xs
xsm
sm
md
lg

อ้างสิทธิตาม​ กม.! ตร.พนมสารคามให้มือยิงสาววัย 27 ดับขณะโดยสารบนรถตู้ได้ประกันตัว​

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฉะเชิงเทรา​ -​ อ้างสิทธิ​ตาม​กม.​! มือยิงสาวบุรีรัมย์วัย 27 ปี ดับขณะโดยสารบนรถตู้สาธารณะ​ได้ประกันตัวหลังญาติใช้หลักทรัพย์​ 5​ แสน​ย่องเงียบยื่นประกันเพื่อขอสู้คดีในชั้นศาล​ ขณะที่​ พงส.สภ.พนมสารคาม​ ยันไม่มีพฤติกรรมหลบหนี 

จากกรณีที่มีหญิงสาวเคราะห์ร้ายถูกกระสุนปืนปริศนายิงเข้าที่บริเวณชายโครงขวาจนได้รับบาดเจ็บขณะโดยสารมากับรถตู้โดยสารสาธารณะสายบุรีรัมย์-กรุงเทพฯ พร้อมสามี เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะรถกำลังวิ่งมาบนถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ก่อนถึงสี่แยกสัญญาณไฟจราจร อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ทราบชื่อหญิงเคราะห์ร้ายคือ น.ส.อริสา ปราบภัย อายุ 27 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลพนมสารคาม

และในช่วงเย็นวันเดียวกัน นายศุภชัย นวนทอง อายุ 42 ปี ชาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมสารคาม โดยอ้างว่าใช้อาวุธปืนไล่ยิงกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นคู่อริของบุตรชาย แต่กระสุนพลาดไปถูกรถยนต์ตู้โดยสารที่ขับผ่านมาบนถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี​ จนทำให้หญิงสาววัย 27 ปีเสียชีวิต

โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนเป็นผู้พาเข้ามอบตัว​ ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ​ต้องยกเลิกการทำแผนแบบกะทันหัน​ เพราะเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์​นั้น

ล่าสุด วันนี้​ (10​ ธ.ค.)​ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ไหมงำ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่า ญาติของผู้ต้องหาได้นำหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 5 แสนบาท ยื่นขอประกันเพื่อให้ปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (9 ธ.ค.) แล้ว หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหากลับจากกองกำกับการพิสูจน์หลักฐานจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถขอประกันตัวได้ตามกฎหมาย และเมื่อพิจารณาดูแล้วไม่พบว่าผู้ต้องหานั้นจะมีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี

"เนื่องจากเป็นการเข้ามามอบตัวด้วยตนเอง อีกทั้งยังไม่น่าจะเข้าไปข่มขู่ผู้เสียหาย หรือยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานทางคดี และผู้ต้องหาไม่ได้ตั้งใจยิงให้ไปถูกผู้เสียชีวิตที่นั่งรถตู้โดยสารมา​ ขณะที่การดำเนินคดีได้มีการสอบสวนปากคำเรียบร้อยแล้ว และได้นำตัวไปเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ (ดีเอ็นเอ) จนแล้วเสร็จ จึงได้พิจารณาไปตามหลักของกฎหมาย" พ.ต.ท.สุรพิสิฐ กล่าว












กำลังโหลดความคิดเห็น