xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก ชมสัตว์ต่างถิ่นน่ารักหลากสายพันธุ์ ที่ “สวนสัตว์ดุสิต”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“ฮิปโปโปเตมัส” ตัวอ้วนใหญ่
โดย : หนุ่มลูกทุ่ง

เมื่อตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันชอบดูสารคดีชีวิตสัตว์โลกและเที่ยวสวนสัตว์เป็นอย่างมาก เพราะทำให้ฉันได้รู้จักกับเพื่อนร่วมโลกนานาชนิด ที่แต่ละชนิดมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันออกไปอย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก เมื่อหวนนึกถึงความหลังก็มีความสุขทุกครั้ง
“นกฟลามิงโก” มีขนสีชมพูหวานแหวนน่ามอง
ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ฉันจึงตัดสินใจจะไประลึกความหลังเมื่อครั้งยังเป็นเด็กที่ชอบสัตว์นานาชนิดที่ “สวนสัตว์ดุสิต” หรือหลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ “เขาดินวนา” ศูนย์รวมสัตว์นานาชนิดให้ได้ชมอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นการตะลอนเที่ยวนั้น ฉันก็จะขอเล่าประวัติความเป็นมาของสวนสัตว์แห่งนี้ให้ได้รู้กันก่อน
“หมีโคล่า”  ซ้าย : “เวียงพิงค์”  ขวา : “ฟูลล่า”
“สวนสัตว์ดุสิต” เป็นสวนสัตว์ และสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อครั้งอดีตนั้นเป็นพระราชอุทยานส่วนพระองค์ของรัชกาลที่ 5 โดยสร้างขึ้นในพื้นที่ของพระราชวังดุสิต ซึ่งพระราชอุทยานแห่งนี้ใช้เป็นที่เสด็จประพาสเพียงอย่างเดียว โดยยังไม่มีการนำสัตว์เข้ามาเลี้ยง เมื่อรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต พระราชอุทยานแห่งนี้ก็ถูกปล่อยให้รกร้างเป็นเวลาหลายสิบปี และต่อมาในรัชกาลที่ 8 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ขอพระราชทานสวนดุสิตมาปรับปรุงให้เป็นสวนสัตว์และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน
“นกเพนกวินฮัมโบลด์” น่ารักๆ
ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยว่าภายในสวนสัตว์นั้น มีพื้นที่กว้างขวางอย่างมาก โดยเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด และมีต้นไม้สวยงามนานาชนิดที่ให้ความร่มรื่นสบายตา และยังมีบึงน้ำขนาดใหญ่ให้ได้ปั่นเรือถีบกินลมชมวิวที่สวยงาม สำหรับจุดเริ่มต้นของฉันในครั้งนี้ได้เริ่มจากประตูฝั่งถนนอู่ทอง เมื่อซื้อบัตรเข้าชมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เดินเข้าสู่ภายในสวนสัตว์ดุสิต ความรู้สึกเมื่อได้ก้าวเท้าเข้ามานั้น ตื่นเต้นมากเพราะอะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไปมาก ทั้งส่วนการจัดแสดงที่ดูทันสมัยและการตกแต่งที่สวยงามยิ่งขึ้น และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ มีการนำสัตว์ต่างถิ่นจากต่างประเทศมาจัดแสดงให้ชมมากขึ้น
การแสดง “แมวน้ำ” แสนสนุก
สัตว์ชนิดแรกที่ฉันได้ยลโฉมนั้นคือ “หมีโคอาล่า” ฉันขอบอกว่าเจ้าหมีโคอาล่าที่นี่มีทั้งเพศผู้และเพศเมีย ตัวผู้มีชื่อว่า “ฟูลล่า” มาจากสวนสัตว์เวสเทิร์นเพลน ประเทศออสเตรเลีย ถิ่นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของหมีโคอาล่า และตัวเมียมีชื่อว่า “เวียงพิงค์” มาจากสวนสัตว์เชียงใหม่ เมื่อได้ชมแล้วก็น่ารักน่าชังเหมือนในหนังสารคดีไม่มีผิด
“นกแคสโซแวรี” สีสวยสะดุดตา
ใกล้ๆ กันนั้นเป็นกรงของ “นกแคสโซแวรี” นกบินไม่ได้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองมาจากนกกระจอกเทศและนกอีมู เจ้านกชนิดนี้มีหัวที่มีสีสันสวยงาม มีถิ่นอาศัยอยู่ที่เกาะนิวกินีและบางส่วนของออสเตรเลีย เมื่อชมแล้วฉันนึกในใจว่า “ช่างโชคดีจริงๆ ที่ได้เห็นกับตาไม่ต้องไปไกลถึงประเทศออสเตรเลีย”
“เต่าอัลดราบร้า” เต่าขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
