กราบหัวใจ! กลุ่มจิตอาสา “มีเพราะให้” ตระเวนสร้างบ้านฟรี-ทาสีเมรุ-เปิดโรงทาน-เลี้ยงอาหาร ในระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ ไม่สนแม้โดนครหาว่าสร้างภาพ “จะทำจนกว่าพวกผมจะไม่ไหว”
ช่วยหมด คนยากไร้-คนป่วย-คนตาย
“ผมว่าปัจจัยหลักของคนมันน่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ถ้าเกิดเรามีบ้านอย่างน้อยเรามีที่ซุกหัวนอน เราจะไปเก็บของขายเพื่อไปแลกเงินซื้อข้าวเรายังทำได้ แต่ถ้าเราไม่มีบ้าน บางคนนอนอยู่ริมถนน หรือช่วงอากาศอย่างนี้ เรามีบ้านเรายังหนาวมากเลยนะ เราก็เลยเน้นไปช่วยตรงสร้างบ้านดีกว่า
แล้วมันเห็นผล เขาได้รับจริงๆ แต่ถ้าเกิดไปแจกของ เราไม่รู้ว่าของเหล่านั้นที่เราแจกไปแล้วมันยังไงต่อ หรือแม้แต่ผ้าห่มที่เขาแจกกันหน้าหนาวทุกปี ผ้าห่มเหล่านั้นหายไปไหนหมด แต่ถ้าบ้าน เขายังอยู่ต่อไปได้รุ่นสู่รุ่น เพราะว่าบ้านที่เราสร้าง ผมมั่นใจว่าแข็งแรงระดับหนึ่งเลยล่ะ”
“โน้ต” ชายวัย 35 ปี ตัวแทนจาก “กลุ่มสุขเพราะทำดี มีเพราะให้” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “กลุ่มมีเพราะให้” เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live หลังจากที่โลกออนไลน์ได้มีการส่งต่อเรื่องราวของกลุ่มนี้ ที่ตระเวนสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ที่บ้านทรุดโทรม แบบไม่คิดเงินสักบาท จนมีผู้คนชื่นชมเข้ามาชื่นชมในน้ำใจที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นจำนวนมาก
“เราเห็นความลำบากหลายๆ อย่าง เลยรู้สึกว่าถ้าสร้างกลุ่มขึ้นมาแล้วช่วยเหลือตลอดมันน่าจะเพิ่มรอยยิ้ม เพิ่มความสุขให้แก่คนพวกนี้ได้ ตอนนี้เข้าปีที่ 2 แล้ว ทีมงานหลักๆ มีประมาณอยู่ที่ 10 คน แต่เวลาที่เราไปบางทีมีกลุ่มอื่น เพราะเป็นการรวมตัวกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ป่อเต็กตึ๊ง อาสาร่วมกตัญญู ทีมเราจะไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นอาสาหรือบุคคลธรรมดา เราไม่ปิดกั้น แต่ขออย่างเดียวมาแล้วอย่ามองผลประโยชน์ อย่ามาเพื่อที่จะมาถ่ายรูปสร้างภาพแล้วก็กลับ ถ้าอย่างนั้นไม่เอา”
และในปีนี้ ทางกลุ่มได้ตระเวนสร้างบ้านไปแล้ว 3 หลัง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ในรัศมีไม่เกิน 300 กิโลเมตร ซึ่งนอกจากการสร้างที่อยู่อาศัยแล้ว ยังมีการช่วยเหลือผู้ยากไร้ ทั้งที่มีชีวิตและผู้วายชนม์
