xs
xsm
sm
md
lg

“เบเบ้” เทใจให้เมืองในฝัน วางแผนเที่ยวตะลุยวิถี "ชาวเชียงใหม่" ชาร์จพลังรัก!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สโลว์ไลฟ์ก็ได้ ลุยแหลกก็มี... ถ้าให้เลือกเมืองท่องเที่ยวในฝันขึ้นมาสักแห่งหนึ่ง “เชียงใหม่” คือตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่สาวมากพลังอย่าง “เบเบ้” อยากลองเดินทางไปเสพบรรยากาศที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองดู ยิ่งถ้าได้ไปเป็น “คู่” ยิ่งจะช่วยเติมพลังรัก-พลังความเข้าใจในมุมใหม่ๆ ที่หาไม่ได้จนกว่าจะเก็บของ ยัดใส่กระเป๋า แล้วออกเดินทาง!!


 

ฝันไว้ก่อน แล้วเจอกัน!!

[สวนสัตว์ สถานที่ท่องเที่ยวในฝันอันดับแรกที่เบเบ้นึกถึง]
“ที่รู้คืออยากไป ‘เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี’ ค่ะ (ยิ้มแววตาสดใส) ปกติถ้าไปสวนสัตว์ทั่วๆ ไป เราได้ไปดูสัตว์ แต่จะเห็นเขาผ่านกรง ถูกขังอยู่ในกรง หรือไม่ก็เป็นสัตว์ที่เขาจัดแสดง ส่วนใหญ่เขาจะชินมือ-ชินคนแล้ว เลยอยากไปสวนสัตว์ที่สร้างขึ้นมาให้เขาอยู่แบบธรรมชาติจริงๆ
 
เหมือนเราไปแอบดูบ้านเขา อยากเห็นว่าเขาใช้ชีวิตยังไง อยู่กันเป็นฝูงหรืออยู่แยกกัน ตัวผู้ตัวเมียจะต้องอยู่ด้วยกันไหม อยากไปดูเขาอยู่ในบ้านเขา โดยที่ไม่ต้องจับแยกออกมาเพื่อให้เราไปดูเป็นตัวๆ ไป
 
ถ้าเป็นที่เชียงใหม่ เบอยากไปที่นี่แหละค่ะอันดับแรกๆ เลย แล้วก็อยากไป 'สวนสัตว์เชียงใหม่' ด้วยค่ะ อยากไปเห็นแพนด้าตัวจริง ปกติเคยเห็นแต่ในคลิปที่เขาขนปุยๆ ตัวกลมๆ ชอบหกล้มบ่อยๆ อยากเห็นตัวจริงว่าเขาเป็นยังไง จะเหมือนที่เคยเห็นผ่านทีวีหรือเปล่า?”

[“แพนด้า” เมืองสยาม รออยู่ที่ “สวนสัตว์เชียงใหม่” | ภาพ: ททท.]
 
เพราะเติบโตมากับสารคดีช่องดิสคัฟเวอรี นั่งดูชีวิตสัตว์โลกเป็นเพื่อนคุณพ่อจนผูกพันกับสิ่งเหล่านี้มาหลายปี สวนสัตว์จึงเป็นอีกสถานที่โปรดในวันที่ “เบเบ้-ธันย์ชนก ฤทธินาคา” ต้องการโอบกอดเพื่อนร่วมโลกต่างสปีชีส์ โดยเฉพาะสวนสัตว์ยามค่ำคืนชื่อดังอันเลื่องชื่อของเชียงใหม่

“ยิ่งถ้าได้ไปช่วงหน้าหนาวของทางเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่ เบว่าคงฟินมากๆ เลย (พูดไปยิ้มไป) พออากาศหนาว ดอกไม้ก็จะสวยด้วย น่าจะมีดอกไม้สวยๆ ที่เราจะได้เห็นเฉพาะที่เมืองหนาวเท่านั้น

ว่าแล้ว สาวใสผู้รักการท่องเที่ยววัย 29 รายนี้ ก็พูดถึงแลนด์มาร์กอีกแห่งที่ปักหมุดเอาไว้ในใจ เอ่ยถึงชื่อ “สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน” ขึ้นมาด้วยแววตาเป็นประกาย เมื่อนึกถึงภาพฝันสีหวานจากความสวยงามของ “ต้นนางพญาเสือโคร่ง” หรือที่ใครต่อใครให้สมญานามว่า “ซากุระเมืองไทย” ซึ่งจะผลิดอกบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณตลอดแนวถนนให้ดึงดูดใจ ในช่วงเดือน ก.พ.ของทุกปี

[“ขุนช่างเคี่ยน” สีชมพูในฤดูผลิดอกของ “ซากุระเมืองไทย”]

“ขนาดเห็นในรูปยังสวยขนาดนั้น ถ้าได้ไปเห็นของจริง ได้ไปอยู่ในภาพด้วยคงจะยิ่งรู้สึกอินมากๆ น่าไปมากค่ะ เพราะเบก็เคยเห็นจากแค่ในอินเทอร์เน็ต ให้อารมณ์ไม่เหมือนอยู่ประเทศไทยเลย เหมือนได้ไปญี่ปุ่นเลยจริงๆ

คือจริงๆ แล้ว เบเคยไปญี่ปุ่นนะคะช่วงซากุระออก แต่ที่เคยเจอเป็นซากุระที่ไม่ชมพูเท่าไหร่ จะออกขาวๆ มากกว่า เพราะซากุระมันก็มีหลายพันธุ์ ขึ้นอยู่กับเมืองด้วยว่าเราไปโซนไหน ถ้าได้ไปเจอแบบนั้นในบ้านเรา ไปเห็นแนวต้นไม้สีชมพูตลอดทาง เบคงตื่นเต้นมากๆ เลย เพราะถึงตอนนั้นเราจะเคยไปดูซากุระถึงญี่ปุ่นแล้ว แต่ก็ไม่ใช่แบบที่พีกที่สุดของเขาอยู่ดี

ที่สำคัญ ถ้าไปดูซากุระต้นตำรับที่บ้านเขา เขาห้ามจับ ห้ามแตะเลยค่ะ เวลาไปทำอะไรที่ไม่ใช่บ้านเรา ก็จะรู้สึกไม่สบายเท่าเที่ยวในเมืองไทยหรอกค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพอเที่ยวในไทยที่ไม่ได้มีข้อห้ามอะไรมาก แล้วจะไม่ช่วยกันระวังรักษานะ ยิ่งอยู่เมืองไทย เรายิ่งต้องช่วยกันถนอมแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติของเราเหมือนกัน มันคือความภาคภูมิใจในบ้านเมืองของเรา ที่แน่ๆ คือถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา คนไทยเที่ยวในไทยด้วยกันเอง เราคุยกันรู้เรื่องแน่นอนค่ะ (หัวเราะ)”


 

วิถีฮิปสเตอร์... เจอจริง เที่ยวจริง ฟินจริง!!

[“แคบหมู แกล้มน้ำพริกหนุ่ม” เมนูโปรดของเบเบ้ | ภาพ: ททท.]
“แคบหมู แกล้มน้ำพริกหนุ่ม” คือเหตุผลข้อหลักๆ ที่ชักนำให้เบเบ้อยากไปเยือนเมืองเหนือดูสักที เห็นหน้าตาอินเทอร์อย่างนี้ ใครจะรู้บ้างว่าเมนูอาหารพื้นเมืองจานนี้คือเมนูเด็ดจานโปรดที่เธอสั่งเป็นประจำ

“ชอบทานน้ำพริกหนุ่มกับแคบหมูค่ะ (ยิ้ม) ยิ่งถ้าได้ไปกินในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ไปนั่งทานขันโตกแล้วได้บรรยากาศหลายๆ อย่างมาเป็นกับแกล้มด้วย ยิ่งน่าจะทำให้อร่อยขึ้นไปกว่าเดิมอีก จากที่ชอบอยู่แล้ว น่าจะยิ่งชอบหนักเข้าไปอีก

เบอยากไปชิม ‘อาหารเหนือ’ แบบต้นตำรับเลยค่ะ แบบที่หากินไม่ได้ในกรุงเทพฯ เพราะปกติ เบจะหามาทานอยู่บ่อยๆ นะคะ ทั้งน้ำพริกหนุ่ม, แคบหมู, ไส้อั่ว ในกรุงเทพฯ ถ้ามีโอกาสก็อยากไปทานรสชาติต้นตำรับจริงๆ อาจจะไม่ใช่ร้านที่ดังก็ได้

อยากมีอารมณ์แบบได้ไปเดิน ไปหากินร้านที่อร่อยตามมุมเมืองของเขา ไปค้นเจอเองว่าร้านนี้เด็ดจริงๆ เหมือนเวลาเราเจอร้านหน้าปากซอยบ้านเราที่รู้สึกว่าเจ้านี้แหละเด็ดมากจนอยากบอกต่อนั่นแหละค่ะ อยากไปทานร้านที่คนท้องถิ่นไปทานกัน ถ้าหาได้ก็จะรู้สึกพิเศษมากๆ เลย


ทุกวันนี้ โลกอินเทอร์เน็ตมันมีประโยชน์มากนะ เวลามีคนไปเที่ยวไหนมา เราสามารถเสิร์ชดูแล้วจัดทริปตามเขาได้เลย มีรีวิวกันมากมาย เป็นไกด์ที่ดีมากสำหรับการเตรียมตัวก่อนไป แต่บางครั้ง เวลาคนเข้าไปอ่านแบบเดียวกัน ไปที่ๆ เดียวกัน ไปเจอคนเยอะๆ มันอาจจะทำให้เที่ยวยากกว่าเดิมหน่อย แต่ถ้าที่นั้นเด็ดจริงๆ recommend ว่าห้ามพลาดจริงๆ เราก็อยากทนเบียดเสียดไปกับผู้คนเหมือนกัน

แต่ถ้ายังมีทางเลือกอื่น ก็อยากจะไปค้นหาที่ใหม่ๆ ไปที่ที่คนอื่นอาจจะไม่เคยไป หรือยังไม่ได้ถูกพูดถึงเยอะมาก อาหารร้านนั้นอาจจะไม่ได้อยู่ในร้านแนะนำดังๆ บนเน็ต แต่พอไปลองชิมแล้วเรารู้สึกว่า เฮ้ย! ร้านนี้อร่อย เบอยากได้ความรู้สึกแบบนั้นแหละค่ะ เหมือนลงไปค้นเอง เจอเอง แล้วก็เป็นคนแรกๆ ที่แนะนำสถานที่แบบนี้เอง

“ร้านกาแฟชิกๆ” ก็เป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่างของเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะในตัวเมืองที่จะมีร้านน่ารักๆ ผุดขึ้นมาเอาใจคนรุ่นใหม่ จนกลายเป็นโลเกชันดึงดูดใจให้คนรักการเสพบรรยากาศช้าๆ และรักการถ่ายรูปได้แวะเป็นสถานีถัดไป จึงไม่แปลกที่สาวน้อยคนนี้ จะถูกดึงดูดด้วยอีกหนึ่งจุดขายของสำคัญของแหล่งฮิปสเตอร์ของประเทศไทย

["The Giant ChiangMai Thailand" ตัวอย่างร้านกาแฟชิกๆ แห่งเมืองเหนือ | ขอบคุณภาพ: แฟนเพจ "The Giant Chiangmai Thailand"]

“เพราะเราเป็นคนชอบถ่ายรูปอยู่แล้วด้วยไงคะ ก็จะพยายามหาโลเกชันสวยๆ ตลอด ทุกวันนี้ที่อยู่กรุงเทพฯ เราก็ถ่ายตึก ถ่ายข้างถนนหลากหลายมุมมากๆ จนเบื่อแล้ว เลยอยากเปลี่ยนอารมณ์ไปเดินดูอะไรแบบนี้ที่เชียงใหม่บ้าง
เบเป็นคนที่เที่ยวแล้วต้องมีรูปติดไว้ติดมือกลับไปค่ะ ชอบเก็บบรรยากาศ เก็บประสบการณ์ต่างๆ ผ่านทางรูปภาพ เพราะรู้สึกว่าถ้าเราได้ไปที่ไหนที่สวยๆ แล้วยังได้รูปกลับมาด้วย ให้เราสามารถหยิบมาดูเพื่อรำลึกช่วงเวลาตอนนั้นได้ทีหลัง

บางคนอาจจะบอกว่าเวลาไปเที่ยวไม่ต้องถ่ายรูปเยอะ ให้เราเก็บเกี่ยวช่วงเวลาตอนนั้นให้เยอะๆ อย่ามัวแต่ถ่ายรูป แต่เราอาจจะมีความคิดต่าง คิดว่าเราก็ไปสัมผัสบรรยากาศด้วยส่วนหนึ่ง แต่ก็อยากจะมีรูปภาพเก็บไว้ให้เรานึกถึงวันนั้นๆ ได้ด้วย

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องถ่ายรูป ต้องอยู่กับเทคโนโลยีตลอดเวลานะ จะถ่ายเมื่ออยากถ่ายค่ะ ไปถึงที่ปุ๊บ ถ้าบรรยากาศมันใช่ อยากเก็บภาพความทรงจำเอาไว้ ก็จะถ่ายรูปให้เสร็จก่อนเลยค่ะ หลังจากนั้นก็จะเอาตาออกจากหน้าจอ แล้วใช้ตาของเราจริงๆ เสพทุกอย่างเก็บเอาไว้ในความรู้สึกและความทรงจำ


 

ลุยเป็นลุย เอาให้คุ้ม!!

[ขอบคุณภาพ: ig @thisisbebe]
ใครที่กดติดตามอินสตาแกรม @thisisbebe ของเธออยู่ จะเห็นว่าช่วงครึ่งปีหลังมานี้เธอได้กลายเป็นเน็ตไอดอลเวอร์ชัน “สปอตเกิร์ล” ไปเรียบร้อยแล้ว

คิดดูว่ากิจวัตรประจำคือการเข้าฟิตเนสแทบทุกวัน อย่างน้อยอาทิตย์ละ 4 วัน วันละ 2 ชั่วโมง มีทั้งยกน้ำหนัก, คาร์ดิโอ, แล้วก็ต่อยมวย ฯลฯ รีดพลังงานหมุนเวียนรูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นวินัย การท่องเที่ยวของสาวมากพลังคนนี้จึงต้องเน้นกิจกรรมที่ใช้ร่างกายเคลื่อนไหว ต้องลุยจัดหนักหลายๆ อย่างในทริปเดียวเท่านั้นจึงจะดึงดูดใจสาวคนนี้เอาไว้อยู่หมัด!!

นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เบเบ้ไม่เคยจัดทริปไปท่องเมืองเหนือสักที เพราะเคยมีกรอบความคิดว่าชีวิตท่องเที่ยวที่นั่นต้องช้าๆ เฉื่อยๆ เท่านั้น กระทั่งเมื่อได้ลองเปิดใจ เสิร์ชข้อมูลดูจริงๆ จังๆ และได้เปิดบทสนทนาที่มีร่วมกันในครั้งนี้ จึงช่วยเปิดตาให้เธอได้รู้ว่า “เชียงใหม่” ก็ไม่จำเป็นต้อง “สโลว์ไลฟ์” เสมอไปก็ได้ ยังมีกิจกรรมสำหรับคนรักการผจญภัยอีกมากมายให้ได้ลิ้มลองรีดพลังงานกัน


[โหนสลิง “Flight of the Gibbons” แม่กำปอง อ.แม่ออน | ภาพ: ททท.]
“โหนสลิง” โรยตัวข้ามยอดไม้ มองวิวแบบ Bird Eyes View ผ่านเส้นทางเร้าใจ ท่ามกลางภูเขาและน้ำตกรายล้อมรอบกาย ทัศนียภาพที่หาที่ไหนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ “เชียงใหม่” ส่วนใหญ่คนที่มีใจรักแนว adventure แบบนี้จะไปรวมตัวกันอยู่ที่ “อ.แม่ริม”, “อ.ดอยสะเก็ด” และ “อ.แม่ออน” เพื่อปลุกพลังท้าทายความกล้าในตัวเองท่ามกลางป่าธรรมชาติที่สวยงาม

แต่ถ้าหากลดระดับความหวาดเสียวจากสไตล์โหนสลิง ก็ยังชมธรรมชาติในมุมสูงได้ โดยการเดินชมเส้นทางเดินธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ หรือ "Canopy Walk Way" ในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม ซึ่งเป็นทางเดินลอยฟ้ายาวกว่า 400 เมตร ที่จะทำให้ได้สัมผัสแมกไม้ในแบบพาโนรามาอีกด้วย

[“Canopy Walk Way” | ภาพ: สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์]

เหมือนไลฟ์สไตล์ของเรา เราเป็นคนไม่ชอบอยู่เฉยอยู่แล้วค่ะ ออกกำลังกายจนชิน จนรู้สึกว่าถ้าไม่ได้ขยับจะรู้สึกไม่โอเคแล้ว จะเริ่มหงุดหงิดแล้ว บางวันที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ต้องไปทำงาน ซึ่งเป็นงานที่ไม่ได้ active เช่น ไปนั่งรอให้ถึงคิวถ่ายละคร เราก็จะรู้สึกตลอดว่าอยากออกกำลังกาย แต่โชคดีที่งานเบทุกวันนี้จะลิงก์กับเรื่องออกกำลังกายตลอด

เพราะฉะนั้น เวลาไปเที่ยว เบก็อยากใช้พลังงานอย่างเต็มที่เหมือนกันค่ะ อยากไปปีนเชือกข้ามภูเขา หรือโหนตัวเป็นทาซานจากต้นไม้ต้นนึงไปอีกต้นนึง (หัวเราะ) อยากไปเล่นอะไรที่ต้องใช้พลังหน่อยค่ะ เพราะชอบเที่ยวแนวลุยๆ อยู่แล้ว ถ้าได้เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนสถานที่เป็นวิวของเชียงใหม่ อากาศดีๆ ของที่นั่น น่าจะยิ่งทำให้ได้อีกความรู้สึกหนึ่งที่น่าลอง”

“เที่ยวทุกครั้ง เหนื่อยทุกครั้ง” เบเบ้บอกเอาไว้อย่างนั้นพร้อมแนบรอยย่นเล็กๆ บนมุมปากแถมมาให้ แต่ทุกครั้งที่กลับจากรีดพลังงานในสถานที่ใหม่ๆ มันจะยิ่งทำให้เธอรู้สึกมีพลังใจมากขึ้น


“เหมือนเราได้ไปชาร์จพลังประสบการณ์ พลังจินตนาการมาแล้ว มันช่วยให้กลับมาคิดอะไรได้เยอะขึ้น ทำให้เรามีแรงกลับมาทำอะไรๆ ได้มากขึ้น

เบว่าการออกไปเที่ยว ไปพบเจอสิ่งใหม่ๆ มันเป็นสีสันนึงของชีวิตนะ คนเราเวลาทำอะไรซ้ำๆ เหมือนเดิมทุกๆ วันเป็นกิจวัตร มันก็ต้องมีจุดที่อิ่มตัว ต้องพักสักครู่แล้วปล่อยให้ตัวเองไปหาสีสัน สร้างความแปลกใหม่ให้ชีวิตบ้าง”

“ชีวิตคู่” ก็เป็นความสัมพันธ์รูปแบบหนึ่งที่ควรต้องดูแลด้วยการเติม “สีสันแห่งการท่องเที่ยว” ใส่เข้าไปบ้าง จากประสบการณ์ตรงของผู้หญิงที่สละคำนำหน้าชื่อจาก “นางสาว” เป็น “นาง” อย่างเบเบ้แล้ว รับประกันได้เลยว่าวิธีนี้จะช่วยผสานช่องว่างระหว่างคนคู่ให้จับมือเดินเคียงกันไปได้สบายมากขึ้นอย่างแน่นอน

“ถ้าเราอยู่ด้วยกันทุกวัน กิจวัตรประจำวันเราก็เดิมๆ ซ้ำๆ เราก็รักกันเหมือนเดิม แต่ไม่ได้มีเรื่องราวให้ได้น่าจดจำมากขึ้น แต่พอได้ไปเที่ยวกัน เราจะเห็นอีกมุมนึงของเขาที่ปกติอาจจะไม่ได้เห็น เห็นว่าเขาดูแลเราดีนะ น่ารักยังไงบ้าง

[พา "หัวใจ" ไปท่องเที่ยว | ขอบคุณภาพ: ig @thisisbebe]

อย่างตอนไปเที่ยวด้วยกัน เราก็ลงกิจกรรมทุกอย่างไว้แน่นมาก ถามเขาว่าไหวไหม เขาก็บอกลองดู (ยิ้ม) ปรากฏว่าเขาก็ไหวแล้วก็เหนื่อยมากเหมือนกัน พอกลับมาเขาก็บอกว่าเป็นการเที่ยวที่คุ้มดีนะ ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนึงจะสามารถใช้เวลาได้คุ้มขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ไปกับเรา เขาก็คงไปเพื่อไปนอนชิลอยู่ที่โรงแรมมากกว่า

หรืออย่างเรื่องการถ่ายรูป อันนี้เห็นได้ชัดเลยค่ะว่าเปลี่ยนไป (หัวเราะ) อย่างเวลาไปทำงาน ถ้าเป็นเมื่อก่อน จะขอให้เขาถ่ายรูปแต่ละรูปได้ต้องบังคับกันนิดนึง เขาจะไม่ค่อยเต็มใจถ่ายเท่าไหร่ เพราะเขาไม่ใช่คนโซเชียลฯ จ๋า แต่เราก็ต้องบอกเขาว่าเราต้องทำงานนะ ต้องลงภาพนะ สุดท้ายเขาก็ไปซื้อกล้องดีๆ มาตัวนึงเพื่อถ่ายให้ แต่ถ่ายได้แค่ช่วงนึงก็เลิกไป

พอได้มีโอกาสไปเที่ยวด้วยกัน ดูๆ แล้วบรรยากาศต่างๆ มันเป็นใจ ทำให้เขารู้สึกอยากถ่ายรูปขึ้นมาโดยที่เราไม่ได้ขอ คราวนี้แหละตามถ่ายรูปเราไม่หยุดเลย (พูดไปยิ้มไป) แล้วเขาก็ชอบรูปตัวเอง เอามาแลกเปลี่ยนให้เราดูด้วย มันเลยทำให้บรรยากาศหลายๆ อย่างระหว่างเรามันดีขึ้นไปอีก

[ขอบคุณภาพ: ig @thisisbebe]

จากปกติเราจะต้องเป็นคนขอร้องเขาว่า ถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้ให้หน่อย แต่พอไปเที่ยวด้วยกัน วิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ ปุ๊บ เขาเป็นฝ่ายเรียกร้องเราเองว่าไปยืนมุมนี้ให้หน่อยสิ แล้วก็มีความสุขกับภาพที่ถ่าย เวลาเขาเรียกไปถ่ายรูปเราก็เลยต้องรีบวิ่ง (หัวเราะ) ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็จะวางเลย โอกาสได้ภาพสวยๆ แบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ นะถ้าเทียบกับก่อนหน้านี้

เบว่าการได้ไปด้วยกัน อยู่ด้วยกัน มันทำให้เราได้เห็นบางมุมของกันและกันที่ไม่เคยเห็น และบางครั้งก็อาจจะทำให้มีเรื่องเถียงกันบ้างเป็นธรรมดา ก็เราลากเขามาบด energy ขนาดนั้น (ยิ้ม) มันก็ต้องมีเหนื่อยบ้าง ไม่ไหวบ้าง หรือปวดเมื่อยเนื้อตัวบ้าง แต่สุดท้ายเราก็คุยกัน ตกลงกันด้วยความเข้าใจ เห็นใจ แล้วเดี๋ยวความสัมพันธ์ของเราก็จะหาจุดที่ทั้งสองฝ่ายสมดุลได้เอง


สัมภาษณ์โดย ผู้จัดการ Lite
เรื่อง: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ภาพ: พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร
ขอบคุณสถานที่: โรงภาพยนตร์หรู "Emprive' Cineclub" ชั้น 5 ห้างฯ Emporium
ขอบคุณภาพบางส่วน: อินสตาแกรม @thisisbebe และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น