MGR Online - ผบช.น. เผย เตรียมออกหมายจับเพิ่มผู้ต้องหาจุดพลุแฟลร์ ในการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ ไทย -อินโดนีเซีย
จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ (AFF Suzuki Cup) ระหว่าง ทีมชาติไทย และ ทีมชาติอินโดนีเซีย มีกลุ่มกองเชียร์ที่ใช้ชื่อว่า อุลตร้า ไทยแลนด์ (Ultras Thailand) ได้ทำการจุดพลุไฟ (แฟลร์) สีแดง จนเกิดควันและประกายไฟ ก่อความรำคาญให้กับผู้ร่วมเชียร์ รวมทั้งในโลกออนไลน์ยังมีการโจมตีเรื่องนี้อย่างหนัก จนหลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าทีมชาติไทยอาจถูกการลงโทษจากคณะกรรมการฟีฟา (FIFA) ได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา แฟนบอลกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ จำนวน 3 ราย เข้าให้ปากคำกับ รอง ผกก.สส.สน.หัวหมาก ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ แต่ปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นคนจุดพลุแฟลร์ระหว่างการแข่งขัน ซึ่งในขณะนี้สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 4 ราย ประกอบด้วยคนขายพลุ 1 คน แกนนำ 1 คน และคนจุดพลุอีก 2 คน ทั้งนี้ ได้มีการออกหมายจับรวมทั้งสิ้น 12 คน และหมายเรียก 14 หมาย และอาจจะมีการออกเพิ่ม อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเร่งรัดดำเนินการ ส่วนแกนนำที่เหลือทางเจ้าหน้าที่กำลังประสานตัวเชื่อว่าเรื่องนี้ใช้เวลาอีกไม่นาน
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า กรณีนายประพจน์ โพธิ์ปาน แกนนำกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ที่ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) จากการสอบสวนให้การภาคเสธ รับว่าอยู่จริง เป็นแกนนำในการเชียร์จริง แต่ไม่ได้มีส่วนในการจุดพลุดังกล่าว ส่วนจะเข้าข่ายวางเพลิงหรือไม่นั้น ต้องดูข้อเท็จจริงนำมาประกอบให้ครบถ้วน แต่เบื้องต้นที่ดูก็น่าจะเข้าข่าย แต่เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมยืนยันว่า บุคคลเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากร แต่มันเสียภาพลักษณ์ประเทศไทย จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ ส่วนตัวก็ได้ขอร้องว่า ไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้หรือไม่ ทางกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ ก็ยืนยันว่าจะไม่มีเกิดขึ้นอีกแน่นอน