“มีที่กรุงเทพฯ 1 หลัง ลพบุรี 1 หลัง ฉะเชิงเทรา 1 หลัง แล้วก็มีการบูรณะเมรุ ทาสีเมรุที่ลพบุรีอีก 1 ที่ เราไม่ใช่แค่สร้างบ้านอย่างเดียว จะมีการบริจาคโลง ช่วยเหลือศพที่ยากไร้ ให้โลงฟรี เผาฟรี สวดฟรีให้ 1 คืน แม้แต่เปิดโรงทาน เลี้ยงอาหารเด็กเราก็ทำ ก็จะมีขอวีลแชร์หรือผู้ป่วยติดเตียงที่เขาไม่มีเตียง เราก็ไปหาตรงนี้ให้ บางครั้งมันอาจจะล่าช้าหน่อยตรงที่เราไม่มีงบในการซื้อเตียงมาสำรองไว้ เราจะใช้การแจ้งกันในกลุ่มว่าหาเตียงให้หน่อย ก็จะช่วยกันหาแล้วเตรียมการส่งมอบให้
แต่ขอให้อยู่ในรัศมี 300 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านหรืออะไรก็ตาม เพราะถ้าเกิดไกลมาก ด้วยค่าใช้จ่าย ด้วยระยะเวลา โดยเฉพาะการสร้างบ้าน ผมต้องสร้างกันให้เสร็จภายในศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เพราะมีงานประจำกัน จะทำกันทั้งวันทั้งคืน 24 ชั่วโมง ผลัดกัน ใครเหนื่อยก็พัก ตื่นมาก็ผลัดเปลี่ยนกันต่อ ใน 3 วันนี้ต้องเสร็จ”
สำหรับต้นทุนที่นำไปสร้างบ้านแต่ละหลังนั้น ตัวแทนกลุ่มมีเพราะให้ กล่าวว่า แม้จะมีการรับบริจาค แต่ก็เป็นการรับมาจากคนรู้จักที่มอบให้ต่อๆ กันมา ซึ่งทางกลุ่มรับหน้าที่เป็นสะพานบุญ แต่จะไม่มีการรับบริจาคตามสื่อสาธารณะ เพราะเขามองว่า เรื่องเงินเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและอาจจะทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตถึงความไม่โปร่งใสในการช่วยเหลือได้
“มีหลายๆ เคสที่เราเห็นกัน เมื่อไหร่ที่เงินเข้ามาเกี่ยวมันก็พังทั้งนั้น ถามว่าผมเปิดรับบริจาคมั้ย ผมเปิดนะ แต่ผมรับบริจาคกันเองกับคนรู้จัก ผมแค่ลงปุ๊บว่าจะมีสร้างบ้าน เขาจะติดต่อกันมาเองว่าใช้งบเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่ผมเปิดบริจาคเฉพาะบ้าน สมมติตีว่าบ้านหลังนี้ 40,000 ก็จะรับแค่นั้น ก่อนถึงวันที่จะเดินทางก็ปิด ได้แค่ไหนแค่นั้น ที่เหลือเราออกกันเอง แต่ถ้าเกิดได้ครบก่อนเราก็ปิด ให้เกินจากนี้ก็ไม่เอา
จะมีพี่อยู่คนหนึ่งเป็นเถ้าแก่โรงงานต่อโลงศพ แกจะคอยซัปพอร์ตตอนที่เงินไม่พอ หรือขาดเล็กๆ น้อยๆ บางคนขอช่วยอาหาร ให้ข้าวสาร หรือแม้แต่มีเจ๊ขายผักอยู่ปากคลอง เขาบอกให้มาเอาผักที่ร้านเขาเลย ส่วนค่าน้ำมัน ค่ากิน เดี๋ยวพวกเราออกกันเอง ลงแรงกันเอง แต่ละพื้นที่ที่เราไป ไปติดต่อซื้ออุปกรณ์ ทางร้านก็จะถามว่าไปทำอะไร เห็นแปลกหน้า เราก็จะเล่าให้เขาฟัง บางทีเขาลดราคาพิเศษให้ บางทีเขาช่วยส่วนหนึ่งให้
แต่มาเปิดเลขบัญชีส่วนตัวเป็นสาธารณะ ผมไม่ทำ เพราะมันดูเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ต่อให้เราโปร่งใส สามารถชี้แจงบัญชีได้ แต่ผมไม่อยากมาจุกจิกเรื่องที่ว่าคนมาจับผิด อย่างพวกผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก แต่เรื่องพวกนี้เราช่วยเต็มที่ เราก็ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาระแวง จนบางทีเราเหนื่อยจากการทำงานมากพอแล้ว ไม่ว่าจะส่วนตัวหรืองานที่เราช่วยเหลือสังคม เราต้องมาจุกจิกกับพวกนี้ บางทีมันก็เสียประสาทเหมือนกัน
ส่วนคนที่อยากบริจาคติดต่อที่เพจได้ครับ แต่ผมอยากให้ช่วยเป็นของหรือของกินดีกว่า หรือถ้าอยากจะช่วยบ้านจริงๆ ก็ลงเป็นสลิปแปะในเพจเลยว่าช่วยเท่านี้ ผมก็จะลงให้ดูเลยว่าบัญชีนี้เข้ามานะ หรือถ้าคุณมีงบ มีเคสที่ต้องการความช่วยเหลือ แจ้งเรามาได้ หรือใครที่มีงบอยู่แล้วต้องการให้ทีมงานไปสร้าง ถ้าจะไปสร้างที่ไหนให้บอก แบบนี้ก็ได้ครับ เรายินดีไปสร้างให้”
“จะทำจนกว่าพวกผมจะไม่ไหว”
แม้จะเป็นการสร้างแบบให้ผู้ยากไร้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่ทางกลุ่มเองก็ได้กำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในการเลือกแต่ละเคสไว้ด้วย เพื่อที่การทำงานจะได้เป็นไปด้วยความราบรื่นทั้งผู้รับและผู้ให้
“ส่วนใหญ่จะมีคนส่งเรื่องเข้ามาแต่ไม่สามารถทำได้ทุกเคส หลักๆ เราต้องดูว่าที่ตรงนั้นเป็นที่ของใคร ถ้าที่ของเขาเองก็ทำได้ หรือเป็นที่ของราชการ ก็ต้องมีคนเดินเรื่องให้ เพราะถ้าเกิดเราไม่เช็กตรงนี้ ทีมงานเราจะเดือดร้อนแทน ตรงที่ว่าจะโดนเรื่องบุกรุก ส่วนการสร้างบ้านเราใช้จากประสบการณ์ บางคนก็พอมีความรู้เรื่องช่างบ้าง แต่ในทีมงานไม่มีใครเป็นช่างนะครับ
อย่างที่ 2 ไม่มีการรับบริจาคแบบพร่ำเพรื่อมาก่อน ถ้าเคสไหนรับบริจาคเยอะๆ ผมตัดเลย เพราะว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือคน ถ้ามีตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ถึงแม้เราจะไม่ยุ่งแต่เราเข้าไปอยู่ในส่วนนั้น โอกาสที่เราจะโดนโจมตีมันเยอะ เราก็จะไม่ทำ แล้วก็จะมีการเช็กเคสกันก่อน ผมจะต้องลงพื้นที่ไปเองก่อน ต่อให้มีการส่งเคสมาแค่ไหนก็ตาม ผมจะต้องไปตรวจก่อนแล้วถึงจะตัดสินใจได้”
