โดย... กฤษณะ ทิวัตถ์สิริกุล
เมื่อพูดถึง “ประเพณีกินเจ” เชื่อว่าหลายคนก็คงนึกถึงแค่การงดรับประทาน “เนื้อสัตว์” โดยเปลี่ยนมาทานพืชผักผลไม้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อใช้ช่วงเวลานี้ทำทานสร้างบุญด้วยการไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ดังคำกล่าวที่ว่า...
“กินเจหนึ่งมื้อ หมื่นชีวิตรอดตาย”
ดังนั้น เมื่อใกล้ถึงเทศกาลกินเจของทุกปี เราจึงจะเห็นภาพของร้านอาหาร และธง “เจ” สีเหลืองที่มีตัวอักษรจีนสีแดงเขียนอยู่ตรงกลางที่อ่านว่า “ไจ” อันหมายถึง “ปราศจากการทำลายชีวิต และปราศจากของมีกลิ่นคาว”อยู่ทั่วไป
ว่ากันว่าการ “กินเจ” นั้นมีตำนานยาวนานกว่า 2 พันปี โดยในยุคเริ่มแรกนั้นอาหารเจเกี่ยวข้องต่อศาสนา และการปฏิบัติธรรม มากกว่าการรับประทานเพื่อสุขภาพ เราจึงมักได้ยินว่าประเพณี “ถือศีลกินเจ” ซึ่งมีความหมายว่า ผู้ปฏิบัติธรรมที่รักษาศีลความเป็นมนุษย์จะต้องเจริญเมตตา และกรุณา จึงไม่ควรกินเนื้อสัตว์
โดยตำนานที่พูดถึงกันมากที่สุดที่เกี่ยวข้องต่ออาหารเจมาจากพระสูตรในพุทธศาสนานิกายมหายาน ฉบับภาษาจีน ซึ่งกล่าวว่า “พระพุทธเจ้าในอดีตกาลมี 7 พระองค์” และ “พระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์” รวมกันเป็น 9 พระองค์ หรือที่เรียกว่า “เก้าอ๊อง” หรือ “เก้าอ๊วง” ได้ทรงตั้งปณิธานเพื่อโปรดสัตว์ในโลก จึงได้ทรงแบ่งกายมาเป็นเทพเจ้า 9 พระองค์ ซึ่งเป็นผู้ทรงอำนาจบำเพ็ญตบะจนเรืองฤทธิ์ และสามารถบริหารธาตุทั้ง 5 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และทอง ทั่วทุกพิภพน้อยใหญ่
ประเพณีเทศกาลกินเจจึงหมายถึงการประกอบพิธีกรรมสักการบูชา และขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพเจ้าทั้ง 9 พระองค์ ที่เชื่อกันว่าการบำเพ็ญศีลและงดเว้นเนื้อสัตว์ในเทศกาลกินเจตลอดระยะเวลา 10 วัน จะได้บุญสูงสุด ส่งผลให้ชีวิตตนเองประสบความสุขความเจริญ มีสุขภาพดี และเป็นการต่ออายุให้ยืนยาว
โดยปัจจุบันเรากลับพบกว่า การกินเจนอกจากจะเป็นการทำบุญโดยไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์โลกแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะชาวจีนเชื่อว่าผักผลไม้มีธรรมชาติเป็น “หยาง” ซึ่งหมายถึง “ความสะอาด ความโปร่ง ความแจ่มใส” แต่เนื้อสัตว์มีธรรมชาติตรงข้ามคือ เป็น “หยิน” ซึ่งหมายถึง “ความขุ่นมัว ความมืดมิด ความทึบ” ตามธรรมชาติของร่างกายคนเรา มักมีเป็นความหยินมากเกินไป ดังนั้น เราจะต้องเพิ่มความเป็นหยางให้มากขึ้น ผู้ที่ปฏิบัติธรรมจะต้องขจัดสภาวะที่ขุ่นมัว ชำระล้างพิษด้วยการกินเจ รับประทานพืชผัก และผลไม้ให้มากขึ้นชีวิตจึงจะมีสภาวะที่แจ่มใส
นอกจากการงดรับประทานเนื้อสัตว์แล้ว ยังมีผักที่มีกลิ่นฉุนอีก 5 ประเภทที่ห้ามรับประทานคือ กระเทียม, หัวหอม, กระเทียมโทน หรือหลักเกียว, กุยช่าย และ ใบยาสูบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ และมีพิษทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะหลักสำคัญภายในทำงานไม่ปกติ
บางตำรายังกล่าวอีกว่า หากต้องการกินเจให้ถูกหลัก ควรรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้ครบ 5 สีในแต่ละวัน ตามสีของแต่ละธาตุทั้ง 5 คือ
1) สีแดง ส้ม เช่น มะเขือเทศ แครอท พริกสุก มะละกอ แตงโม ฯลฯ ถือเป็นสัญลักษณ์ของธาตุไฟ จะช่วยลดคอเลสเตอรอลส่วนเกิน ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
2) สีดำ น้ำเงิน หรือ ม่วง เช่น ถั่วดำ เผือก มะเขือม่วง เห็ดหูหนู ลูกหว้า องุ่น เป็นสัญลักษณ์ของธาตุน้ำ มีประโยชน์ต่อไต
3) สีเหลือง เช่น ฟักทอง ถั่วเหลือง มะม่วง ข้าวโพด กล้วย ทุเรียน เป็นสัญลักษณ์ของธาตุดิน มีประโยชน์ในการบำรุงม้าม
4) สีเขียว เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ฝรั่ง ถั่วฝักยาว ถือเป็นสัญลักษณ์ของธาตุไม้ หากรับประทานมากๆ จะช่วยบำรุงตับ
5) สีขาว เช่น ลูกเดือย ผักกาดขาว มะพร้าว น้อยหน่า ถือเป็นสัญลักษณ์ของธาตุโลหะ มีประโยชน์ต่อปอด
สำหรับปีนี้คณะกรรมการจัดงานกินเจขอเชิญชวนชาวภาคใต้ และทั่วทุกภาคของประเทศไทยไปเยี่ยมชมงานกินเจ เทศกาลกินเจเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี “มหาทาน มหากุศล สะสมบุญ เสริมบารมี สืบสานประเพณีกินเจ” ประจำปี 2558 ระหว่างวันที่ 12-21 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ณ ลาน Outlet Square ด้านหน้าศูนย์อาหารเมืองทองธานี ที่จัดขึ้นโดยอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ร่วมกับบริษัท บางกอกแลนด์ เอเจนซี่ จำกัด และได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เพราะนอกจากจะรวมอาหารเจรสเลิศกว่า 999 เมนู จาก 99 ร้านให้เลือกสรรแบบไม่ซ้ำแต่ละวันแล้ว ยังมีกิจกรรมเสริมบุญหนุนบารมีตามความเชื่ออย่างมากมาย
เช่น การสักการะเทพเจ้าดาวนพเคราะห์ “เก้าอ๊วง ฮุดโจ้ว” เพื่อความเป็นสิริมงคลภายในงาน ชมขบวนแห่มังกรทองคาบแก้ว เบิกฤกษ์มงคลจุดประทัด 1,999 ดอก กิจกรรมถวายบัวประทีปเพื่อขอพรจากพระโพธิสัตว์กวนอิม การทำบุญทวิมงคลด้วยการถวายภัตตาหารเพลเจแก่พระภิกษุสงฆ์ และร่วมขอพรจากเทพยดาฟ้าดินด้วย โคมทองคำมงคล
ภายในงานชม และชิมฟรีการปรุงอาหาร 9 มงคล เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชน และผู้สนใจที่มาร่วมงาน การตรวจดวงชะตาชีวิตตามหลักโหราศาสตร์จีน จากซินแสชื่อดัง ร่วมสะสมบุญ เสริมสร้างบารมี ด้วยการบริจาคทานให้แก่มูลนิธิ และโครงการการกุศลต่างๆ ในจังหวัดนนทบุรี ชมการแข่งขัน มือห่อเปาะเปี๊ยะเจอันดับหนึ่ง ประจำอำเภอปากเกร็ด และการเปิดร้านการจำหน่ายสินค้าราคาถูก และสินค้า OTOP ของจังหวัดนนทบุรี
พร้อมเอาใจคนรุ่นใหม่ด้วยกิจกรรม Check & Post แบ่งบุญ ลุ้นโชค ถ่ายรูปภายในงานโพสต์ลง Facebook พร้อม Check In @JMuangthongthani หรือโพสต์ลง IG ติดแฮชแท็ก # JMuangthongthani ลุ้นรับของรางวัลต่างๆ มากมายตลอดการจัดงานทั้ง 10 วัน
เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบ ชำระทั้งกายและจิตใจ ได้ทั้งการปฏิบัติธรรมสร้างบุญสร้างกุศลเป็นมงคลแก่ชีวิต งดทานเนื้อสัตว์ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์โลก แถมยังได้เลือกรับประทานอาหารเจหลากหลาย รวมไปถึงเมนูอาหารเจอินเทรนด์ที่ปรุงจากวัตถุดิบที่คัดสรรจากพืชผักปลอดสารพิษอย่าง “คลีนฟู้ด” เพื่อสุขภาพก็มาออกร้านจำหน่าย“อาหารเจเพื่อสุขภาพ” มากมายนับสิบร้าน
อิ่มบุญแถมยังได้สุขภาพกายและใจที่ดีด้วย