นึกว่าไฟไหม้!กองเชียร์ไทยฮาร์ดคอร์จุดพลุแฟลร์แดงสว่างวาบราวกับเกิดเพลิงไหม้บนอัฒจันทร์ในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ระหว่าง นัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016 ไทยพบอิเหนา บางคนบอกว่าเคยชื่นชมคนกลุ่มนี้ ว่าเป็นกองเชียร์ที่เข้มแข็ง แต่มาวันนี้ ทำร้ายประเทศไทยหนักมาก! หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงมาตรการความปลอดภัย ว่าคนเหล่านี้สามารถนำพลุเข้าไปในสนามได้ยังไง เพราะสมาพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (AFC) แจ้งกฎเหล็กห้ามจุดพลุแฟลร์ทั้งในและนอกสนามเด็ดขาด แต่คราวนี้มาเต็มจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ! ส่อถูกปรับหลักล้าน แบนสนามในศึกคัดบอลโลก 2018
โดนถล่มยับ! R.I.P อัลตราไทยแลนด์
โลกโซเชียลฯ ร้อนระอุแสบตา! กับนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016 นัดสอง ไทย พบ อินโดนีเซีย ในวันที่ 17 ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา หลังจากที่ สิโรจน์ ฉัตรทอง ทำประตูส่งผลให้ไทยขึ้นนำ 1- 0 แฟนบอลทั่วสนามก็เห็นแสงสีแดงลุกโชนบริเวณอัฒจันทร์ฝั่งใต้ ทั้งที่มีการประกาศขอความร่วมมือหลายรอบแล้ว กองเชียร์กลุ่มนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจากการกระทำสุดห่ามเช่นนี้ทำให้แฟนบอลไทยส่วนใหญ่ต่างไม่พอใจ โพสต์ภาพ ข้อความ อัดคลิปตำหนิกองเชียร์กลุ่มนี้รัวเป็นชุด ว่าเป็นพวกเรียกร้องความสนใจ อีกทั้งยังทำตัวเหมือน “ขยะสังคม” สร้างความเสื่อมเสียให้แฟนบอลชาวไทยทั้งประเทศ
ทั้งที่สมาพันธ์ฟุตบอลอาเซียน(AFC หรือ The Asian Football Confederation) สั่งห้ามจุดพลุไฟบนอัฒจันทร์เพราะกลัวอันตราย อาจเกิดเพลิงไหม้ หนำซ้ำยังเป็นเรื่องของสุขภาพ สารเคมี ควัน ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบกับบุคคลรอบข้าง และไม่ใช่จะจุดพลุแฟลร์ในสนามอย่างเดียวก่อนหน้านี้ก็มีกองเชียร์กลุ่มดังกล่าวได้ยิงพลุจากด้านนอกสนามเข้ามาในสนามแล้วอีกด้วย
กองเชียร์กลุ่มนี้มีผ้าระบุชื่อกลุ่มว่า Ultras Thailand มีการใช้ผ้าปกปิดหน้าตา และแม้จะว่ามีการประกาศเตือนในสนาม แต่ว่ากลุ่มดังกล่าวก็ยังจุดพลุต่อไป จนถึงช่วงรับมอบถ้วยแชมป์ไทยชนะอินโดนีเซียไป 2-0 ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก Ultras Thailand ได้โพสต์ภาพที่มีการจุดพลุ พร้อมข้อความ "Thailand Champions!! Ultras Thailand Unity and Passion" ทำให้ชาวโซเชียลฯ เข้าไปแสดงความคิดเห็นตำหนิการกระทำของ Ultras Thailand มากมายว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมีกฎห้ามนำพลุแฟลร์เข้าสนาม และบริเวณโดยรอบ เพื่อที่จะให้สอดคล้องกับกฎของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) ที่สั่งห้ามเด็ดขาด ในปี 2014 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ก็เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ ตอนนั้นทาง AFC ตัดสินลงโทษสมาคมฟุตบอลด้วยการปรับเงิน 11,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 370,000 บาท และเตือนว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก จะต้องได้รับโทษที่รุนแรง
ทว่า ช่วงต้นปี สโมสรเอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด ก็ถูกทาง AFC ลงโทษเช่นกัน เพราะแฟนบอลก่อเหตุจุดพลุไฟลักษณะแบบนี้ โดนปรับเป็นเงินประมาณ 178,000 บาท
เครียด! ส.บอลไทยโดนปรับหลักล้าน!