นอกจากนี้ หนุ่มโน้ต ยังได้เล่าถึงเคสประทับใจ เมื่อครั้งไปช่วยเหลือ 3 พี่น้องกำพร้าใน จ.ฉะเชิงเทรา เพราะไม่เพียงแค่การสร้างบ้านให้เท่านั้น แต่คือการสร้างแรงกระเพื่อมไปยังภาคส่วนต่างๆ ถึงระดับจังหวัดให้เข้ามาดูแลครอบครัวนี้อีกด้วย
“เคสล่าสุดที่ฉะเชิงเทรา เป็นเด็กกำพร้า 3 คน แม่เด็กหนีไปมีครอบครัวใหม่ พ่อเด็กติดยา ขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครช่วย ก่อนที่พ่อเด็กจะเสียเขาเป็นมะเร็ง ได้เขียนจดหมายสั่งลาไว้ว่าฝากลูก 3 คนนี้ด้วย บ้านหลังนี้ตอนที่เราไปดูมีอยู่ครึ่งหลังที่ไม้ดูแล้วยังดี เราแจ้งกันในกลุ่มแต่แรกว่า 35,000 แล้วมีผู้ใหญ่ใจดีที่ผมนับถือคนหนึ่ง เขาถามมาว่าเท่าไหร่แล้วก็ให้เงินมา แต่พอเรารื้อปุ๊บมันโทรมทั้งหลัง แม้แต่เสาบ้าน ไม่มีการยึดติดกับดิน ถ้าหักต้นหนึ่งก็คือไปทั้งหลัง
กลายเป็นว่าต้องทำให้ทั้งหลัง งบที่จะสร้างเพิ่มขึ้นเยอะ โดยที่ไม่รู้ว่าจะเพิ่มไปขนาดไหน เราก็ทำเรื่อยๆ จนได้เป็นรูปเป็นร่าง เบ็ดเสร็จหมดไปประมาณ 65,000 ผู้ใหญ่ถามว่ามัน 35,000 จริงเหรอ มันกลายเป็นเหมือนบ้านรีสอร์ตเลย ผมเลยอธิบายไปว่าต้องทำทั้งหลัง เขาเลยโอนเงินให้มาอีก 15,000 แล้วบอกว่าอีกหมื่นก็ระดมเงินกันเองนะ ทางเราก็ยินดี
แล้วน้องๆ ทั้ง 3 ตลอดเวลาที่เราทำ จะมีน้องผู้ชายชื่อน้องโข่ง เดินดูเราทำยันตี 2 ช่วยหยิบช่วยจับ จนถึงวันที่เราส่งมอบบ้าน น้องเขาร้องไห้ ดีใจ มันเป็นอะไรที่แบบ... กำลังใจทีมงานเราแล้ว แค่นี้ครับ ไม่ต้องมาไหว้ขอบคุณหรือเอาของมาให้ แค่เห็นน้องๆ เขาดีใจที่ได้บ้านหลังใหม่อย่างที่น้องเขาฝัน เราก็ดีใจแล้ว และตลอดเวลาที่ทำ ทางผู้ใหญ่บ้าน ทางภาคประชาชนที่เห็นตามเพจ เขาก็จะเอาเครื่องดื่มมาให้ เอาอาหารมาให้ มีมาช่วยเหลือตลอด
แต่เคสนี้กลุ่มผมก็โดนโจมตีมานะ เหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีใครช่วย พอทีมงานลงปุ๊บ นักการเมืองท้องถิ่นมองว่าผมเป็นเครื่องมือของผู้ใหญ่บ้าน ทางสังคมฯ จากที่บอกว่าช่วยเหลือเด็กไม่ได้ กลับกลายมาเป็นว่าให้เงินเดือนเด็ก 2,000 บาทจนกว่าอายุครบ 18 ปี ตอนแรกเรื่องถูกส่งเข้าผู้ว่าราชการจังหวัด แต่โดนตีกลับเพราะบอกว่าไม่มีงบ พอทางทีมงานไปช่วยกลายเป็นว่าทางโน้นดิ้นมา มันอาฟเตอร์ช็อกมาก ผมเลยประทับใจ ผมและทีมงานเพื่อมาช่วยน้องเท่านั้น เรื่องอื่นพวกคุณจัดการกันเอง”
สุดท้าย ตัวแทนกลุ่มจิตอาสา ยอมรับว่า สิ่งที่ทำนั่นสร้างภาพ แต่เป็นภาพที่อยากให้ทุกคนได้เอาไปทำตาม และจะช่วยเหลือคนยากไร้แบบนี้ไปจนกว่าจะทำไม่ไหว
“บางคนแจ้งมาว่า “สร้างภาพใช่มั้ย” ผมบอกใช่... ผมสร้างภาพ พวกคุณเอาไปทำตามกันสิ มาสร้างภาพแบบผม มาช่วยกัน ผมว่าถ้ามีหลายๆ กลุ่ม คนพวกนี้ได้รับความช่วยเหลือทั่วถึงโดยที่ไม่ต้องรอหน่วยงานรัฐด้วย ไม่ต้องมาเมนต์ว่า รวยแล้วทำไมไม่ช่วยตรงนี้บ้าง ผมเชื่อว่าคนมีเงินเขาช่วย แต่เขาจะช่วยในแบบไหนก็เรื่องของเขา มันอยู่ที่ตัวเราดีกว่า เราช่วยรึยัง ทุกวันนี้ทีมผมก็คนหาเช้ากินค่ำ แต่พวกผมลงมือช่วยแล้ว ใครที่มองว่าสร้างภาพคุณมาช่วยกันสร้างภาพสิ
ทำจนกว่าจะไม่มีใครสานต่อจากพวกผม ทุกวันนี้เวลาไปบางคนก็เอาลูกไป ให้เขาซึมซับ เพราะผมหวังว่าวันหนึ่ง ไม่มากก็น้อยเขาอยากจะช่วยตรงนี้ เหมือนที่ผมทำกันอยู่ ตราบใดที่ผมยังไม่เป็นอะไร ผมจะไม่มีทางปิดกลุ่มเด็ดขาด เคยคุยกับพี่อีกคนที่ทำกับผมว่า ต่อให้เหลือแค่เรา 2 คนก็จะทำ เพราะผมเชื่อมั่นว่า ถ้าผมลงเคสว่าจะมีไปสร้างบ้าน แล้วขอความร่วมมือ ผมว่าคนรอบข้างมีคนให้ความช่วยเหลือพวกผมแน่นอน ผมจะทำจนกว่าพวกผมจะไม่ไหว
เพราะการช่วยเหลือคนพวกนี้ ผมเห็นรอยยิ้ม เห็นความสุข เห็นน้ำตาที่ไม่ได้เสียใจ เขาดีใจในสิ่งที่ไม่คิดว่าเขาจะได้ ผมว่ามันยิ่งใหญ่สุดแล้ว ทั้งที่ตัวผมก็ไม่มีบ้านนะ ผมก็เช่าห้องอยู่ แล้วพวกผมก็ไม่ได้รวยกันด้วย ผมทำคนเดียวไม่ได้ เราถึงต้องทำกันเป็นทีม มีอะไรเรารับฟังความคิดเห็นทุกคน แล้วปรับให้มันดีที่สุด แค่นี้ทีมงานเราโอเคแล้ว
ผมก็ขอบคุณมากๆ สำหรับคนที่ให้กำลังใจ ที่ชื่นชมมา ที่เราช่วยใช่ เล็กน้อย แต่ถ้าเรารวมกันเป็นกลุ่ม มันจะยิ่งใหญ่ มันไม่เล็กน้อยสำหรับครอบครัวที่ยากไร้ คุณช่วยไปเถอะ อย่าไปมองผลประโยชน์แค่ไม่กี่บาท มาทำชีวิตคุณ มาทำให้คนมองคุณเสียหาย คุณช่วยเขาด้วยใจ อย่างกลุ่มผมคำว่ามีเพราะให้ เพราะพวกผมให้ ผมถึงมีกันทุกวันนี้ พวกผมไม่เคยอด ไม่เคยจน เพราะคำเดียวคือมีเพราะให้ แค่นั้นเองครับ ผมอาจจะช่วยได้ไม่ทุกเคส แต่เคสไหนที่ช่วยผมว่าชีวิตเขาดีขึ้น”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : แฟนเพจ “มีเพราะให้”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **