ฉะเชิงเทรา - มอบตัวแล้ว! มือยิงสาววัย 27 ดับขณะโดยสารรถตู้สาธารณะสายบุรีรัมย์-กรุงเทพฯ ผ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พบเป็นชายวัย 42 ปี อ้างใช้อาวุธปืนไล่ยิงกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายหลานชาย โดยไม่คิดจะมีคนตาย ด้าน ตร.ตั้งข้อหาหนัก
จากกรณีที่มีหญิงสาวเคราะห์ร้ายถูกกระสุนปืนปริศนายิงเข้าที่บริเวณชายโครงขวาจนได้รับบาดเจ็บขณะโดยสารมากับรถตู้โดยสารสาธารณะสายบุรีรัมย์-กรุงเทพฯ พร้อมสามี เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะรถกำลังวิ่งมาบนถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ก่อนถึงสี่แยกสัญญาณไฟจราจร อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ทราบชื่อหญิงเคราะห์ร้ายคือ น.ส.อริสา ปราบภัย อายุ 27 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลพนมสารคาม
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 ธ.ค.) นายศุภชัย นวนทอง อายุ 42 ปี ชาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมสารคาม หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ไล่ยิงกลุ่มวัยรุ่นจนกระสุนพลาดไปถูกรถตู้โดยสารที่ขับผ่านมา จนทำให้หญิงสาววัย 27 ปีเสียชีวิต โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนเป็นผู้พาเข้ามอบตัว
และมี พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รอง ผบก.ภ.จว.ฉช. พ.ต.อ.สุพล แสงทอง ผกก.สภ.พนมสารคาม พ.ต.ท.สมจิตร หมูรอด รอง ผกก.สืบสวน และ พ.ต.ท.การกฤศ กาญจนสุวรรณ สวป.สภ.พนมสารคาม รอรับมอบตัวผู้ต้องหา
โดย นายศุภชัย ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนไล่ยิงกลุ่มวัยรุ่นบนเส้นทางสายบ้านสร้าง-พนมสารคาม บริเวณก่อนถึงปากทางเข้าตลาดศูนย์การค้าศิริพนม เนื่องจากช่วงค่ำวันเกิดเหตุ ขณะที่กำลังนั่งดื่มสุรากับเพื่อนอยู่ที่บ้านพัก ได้รับโทรศัพท์จากหลานชายว่า ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมไล่ฟัน จึงคว้าอาวุธปืนขนาด 11 มม. ยี่ห้อโคลท์ไม่มีทะเบียน ที่ซื้อต่อจากเพื่อนสนิทในราคา 2 หมื่นบาท ออกมาไล่ยิงกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
และยังอ้างว่าไม่ทราบว่ากระสุนที่ได้ยิงออกไปจะถูกคนอื่นเสียชีวิต ซึ่งหลังทราบข่าวก็ได้ติดต่อให้ผู้นำชุมชนพาเข้ามามอบตัวดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจยิงเพื่อฆ่าใคร
ด้าน พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า "ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ยิงอาวุธปืนในที่สาธารณะจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย"
โดยเจ้าหน้าที่สามารถเก็บปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. จากบริเวณถนนที่เกิดเหตุมาได้จำนวน 5 ปลอก และมีกระสุนคาอยู่ในรังเพลิง 1 นัด
นอกจากนั้น ยังได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์และเสื้อผ้าของผู้ต้องหาที่ใช้ในวันก่อเหตุ ส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บคราบลายนิ้วมือบนอาวุธปืนเพื่อเป็นหลักฐาน