ข่าวไม่ค่อยดี! คาดไทยถูกปรับหลักล้านแน่นอน จากเหตุการณ์แฟนบอลไทยจุดพลุแฟลร์ นอกจากนี้ อาจลุกลามบานปลายถึงขั้นถูกแบนสนามในศึกคัดบอลโลก 2018
พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาฯ และโฆษกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันสมาคมกีฬาฟุตบอลไทย จะต้องถูกลงโทษปรับหลักล้านบาทแน่นอน แต่สมาคมกีฬาฟุตบอลจะทำเรื่องชี้แจงไปยังสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (AFF) ถึงมาตรการป้องกันที่ได้วางเอาไว้
“สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืน สมาคมฯ จะต้องทำการชี้แจงเพื่อให้การถูกลงโทษผ่อนหนักเป็นเบา ซึ่งเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ไประงับเหตุจุดพลุแฟลร์ภายใน 4 นาที นอกจากนี้ ยังมีเหตุโยนพลุแฟลร์ลงไปในสนามก่อนเกมเริ่มด้วย ทำให้โทษของเราหนักขึ้น แต่ยังสามารถทำการแข่งขันต่อได้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะถูกปรับหลักล้านแน่นอน”
“ทั้งนี้ ยังถือว่าเหตุการณ์ไม่รุนแรงเหมือนกับกรณีของมาเลเซีย ที่ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ตัดสินให้เป็นฝ่ายแพ้ซาอุดีอาระเบีย 0-3 แบบอัตโนมัติ ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 ที่แฟนบอลเจ้าถิ่นสร้างความวุ่นวายในนาทีที่ 87 ด้วยการโยนพลุไฟลงมาในสนาม ในตอนที่ทีมเยือนนำอยู่ 2-1 โดยมันทำให้เกิดเขม่าควันเต็มไปหมด จนกรรมการมองว่าไม่สามารถทำการแข่งขันต่อได้ และสมาคมฟุตบอลมาเลเซีย ยังโดนปรับเงินอีก 40,000 ฟรังก์สวิส (ประมาณ 1.48 ล้านบาท) พร้อมห้ามแฟนบอลเข้าชมเกม นัดถัดมาที่ต้องเจอกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกด้วย” อดีตผู้จัดการ ฝ่ายวางแผนและพัฒนาธุรกิจสโมสรชลบุรี เอฟซี กล่าว
ทีมชาติไทยมีคิวแข่งขันรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 ในวันที่ 23 มีนาคม 2560 เปิดบ้านพบ ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย, 28 มีนาคม ออกไปเยือน ทีมชาติญี่ปุ่น, 13 มิถุนายน เปิดบ้านพบ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 31 สิงหาคม เปิดบ้านพบ ทีมชาติอิรัก และ 5 กันยายน ออกไปเยือนทีมชาติออสเตรเลีย
ล่าสุด สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ประณามการกระทำของคนบางกลุ่มที่จุดพลุแฟลร์
ตามที่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มได้กระทำการจุดพลุแฟลร์ ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2016 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559 จนทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเป็นการกระทำที่ผิดกฎข้อห้ามของฝ่ายจัดการแข่งขัน
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอประณามการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าว ที่กระทำการทั้งๆ ที่ทราบกฎระเบียบข้อห้าม และกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ตัดสินปรับขั้นต้น 20,000 สวิตฟรัง หรือ ประมาณ 700,000 บาท และอาจถูกลงโทษห้ามจัดการแข่งขันในเกมเหย้า ห้ามแฟนบอลเข้าชมการแข่งขันในสนาม หรือถูกสั่งให้จัดการแข่งขันในสนามประเทศเป็นกลางแทน
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลกีฬาแห่งประเทศไทยฯ ได้ประสานขอความช่วยเหลือ ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รวมถึง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก และผู้เกี่ยวข้อง เร่งรัดติดตามสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอความร่วมมือแฟนบอลหรือประชาชนทั่วไป ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว หรือทราบเบาะแส มีข้อมูลของผู้กระทำความผิด สามารถส่งข้อมูลมาได้ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อาคารพงษ์สุภี ชั้น 3 เลขที่ 19 ซอยยาสูบ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900 โทรศัพท์ : 02-272-2250 อีเมล์ : info@fathailand.org หรือ สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจหัวหมาก
วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ไม่น่ารอด! เอาผิดแก๊งกองเชียร์จุดพลุ
ตำรวจเตรียมออกหมายเรียก ยืนยันจะดำเนินการกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่อยู่ในกลุ่มกองเชียร์กลุ่มนี้แน่นอน และอาจเอาผิดถึงแกนนำของกลุ่มดังกล่าวด้วย เพราะทำให้เสียภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลและประเทศชาติ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.สั่งการให้ พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก เร่งสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดกับผู้ที่จุดพลุแฟลร์
จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มกองเชียร์ดังกล่าวแอบซ่อนอุปกรณ์เชียร์เข้าไปในสนามและเมื่อถึงช่วง การแข่งขันก็นำขึ้นมาจุด โดยวัตถุประสงค์ของกลุ่มยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า เป็นการจงใจทำลายภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของสมาคมฟุตบอลไทยหรือไม่ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าว มีปัญหาในระหว่างการเชียร์กับทีมต่างๆ ทั้งใน และต่างประเทศบ่อยครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการข่าวอยู่ก่อนแล้ว ว่าจะมีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น จึงมีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและสายสืบ เข้าไปในกลุ่มกองเชียร์ดังกล่าว แต่ทางกลุ่มไม่ยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มของตัวเองเข้าไปร่วมเชียร์ จึงให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใน และนอกสนาม เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งภาพถ่ายคลิปวิดีโอ รวมถึงข้อมูลต่างๆในโลกโซเชียลฯ ที่มีการโพสต์ก่อนการแข่งขันไว้เป็นพยานหลักฐานแล้ว ซึ่งผู้ก่อเหตุบางคนมีการใช้ผ้าปกปิดหน้าตา เพื่อหลบเลี่ยง การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ หากระบุได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครก็จะออกหมายเรียกมาให้การกับทางเจ้าหน้าที่ต่อไป
นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งรัฐเป็นผู้เสียหายแต่หากประชาชนคนใดที่ได้รับความเดือดร้อน จากการกระทำของกลุ่มกองเชียร์ดังกล่าวก็สามารถเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดกับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ ทั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.พลุดอกไม้ไฟ และประกาศของ คสช. ข้อใดหรือไม่
อันตราย! เสี่ยงมะเร็งกระดูก
อย่างไรก็ดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้ชื่อว่า golfmmtc24 เคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับพลุแฟลร์ ที่แฟนบอลนิยมนำมาจุดกันในสนามฟุตบอลว่า พลุที่นำมาจุดกันในสนามบอลเป็นของคุณภาพต่ำและน่าจะหมดอายุแล้ว
พลุสัญญาณขอความช่วยเหลือ Red Hand Flare หรือ ที่เรียกว่า พลุสัญญาณส่องสว่างสีแดง แบบถือด้วยมือ เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตในเรือที่กำหนดให้เรือทุกลำต้องมี
พลุถือสีแดง เป็นสินค้าที่มีวันหมดอายุ โดยทั่วไป พอพลุสัญญาณ ผลิตออกมา จากโรงงานที่ต่างประเทศ วันหมดอายุของ Red Hand Flare ก็จะเริ่มเดินทันที กว่าจะผ่านพิธีการศุลกากร และขออนุญาตจากกระทรวงกลาโหม ก็กินเวลาหลายเดือน ดังนั้น ตัวที่พึ่งนำเข้ามาใหม่ ๆ ก็จะมีระยะเวลาเหลือไม่เต็ม 3 ปี ข้อควรระวัง ห้ามเล็งใส่คน เก็บให้พ้นจากมือเด็ก เก็บให้พ้นจากเปลวไฟ หรือ ประกายไฟ เมื่อหมดอายุ ต้องส่งคืนให้ผู้จำหน่าย หรือ ผู้บริการแพช่วยชีวิต เพื่อนำไปทำลาย
ผมมั่นใจว่าที่เอามาจุดกันในสนามบอลเป็นของคุณภาพต่ำและน่าจะหมดอายุแล้ว เพราะของคุณภาพดีราคาขายในตลาดทางเรือราคาร่วมพันบาท มันก็เหมือนถือระเบิดอยู่ในมือดีๆนี่เอง แรกๆผมก็ชอบนะ มันดูสร้างสีสันดี แต่พอลองคิดดูดีๆแล้วผมว่ามันทำร้ายคนอื่นนะ ไม่ได้มีแต่พวกคุณที่อยู่ในสนามเท่านั้น เลิกเสียเถิดครับ
ล่าสุด รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือรู้จักกันในนาม "อาจารย์อ๊อด" อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Weerachai Phutdhawong ให้ความรู้ถึงอันตรายของพลุแฟลร์
"การเผาไหม้ (Combustion) เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในระบบที่มีการเปลี่ยนแปลง ทางปฏิกิริยาเคมี การเผาไหม้ เกิดจากปฏิกิริยาการรวมตัวกันของเชื้อเพลิงกับออกซิเจนอย่างรวดเร็ว พร้อมเกิดการลุกไหม้ และคายความร้อน ดังสมการต่อไปนี้ เชื้อเพลิง + อากาศ ----> คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ + น้ำ(กรณีเผาไหม้สมบูรณ์) + ความร้อน
แสงสีแดง เกิดจากการผสมธาตุสตรอนเตียม (Strontium) ในเชื้อเพลิงนะครับ ธาตุนี้จะใช้คำย่อว่า Sr มีเลขอะตอม (atomic number) = 38 นะครับ เป็นกลุ่มโลหะ alkaline earth ธาตุนี้ เป็นโลหะสีเงินออกขาว บางครั้งเห็นเป็นเหลืองอ่อน เป็นโลหะที่อ่อนนุ่ม และว่องไวต่อการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีสูง
น้องคนที่จุดครับ นอกจากท่านจะทดสอบปฏิกิริยาเคมีของสารกลุ่ม Strontium ในพลุสีแดงแล้ว ท่านยังรบกวนระบบทางเดินหายใจของพี่น้องฝั่งนั้นทั้งแถบ หากมีใครแพ้อย่างรุนแรง ท่านจะทำอย่างไร ว่างๆ จุดในห้องท่านนะ ปิดหน้าต่างด้วย เอาให้เต็มอิ่มเต็มปอด และขอให้รอดจากความเสี่ยงมะเร็งในกระดูก หรือไม่ก็สำลักควันสาหัส!
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
