ทุกบ่อจะพบว่ามีน้ำทรัพย์ไหลซึมเข้ามาตามธรรมชาติ จนเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2550 ความพิสดารของน้ำผุดก็เกิดขึ้น เมื่อบ่อเล็กที่มีบ่อเดียวขนาดความยาวประมาณ 20 เมตร กว้าง 10 เมตร ซึ่งเป็นบ่ออยู่ทางทิศตะวันตกของตัวบ้าน กลับมีน้ำผุดสีเขียวสดใสสะอาดผุดทะลักขึ้นมา

“เมื่อเห็นเช่นนั้นจึงได้นำเรื่องไปบอกเล่ากับเพื่อนบ้านใกล้เคียง และได้นำความไปบอกกับหมอธรรม (ร่างทรง) ประจำหมู่บ้าน จึงได้มีการประกอบพิธีกรรมเสี่ยงทายจนทราบว่า บ่อน้ำดังกล่าวเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือที่เรียกกันว่า วังพญานาค เนื่องจากใต้บ่อนี้ยังมีพระพุทธรูปตั้งอยู่ตรงกลาง และมีพญานาค 2 ตน ทำหน้าที่ปกปักรักษา โดยร่างทรงบอกว่า ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากพญานาค ต้องการที่จะช่วยมนุษย์โลก”

นางมะลิ เล่าต่อว่า หลังจากที่ทราบความดังกล่าว ก็เลยได้มีการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อในการบูชาพญานาค จากนั้นเมื่อข่าวแพร่สะพัดไป ก็มีประชาชนเดินทางเข้ามาดู บางคนก็เอาคนป่วยที่หมดทางรักษามาดื่มน้ำ ก็รู้สึกดีขึ้น บางคนป่วยจนไม่สามารถจะเดินได้ เมื่อดื่มน้ำมรกตเข้าไป ก็ส่งผลให้ลุกเดินได้ตามปกติ และด้วยความเชื่อดังกล่าวชาวบ้านที่มา ก็ได้พากันตั้งตู้บริจาค ที่จะนำเงินดังกล่าวไปทำบุญที่วัดทุกวัน

ด้าน นางมณี พิมพาแต่ง อายุ 57 ปี ราษฎรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเองเป็นตนหนึ่งที่ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ และมีความเชื่อว่ารักษาได้จริงเนื่องจากที่ผ่านมา ตนเองประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ แขนด้านขวาขยับไม่ได้ จึงได้เข้ามากราบไหว้บูชาแล้วตักน้ำ ในบ่อมรกตไปดื่ม ก็ปรากฏว่า สุขภาพดีขึ้น

นางเครือ อินพวง อายุ 74 ปี บ.วังเกราะเหล็ก หมู่ที่ 2 ต.ลำพาน กล่าวว่า ตนเพิ่งจะมาดื่มน้ำครั้งแรก แต่ร่างกายไม่ได้เป็นอะไร เพียงแต่ต้องการมาตักน้ำดื่มเพื่อเป็นสิริมงคล เพราะมีข่าวว่า มีผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมมาดื่มน้ำบ่อนี้แล้วหาย

สำหรับความเชื่อเกี่ยวกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในขณะนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในแต่ละวันประชาชนที่ทราบข่าวตามคำร่ำลือจะเดินทางมาจากหลายจังหวัด บางคนได้นำผู้ป่วยที่มีอาการหนักเข้ามาดื่มน้ำ ขณะที่เซียนหวยยังได้มีการกราบไหว้ขอหวย โดยในงวดนี้ เสี่ยงทายได้ 899

ขณะที่ นายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีชาวบ้านฮือฮา บ่อน้ำศักดิ์ ในขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมไปถึงตำรวจเข้าติดตามในพื้นที่แล้ว โดยประเด็นหลักในขณะนี้เนื่องจากเป็นเรื่องของความเชื่อชาวบ้าน ก็จะต้องตรวจสอบอยู่ห่างๆ แต่สิ่งที่จะทำได้ทันที คือ สาธารณสุข จะต้องเข้าไปเก็บเอาตัวอย่างน้ำในบ่อนี้มาตรวจทันที และจะต้องมีการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการป้องกันโรคติดต่อ

เนื่องจากทราบว่า มีการนำผู้ป่วยสารพัดโรคเข้ามาดื่มน้ำซึ่งหากเป็นโรคติดต่อจริงก็จะทำให้เกิดการระบาดของโรคได้ อีกทั้งเนื่องจากมีการตั้งโต๊ะรับบริจาคก็จะต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดว่ามีพฤติกรรมต้มตุ๋นหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น