...“อั๋น” ชวนมอง #หนึ่งคนว่ายหลายคนให้ แบบ “ตัดอคติ-สะท้อนปัญหารอบด้าน” ผ่านโปรเจกต์ว่ายข้ามโขงระดมทุนของ #โตโน่ภาคิน...
“เรื่องแบบนี้ สามารถดำเนินการไปพร้อมกันทั้ง 2 ฝ่ายได้ ถ้าไหนๆ ตอนนี้ได้สื่ออยู่แล้ว ก็ไม่ต้องพูดเชิงตำหนิก็ได้นะ
แต่เป็นการขอว่า ถือว่ามาดูหน่อยไหม ตรงนี้มีปัญหาเนอะ อาจจะตกสำรวจอะไรหรือเปล่า ช่วยกันดูนิดนึง”
อั๋น-ภูวนาท คุนผลิน พิธีกรชื่อดัง แสดงความคิดเห็นโปรเจกต์สะเทือนสังคม “One Man and The River (หนึ่งคนว่าย หลายคนให้)”ที่กำลังเกิดขึ้นวันนี้ (22 ต.ค.)
ถึงแม้จะเป็น “โครงการแห่งความหวังดี” เพื่อจัดหาเครื่องมือการแพทย์ให้ “รพ.นครพนม” และ “รพ.แขวงคำม่วน (สปป.ลาว)” แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีคนคัดค้านอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
โดยเฉพาะประเด็นสำคัญเรื่องการสร้าง “วัฒนธรรมแห่งการบริจาคที่ไม่จบสิ้น” ซึ่งอาจเป็นส่วนนึงที่ทำให้ปัญหา “เครื่องมือการแพทย์ขาดแคลน” ตามโรงพยาบาลในต่างอำเภอ-ต่างจังหวัดทั่วไทย ไม่เคยได้รับการแก้ไขที่ “ต้นเหตุ” อย่างแท้จริง
และนี่คือ การชวนมองให้รอบด้านจากอั๋น ผ่านรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” เพื่อสะท้อนปัญหาให้ไปถึง “ภาครัฐ” กันอย่างจริงๆ จังๆ
ถ้าอย่างน้อยๆ พี่น้องประชาชนไทยอยากใช้คำว่า “ทำบุญร่วมกัน”ได้อย่างเต็มปาก และ “ช่วยเหลือสังคม” ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ก็อยากให้ “เปิดใจอ่าน”บรรทัดต่อจากนี้ดู
“ผมเชื่อว่า โตโน่เขาคงตั้งใจ แต่หลายๆ แฮชแท็กมันก็แรงเนอะ #นักบุญทุนชาวบ้าน #นักบุญทุนคนอื่น
ท่ามกลางความดรามามากมาย มันก็ช่วยเสริมกำลังให้คนที่ตั้งใจอยากบริจาค ทำให้ได้ยอดบริจาคเยอะ
แต่อีกฝั่งเขาก็กระทุ้งว่า ถ้าจะช่วยกันแบบนี้ น่าจะช่วยเป็นกระบอกเสียงในการส่งถึงคนที่ดูแลเรื่องนี้ ให้ลงมาบริหารจัดการเรื่องนี้ให้ดี แล้วติดตามไปพร้อมๆ กัน ดีกว่ามานั่งขอเงิน และบริจาคไปไม่จบไม่สิ้น
แถมล่าสุด มีหน่วยงานออกมาบอกว่า จริงๆ ก็ไม่ได้ขาดแคลนอุปกรณ์นะ แต่เห็นว่าเป็นความตั้งใจที่ดีของโตโน่ ก็ไม่อยากขัดศรัทธา
อ้าว..ตกลงแล้ว มันรุนแรงขนาดไหนกับปัญหาตรงนี้ แต่ก็เอาเถอะ มีคนให้ก็ดีกว่าไม่มีแล้วกันนะ คือถ้าจะคิดตื้นๆ แบบนั้นก็ทำได้
แต่ก็เข้าใจว่าถ้าเป็นกิจกรรมง่ายๆ มันก็อาจจะไม่เกิด impact (สร้างแรงขับเคลื่อน) เท่านี้ และคนก็มองว่าการช่วยเหลือตรงนี้ มันไม่มีเสีย มันมีแต่ได้
สมมติเขาบอกว่า มีเครื่อง MRI แล้ว แต่แค่บอกว่า มีแต่ แต่มีรุ่นใหม่ มีแล้ว แต่มีเพิ่ม มีแล้วแต่ดีกว่าเดิม ประสิทธิภาพมากขึ้น ดีหมดแหละ ถ้ามันทำได้
เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้สรุปนะ ณ ตอนนี้ยังไงมันก็เกิด (กิจกรรม) และหวังว่าทุกอย่างจะปลอดภัย หวังว่าจะได้เงินเยอะ หวังว่าภาครัฐจะเห็นปัญหา
มันต้องหวังกันไปทุกด้านเลย จะได้ไม่ต้องทำแบบนี้กันบ่อยๆ ที่สำคัญ คนที่พยายามจะห้าม ไม่เห็นด้วยกับโตโน่ ไม่ใช่เพราะเขาเกลียดคุณนะ
หรือไม่ได้แปลว่าเขาเกลียดการให้ ไม่ได้แปลว่าเขาไม่รู้จักความรัก หรือไม่เห็นค่าของปัญหาที่เราอยากจะช่วยกัน หรือไม่ใช่ไม่มีน้ำใจ
คนเห็นด้วยทั้งหมดเลย เพียงแต่เรารู้สึกว่ามันอาจจะมีวิธีอื่นด้วย มีรูปแบบอื่นด้วยเนอะโตโน่
ในอีกด้านนึง หลายๆ ครั้งที่เห็นปฏิกิริยาของโตโน่ เขาเต็มไปด้วยความกดดัน เป็นความกดดันที่เกิดจากตัวเค้าเองด้วย