ฉันเดินมาเรื่อยๆ ก็มาพบกับจุดจัดแสดง “นกเพนกวิน” ในจุดนี้มีกระจกใสที่สามารถเห็นนกเพนกวินว่ายน้ำไปมาอย่างคล่องแคล่ว และมีบันไดขึ้นไปด้านบนเพื่อชมความน่ารักของนกเพนกวินได้อย่างใกล้ชิด นกเพนกวินที่ทางสวนสัตว์ดุสิตนำมาจัดแสดงให้ชมนั้นเป็น “นกเพนกวินฮัมโบลด์” ซึ่งมีความแตกต่างจากนกเพนกวินทั่วไปคือ ถิ่นอาศัยส่วนใหญ่ของนกเพนกวินจะเป็นเขตหนาว แต่เพนกวินฮัมโบลด์นั้นอาศัยอยู่เขตร้อนที่เป็นชายหาดทะเลทรายของประเทศเปรูและชิลี ในทวีปอเมริกาใต้
“เลียงผา” หนึ่งในสัตว์ป่าสงวนของไทย
เมื่อยืนชมนกเพนกวินได้สักพัก ฉันก็ได้ยินประกาศว่าจะมีการแสดง “แมวน้ำ” การแสดงหาชมได้ยากแบบนี้จะพลาดได้อย่างไร ฉันจึงรีบเดินมาในพื้นที่จัดแสดงที่อยู่ด้านหลังส่วนจัดแสดงนกเพนกวิน เมื่อฉันเลือกที่นั่งได้แล้ว ไม่นานเกินรอก็ได้ยินเสียงพิธีกรพาเจ้าแมวน้ำหน้าตาน่ารักดูกระฉับกระเฉง ออกมาโชว์ตัวพร้อมกับโชว์ความสามารถต่างๆ มากมาย ทั้งเดาะลูกบอล ลอดห่วง เต้นและยกขา ทำเอาฉันทึ่งในความแสนรู้จริงๆ
บรรยากาศการนักท่องเที่ยวให้อาหารปลา
หลังจากชมการแสดงแมวน้ำเสร็จแล้ว ฉันก็เดินมาพบกับกรง “นกฟลามิงโก” ที่มีขนสีชมพูหวานแหวนชวนมอง ใกล้ๆ กันนั้นเป็นที่จัดแสดงชะนีและลิงนานาชนิดที่ไม่มีตัวไหนอยู่นิ่งเลย มองแล้วดูครื้นเครงดี และฉันก็เดินเรื่อยๆ ชมบรรยากาศร่มรื่นภายในสวนสัตว์ เห็นนกบินไปมา มีนักท่องเที่ยวให้อาหารปลามากันเป็นครอบครัวมองแล้วมีความสุข
บรรยากาศร่มรื่นและหนองน้ำใน “สวนสัตว์ดุสิต”
เดินทอดน่องได้สักพักฉันก็มาพบกับส่วนจัดแสดงสัตว์เลื้อยคลาน ที่จัดแสดง งู กิ้งก่า จระเข้ และเต่านานาชนิดให้ได้ชม ในจุดนี้ฉันได้พบกับ “เต่าอัลดาบร้า” เต่ายักษ์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เป็นเต่าที่อาศัยอยู่ในเกาะซีเชลล์ มหาสมุทรอินเดียเท่านั้น
“หมีหมา” ก็มีให้ชม
ฉันเดินต่อมาและได้ชม เสือ สิงโต หมี เก้ง กวาง จนมาพบกับ “ฮิปโปโปเตมัส” ฉันมาถึงเวลาให้อาหารพอดี จึงได้เห็นเจ้าฮิปโปโปเตมัสตัวอ้วนใหญ่กำลังอ้าปากรอรับอาหารจากนักท่องเที่ยว ที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์นำมาให้ร่วมกิจกรรมให้อาหาร
“เสือดาว” ลายสวย
และนอกจากสัตว์ต่างถิ่นแล้ว สวนสัตว์ดุสิตก็ยังมีการนำ “สัตว์ป่าสงวนของไทย 15 ชนิดของไทย” มาจัดแสดงให้ชมอีกด้วย ฉันจึงมีโอกาสได้เห็นทั้งเลียงผา ละมั่ง สมเสร็จ กับตาตัวเอง ช่างโชคดีจริงๆ เพราะน้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้เห็นกับตาที่ป่าธรรมชาติ และใกล้ๆ กันนั้นยังมี "เก้งหม้อเผือก" จัดแสดงให้ได้ชมอีกด้วย
“นากยักษ์” ซุกซน
ปิดท้ายการเที่ยวของฉันในครั้งนี้ ด้วยการมาชม “สัตว์ป่าแอฟริกา” ที่มีเจ้า “ยีราฟ” ตัวสูงใหญ่เด่นสะดุดตาให้ฉันได้ชมและทึ่งในความสูงของมัน อีกทั้งยังมีม้าลาย นกกระจอกเทศ เมียร์แคต และนากยักษ์ที่ซุกซนให้ได้ชมความน่ารักกันอีกด้วย
“ยีราฟ” สูงใหญ่โดดเด่น
หากใครที่ชื่นชอบการชมสัตว์นานาชนิดแล้ว ถ้าได้มาเที่ยวสวนสัตว์ดุสิตก็คงจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะได้ชมสัตว์หลากหลายสายพันธุ์แล้ว ก็ยังได้ความรู้เรื่องสัตว์ เพื่อนร่วมโลกที่น่ารักของเราอีกด้วย
“กิ้งก่าเครา” หนึ่งในกิ้งก่านานาชนิด
เก้งหม้อเผือก สวยงามหาชมยาก
******

สวนสัตว์ดุสิต เปิดบริการ เวลา 08.00-18.00 น. ติดต่อสอบถาม โทร. 0-2281-2000
อัตราค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท, ครู ทหาร ตำรวจ (ในเครื่องแบบ) 50 บาท, นักศึกษา 50, นักเรียน 20 บาท ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) คนพิการ เข้าชมฟรี
การเดินทางไปสวนสัตว์ดุสิต รถโดยสารประจำทางสาย 18, 28, 108, 125, ปอ.515, 539, 542,

* * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น