xs
xsm
sm
md
lg

ไขข้อสงสัย ปัจจัย “ป่วยซ้ำโควิด-19” พบ 20% ได้กลับบ้านแต่ไม่หายขาด!! [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หมอมนูญ” ไขข้อสงสัย หายโควิด-19 แล้วเป็นซ้ำได้หรือไม่ ย้ำอย่าชะล่าใจ แม้ตัวเลขผู้ป่วยในไทยจะลดลงแล้ว แนะให้ถอดบทเรียนจากระดับโลก ป้องกันการระบาดหนักรอบ 2 โดยเฉพาะสิงคโปร์ คือตัวอย่างผู้ป่วยเพิ่มเป็นพัน ภายในวันเดียว!

พบเชื้ออีกไม่ได้หมายความว่าเป็นซ้ำ?!

ผมคิดว่าไม่น่าจะติดซ้ำ ส่วนใหญ่ดีขึ้นแล้วก็ดีขึ้นเลย แต่มันใช้เวลานาน คืออาการดีขึ้นก่อน แล้วตัวเชื้ออาจยังเจออยู่แต่ในที่สุดก็จะหมดไป แล้วยิ่งโอกาสกลับมาป่วยใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ ระยะยาวเราไม่รู้ 3 ปี 4 ปี เรายังไม่มีข้อมูล แต่ระยะสั้นไม่น่าจะมี แต่มีอาการรึเปล่า เอกซเรย์เป็นยังไง ต้องมีข้อมูลอีกเยอะ

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ บอกข้อมูลทีมข่าว MGR Live ถึงกระแสข่าวที่ว่าพบผู้หายป่วยโควิด-19 ใน จ.เชียงราย กลับมามีอาการไข้สูงร่วมกับปอดอักเสบอีกครั้ง หลังออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว และกลายเป็นประเด็นที่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่คนในสังคมเป็นอย่างมาก


[ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ]

เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณหมอมนูญได้ให้ข้อมูลว่า ต้องวินิจฉัยอย่างละเอียดอีกครั้งว่าการที่ผู้ป่วยรายนี้มีอาการขึ้นมาอีก เกิดจากสาเหตุใด แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ว่าจะตรวจพบเชื้อโควิด-19 ได้อีกครั้ง แม้แต่ในประเทศจีนเอง ก็พบเชื้อจากผู้ป่วยที่กลับบ้านไปแล้วถึง 20 เปอร์เซ็นต์!

“ถ้ากลับมาอีกอาจจะมีโรคอย่างอื่นมาแทรกก็ได้ ตัวโควิดมันอาจจะไม่ใช่แล้ว จริงๆ มันยังมีอยู่ ตรวจครั้งสองครั้งมันไม่ได้หมายความว่าหมด อาจจะหมดช่วงนั้น เลยตรวจไม่เจอ ที่ประเทศจีนเขาทำนะ กลับบ้านไปแล้วกลับมาตรวจทุก 3 วัน 6 วัน 9 วัน 12 วัน 15 วัน ปรากฏว่าเจอตั้งเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่น้อยนะ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่กลับบ้านจะผลเลือดเป็นลบหมด



เราก็คิดว่าที่เจออาจจะเป็นซากมันและอาจจะไม่ติดต่อกับคนอื่น แต่เราก็ไม่แน่ใจ เพราะที่ตรวจไป เราตรวจรหัสพันธุกรรม ไม่ได้เอาไปเพาะเชื้อว่ามันมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะการเพาะเชื้อมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตมันเป็นอะไรที่อันตราย คนที่ตรวจอาจจะไปรับเชื้อที่ตรวจอยู่ ก็ซวยไป

ส่วนผู้ป่วยที่เป็นและหายแล้ว จะมีภูมิคุ้มกันมากกว่าคนที่ไม่เคยป่วยหรือไม่ คิดว่าอย่างนั้น แต่อันนี้เราก็ยังไม่รู้ สมมติเราไปเอาเชื้อให้เขาใหม่หลังจากที่เขาหาย ถ้าเขารับเชื้อใหม่เขาจะเป็นรึเปล่า ยังไม่มีข้อมูล ยังไม่มีการทดลอง แต่เชื่อว่าจากอดีตโรคอื่นๆ มันจะมีภูมิ แล้วก็มีภูมิได้ยาวด้วย แต่พออายุมากขึ้นหรือมีโรคประจำตัวมา ภูมินั้นก็ตก ไปรับเชื้อใหม่ได้อีก ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น”

สำหรับความคืบหน้า กรณีที่มีผู้ป่วยโควิด-19 ของ จ.เชียงราย ที่กลับป่วยเป็นไข้สูงซ้ำอีกครั้ง หลังหายและกลับไปพักรักษาตัวต่อที่บ้านนั้น ล่าสุด ประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ออกเปิดเผยว่า จากการตรวจไม่พบว่ามีเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด เป็นเพียงการป่วยทั่วไป แต่เพื่อไม่เป็นการประมาท ได้มีการทำการรักษาในห้องควบคุมโรค และเฝ้ารักษาอย่างใกล้ชิดต่อไป
อย่าวางใจแม้ผู้ป่วยใหม่น้อยลง

สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุด พบรายใหม่ 19 ราย ถือได้ว่าต่ำสุดในรอบเดือนนี้ ส่วนยอดสะสม 2,811 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 48 ราย รักษาหาย 655 ราย ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านแล้ว 2,108 ราย

(สถานการณ์ในไทย) ก็ดีนะ ตัวเลขมันชี้ชัดว่าตัวเลขเราลดลง โชคดีเรายังไม่มีผู้ป่วยซูเปอร์สเปรดเดอร์ (Super Spreader) อีกสักคน ถ้ามีมามันก็จะเอาใหม่อีก ยังโชคดีไม่เหมือนกับสิงคโปร์ พวกหอพักแรงงานต่างด้าวที่อยู่กันแออัด แบบนั้นแย่”



[ หอพักแรงงานต่างด้าวในสิงคโปร์ ]

แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจชื่อดัง ให้ความเห็นถึงกรณีที่หลายประเทศใกล้บ้านเราที่พบจำนวนผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น ราวว่าเป็นการกลับมาระบาดอีกระลอก โดยเฉพาะในสิงคโปร์ ที่พบผู้ป่วยใหม่วันเดียวกว่าพันคน!

หมอเชื่อว่ามันต้องติดต่อกันทางหายใจ ยิ่งนานวันมันยิ่งเห็นชัด เพราะอยู่กันแออัด เป็นพันคนในหอพักเดียวกัน แล้วหายใจในอพาร์ตเมนต์นั้น โรคซาร์สเมื่อ 17 ปีที่แล้วที่กวางตุ้ง คนคนนึงแพร่เชื้อให้เกือบ 180 คนที่อยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน แม้อยู่กันคนละชั้น ลักษณะเหมือนกัน อธิบายเป็นอย่างอื่นยาก

แล้วที่น่ากลัวคือคุกบ้านเรา ถ้าเมื่อไหร่เข้าไปสักคนนึงนะ รับรองเป็นเรื่องเลย เราก็เหมือนกับสิงคโปร์ มันเห็นชัด อากาศก็ถ่ายเทไม่ดี คนก็เยอะแยะ อยู่ใกล้ชิดกัน มันจะพรึบเดียวเลยเป็นพัน เราต้องป้องกันกันอย่างเต็มที่ ”



ขณะนี้แม้ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ของไทยจะลดลง แต่ยังมีอีกประเทศในทางเอเชียที่ต้องจับตา โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ญี่ปุ่น ในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 338 ราย ส่วนสิงคโปร์ มีเพิ่มขึ้น 1,426 ราย ถือว่าเยอะมาก จึงต้องมาเรียนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสิงคโปร์ และไทยจะได้บทเรียนอะไรมาปรับใช้ สำหรับอินโดนีเซีย เพิ่ม 185 ราย ฟิลิปปินส์ 200 ราย มาเลเซีย 36 ราย ซึ่งไทยยังทรงตัวอยู่

และสุดท้าย คุณหมอมนูญ กล่าวถึงกรณีอีกที่หลายประเทศมีตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้าที่ลดลงไปแล้ว อาจจะมาจากระบบคัดกรองคนจากต่างประเทศที่ไม่เข้มข้นมากพอ ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่ไทยต้องให้ความสำคัญ

“ผ่อนปรนคนในประเทศได้ (ระบบคัดกรอง) ยังจำเป็นอยู่ ถ้าทุกประเทศยังมีอยู่เราต้องคัดกรอง เขาก็คัดกรองเรา ต่างคนต่างคัดกรอง โรคนี้มันยังไม่จบ สมมติประเทศเราคุมได้ดี ประเทศสหรัฐฯ ยุโรปเยอะแยะ อีกหน่อยก็มาแน่นอนเพราะมีการเดินทาง เหมือนจีน จีนสามารถยุติมันได้ แต่เขาก็ยังมีที่มาจากทางเหนือของเขาที่ติดกับรัสเซีย มาที 60-70 คน แต่ปัจจุบันจีนเขาเก่งแล้วล่ะ



ชุดตรวจเอาไปใช้ให้มากกับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ มาถึงปุ๊บตรวจ ก่อนที่จะปล่อยออกมาก็ตรวจอีก ให้แน่ใจว่าไม่มีใครเอาเชื้อจากต่างประเทศเข้ามา อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำ ในประเทศก็ต้องทำสุขอนามัยที่ดี ต้องเน้นเรื่องอากาศถ่ายเท เรื่องหน้ากาก เรื่องล้างมือ

เราต้องระมัดระวังตัวเอง อย่าไปปล่อยว่าบ้านเราไม่มีแล้ว ไม่ใช่ ต้องอยู่กับมันจนกว่าเมื่อไหร่จะมีวัคซีนออกมา เราถึงจะกลับไปเหมือนชีวิตปกติได้ โรคนี้ต้องอยู่กับเรา ไอ้ที่ให้เป็นศูนย์มันคงเป็นไปไม่ได้ ขณะนี้ทางระบบสาธารณสุขเราก็รับไหวแล้ว ห้อง ICU ก็ไม่เหมือนกับอเมริกาหรือจีน เครื่องช่วยหายใจเราก็มีเพียงพอ เรารับมือไหว”





ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ภาพ : AFP


** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **


กำลังโหลดความคิดเห็น