ซึ่งบางส่วนมันก็ไม่จำเป็นต้องกดดัน เพื่อทำสิ่งนี้ หรือพาตัวเองไปสู่จุดนี้ ด้วยวิธีการนี้เสมอไปก็เป็นไปได้
ฉะนั้น อั๋นเห็นด้วยกับประเด็นขอให้ขัดเกลาอีโก้ตัวเอง และมันไม่ใช่แค่โตโน่นะ ทุกคนเลยที่อาจจะเผลอมีตัวตน สร้างอัตตาให้ตัวเอง
บางทีในใจมันก็จะมีว่า “ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร” คือ ไอ้คำแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้ในใจทุกคน เป็นวูบๆ วาบๆ ในบางครั้ง
และเผลอเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ ให้รู้เท่าทัน เพราะมันไม่เคยช่วยให้อะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่จริงๆ นะครับ
ยังไงก็แล้วแต่ อดีตนักกีฬาทีมชาติ ซึ่งเคยว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงมาแล้ว เขาบอกเลยว่าการจะว่ายข้ามแม่น้ำโขงในฤดูกาลแบบนี้ จริงๆ ต้องฝึกร่งกายให้พร้อมอย่างน้อย 6 เดือน
เราเห็นโตโน่มีกล้ามแหละ ล่ำ หุ่นดีเชียว แต่ไม่ได้แปลว่ากล้ามที่ล่ำนั้น จะพร้อมสำหรับการว่ายน้ำแบบนี้เสมอไป ภายใต้แรงกดดันด้วยเช่นกัน
และถ้าร่างกายไม่พร้อมจริง จะโดนกระแสน้ำพัด และจมน้ำได้ง่ายๆ หรือแม้แต่มีทุ่นอยู่ ก็อาจจะหลุดจากทุ่นด้วยเช่นกัน
นี่คือการมองโลกในแง่ร้าย แต่บางครั้งเราต้องเผื่อ worst-case scenario ไว้ก่อน
อีกอย่าง แม่น้ำโขงช่วงนี้ทัศนวิสัยเกือบเท่ากับ 0 คือ เอามือขึ้นมาวางตรงหน้า ต่อให้คุณใส่แว่นตาดำน้ำ คุณก็มองเห็นอะไรข้างหน้าไม่ได้เลย
คำว่า “เท่ากับ 0”คือ น้ำมันขุ่นคลั่กเลย เราไม่เห็นเลยว่ามีอะไรลอยมากับน้ำอยู่ข้างหน้า มือเราอาจจะเหวี่ยงไป ในการว่ายฟรีสไตล์ แล้วฟาดเข้ากับขอนไม้ที่ลอยมาขนาดใหญ่
หรือว่ายไปชนขอนไม้ แล้วเกิดบาดแผล หรือหัก หรือเป็นอะไรไปเลยก็เป็นไปได้เหมือนกัน หลายครั้งที่เขาเจอ เขาเจอแม้กระทั่งซากสัตว์ลอยมา
ขอนไม้ที่เบียดกับหน้า หรือชนเต็มๆ ก็โดนมาหมดแล้ว และกระแสน้ำวนที่อาจจะเกิดขึ้น จากการที่ข้างใต้แม่น้ำโขงนั้น มีโขดหินที่เป็นหลุม-เป็นแอ่ง
และเราไม่รู้ว่าเราจะว่ายไปเจอสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเมื่อไหร่ นี่คือ ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และไม่ว่าจะใครก็ตาม รวมถึงโตโน่ด้วย ต้องยอมรับว่า คุณก็ไม่สามารถควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้
และนี่แหละคือ สิ่งที่ทำไมถึงมีคนจำนวนไม่น้อย พยายามจะบอกว่าอย่าทำไหม หรือรู้สึกบ้างว่าไม่เห็นด้วย
ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับความตั้งใจทำดีนะ แต่มันน่าเป็นห่วง แต่ถึงยังไงมันก็เกิดขึ้น ดังนั้น เราเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันแล้วกันครับ
หมายถึงทุกๆ คน ในทุกๆ ด้าน แล้วก็ขัดเกลาอีโก้ไปพร้อมๆ กันกับเรื่องนี้ และสะท้อนปัญหาไปพร้อมๆ กัน
จะยังไงก็แล้วแต่ ก็ชื่นชมกับความตั้งใจดีของทุกๆ คนที่ “ตั้งใจดี” เราก็รู้จักน้อง และมีเพื่อนบุคลิกแบบนี้คือ ถ้าจะทำคือจะทำ และเรารู้ด้วยว่าห้ามไม่ได้
และอั๋นเชื่อว่าแม้แต่เพื่อนสนิทเขา หรือแม้แต่แฟนเขาก็รู้ว่าห้ามไม่ได้ ก็เอาเถอะ อย่างน้อยมันก็มีประโยชน์เกิดขึ้น”
เรียบเรียง : ทีมข่าว MGR Live
ที่มา (ข้อมูล) : https://youtu.be/ab8VSDWQOXE
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **