xs
xsm
sm
md
lg

พม่าขอสู้! ไม่เอาแล้ว “แพะม่า” คดีเกาะเต่า!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ณ เกาะเต่า ไร้วี่แววสิ้นสุดคดี มีแต่จะผุดหลักฐานให้ต้องคิดหนักขึ้นเรื่อยๆ ทันทีที่ศาลสั่งประหาร 2 ชาวพม่า ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืน 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ชาวพม่าไม่ยอมลุกฮือขึ้นรวมตัวประท้วงคำตัดสินที่สถานทูตไทยเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม ขณะที่แม่จำเลยเชื่อลูกบริสุทธิ์พร้อมอุทธรณ์ต่อทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อให้ชายผู้บริสุทธิ์ทั้ง 2 คน ได้รับการปล่อยตัว ผู้เชี่ยวชาญชี้ แรงต้านครั้งนี้ส่งผลลบต่อกระบวนการยุติธรรมไทย ตำรวจไทยควรรับผิดชอบ!!




รอยด่างความยุติธรรม!

จับแพะหรือเปล่า? เสียงนี้ดังชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผลการตรวจ DNA ของ “เวพิว” และ “ซอลิน” สองผู้ต้องสงสัยชาวพม่าในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ “ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์” และ “เดวิด วิลเลียม มิลเลอร์” ณ เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี คดีสะเทือนขวัญตั้งแต่เมื่อเดือน ก.ย. ปี 2557 ออกมาว่าไม่ตรงกับ DNA ที่อยู่บนจอบซึ่งใช้เป็นอาวุธในการสังหารเหยื่อ!

เวลาล่วงเลยผ่านมานานเป็นปี ทว่า คดีนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง การตัดสินคดีนี้ระบุว่าให้คุมตัว 2 ผู้ต้องโทษ ไปขังเรือนจํานคร เมื่อคดีสิ้นสุดให้ประหารชีวิต หลังคำตัดสินปรากฏว่าชาวพม่าชุมนุมประท้วงไม่เลิกเนื่องจากไม่พอใจคำพิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุยที่สั่งลงโทษประหารชีวิต 2 จำเลย โดยญาติจำเลยไม่เชื่อว่าทั้งสองเป็นคนก่อเหตุและเป็นการจับแพะ






ทั้งนี้ มีชาวพม่าประมาณ 1,500 คนชุมนุมถือป้ายภาษาเมียนมาและอังกฤษประท้วงโจมตีไทยและขอความเป็นธรรมคดีดังกล่าว พร้อมขอให้รื้อฟื้นคดีใหม่โดยให้พม่าร่วมด้วย ยื่นหนังสือ เรียกร้องให้ทางการไทยรื้อคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษใหม่ โดยให้ตั้งกรรมการร่วมทั้ง 2 ประเทศ จากนั้นขบวนกลุ่มผู้ประท้วงได้เคลื่อนย้ายมาตามเส้นทางผ่านอนุสาวรีย์บุเรงนองก่อนไปหยุดที่กลางสะพานด่านตรวจพรมแดน ไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 โดยมีสื่อของเมียนมาติดตามทำข่าวจำนวนมาก

เหตุนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ของไทยต้องปิดประตูด่านพรมแดนทันที พร้อมประกาศห้ามคนไทยและนักท่องเที่ยวข้ามด่านพรมแดนชั่วคราว ส่งผลให้รถรับส่งสินค้าข้ามพรมแดน รถทัศนาจรของนักท่องเที่ยวและรถอื่นๆ ติดยาวเหยียดจากนั้นตัวแทนผู้ชุมนุมได้กล่าวผ่านล่ามว่า ขณะนี้คนพม่าโดยทั่วไปยังเป็นมิตรกับคนไทยเพียงแต่จะมาขอความเป็นธรรมคดี 2 ชาวพม่าถูกศาลตัดสินประหารชีวิต โดยเรียกร้องขอให้มีการรื้อฟื้นคดีและตั้งคณะกรรมการร่วมทั้ง 2 ประเทศและขอคำตอบภายใน 15 วัน

ย้อนกลับไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เคยให้คำตอบเอาไว้ว่าผ่านรายงานสื่ออังกฤษเอาไว้ว่า ช่องโหว่สำคัญนั้นมาจากการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยไม่ทดสอบรอยคราบเลือดที่ถูกพบในที่เกิดเหตุ และมีการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ร่าง

เป็นเหตุให้หลักฐานสำคัญทางนิติวิทยาศาสตร์ถูกทำลายลงไป แต่ถึงอย่างนั้น แพทย์หญิงก็ยังคงยืนยันว่า ถึงแม้ DNA ที่จอบจะไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานมัดตัวผู้ก่อเหตุได้ แต่ DNA ของผู้ต้องสงสัยก็ยังคงตรงกับ DNA ที่ตรวจพบบนร่างของเหยื่อผู้เสียชีวิต




อีกทั้ง ในวันทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้ง “เวพิว” และ “ซอลิน” ผู้ต้องสงสัยชาวพม่าทั้งสองราย อธิบายผ่านล่ามเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นผู้ฆ่าเหยื่อนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษทั้งสองด้วยมือของตัวเอง รวมทั้งข่มขืนผู้ตายฝ่ายหญิงจริง ซึ่งผลก็ออกมาว่า DNA ของพวกเขาตรงกับคราบอสุจิในร่างไร้วิญญาณ จึงส่งให้คดีสะเทือนขวัญครั้งนั้นจึงถูกปิดลงด้วยหลักฐาน




ไม่เชี่ยวชาญเรื่องคดี ถือเป็นจุดอ่อน

ดูเหมือนประเด็นนี้จะไม่จบลงง่ายๆ เมื่อสองผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ณ เกาะเต่า มีช่องโหว่อีกหลายจุดที่คดีนี้ปิดไม่มิดและตอบข้อสงสัยไม่ได้ จึงถูกกล่าวหาว่านี่อาจเป็นกระบวนการยัดคดี หรือไม่?

เมื่อประเด็นถูกโยงมาเช่นนี้แล้ว ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รู้สึกไม่สบายใจต่อการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนบางฉบับ ที่นำเสนอข่าวโดยปราศจากการคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ




อาทิ การนำเสนอข่าวผลการพิจารณาคดีฆาตกรรมบนเกาะเต่า ซึ่งหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดอำนาจและขาดความเคารพต่อกระบวนการพิจารณาคดีของศาล อันอาจส่งผลให้ประชาคมโลกขาดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย

ประเด็นนี้ยังมีผลสรุปที่ไม่แน่ชัด มีช่องโหว่บางประการทำไมชาวพม่าเชื่อว่าคดีนี้ไม่มีความยุติธรรม ทำให้ชาวพม่ามีการประท้วงที่ชายแดน และสถานทูตไทยในพม่าเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม หลากหลายข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใดชาวพม่าถึงไม่เชื่อว่าคดีนี้ยุติธรรม แม้ว่าตำรวจไทยเพิ่งจะแถลงข่าวออกไปว่าทำตามกระบวนทุกขั้นตอนไปแล้วก็ตาม




ลองให้วิเคราะห์ในมิติที่คดีนี้ อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ผศ.ทวี สุรฤทธิกุล อาจารย์ประจำสาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการประท้วงของชาวพม่าต่อสถานทูตไทยเอาไว้ว่า ถือเป็นการสะท้อนเรื่องของความรักชาติ ซึ่งทางพม่าเองก็อยากได้ความยุติธรรม เพราะในกระบวนการมันไม่น่าเชื่อถือ

“มันมี 2-3 เรื่องนะครับ ถ้าเอาเรื่องตรงไปตรงมาก็คือ ผมว่าส่วนใหญ่น่าจะห่างไกลข้อมูลข่าวสาร ไม่ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารนี้มาแต่แรก ถ้าทางรัฐศาสตร์ที่ผมสอนก็เป็นเรื่องของความรักชาติ มันก็จะปลุกง่าย เอาประเด็นของความรักชาติว่า คนพม่าไม่ได้รับความยุติธรรม มันก็เลยเป็นเรื่องใหญ่โต

อันที่สอง มันก็เป็นเรื่องนิเทศศาสตร์ ตัวสื่อคืออะไร สื่อก็คือเรื่องของการลงโทษ คือการตีความของผู้นำศาล ผู้นำศาลก็คือคนที่ก่อการประท้วงนั่นแหละ เพราะฉะนั้น เขาก็ต้องทำศาลให้ไปสู่เป้าหมาย มันก็เลยออกมาแรง

ประการสุดท้ายน่าจะเรื่องของที่มีการแอบแฝงกัน ในเรื่องของผู้ที่สูญเสียอำนาจด้วยหรือไม่ ที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งมีการปรากฏแล้วว่าคนที่นำประท้วงมันเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจเก่า สามเรื่องนี่แหละที่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต”




ต่อข้อสงสัยถึงคำว่า “แพะรับบาป” จะเป็นจริงหรือไม่นั้น อาจารย์ประจำสาขารัฐศาสตร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากเป็นตำรวจที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญทางด้านคดี แน่นอนสิ่งนี้คือจุดอ่อนในการทำคดีอาชญากรรม และผู้เสพข่าวก็ตีประเด็นว่าตำรวจไทยกำลังทำอะไรที่ไม่โปร่งใสอยู่หรือเปล่า?

“อันนี้ผมอ่านมาของผู้จัดการนี่แหละว่า มันเกี่ยวกับความไม่น่าเชื่อถือ คือผู้ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องคดี เป็นตำรวจที่ไม่ได้อยู่สายปราบปรามสอบสวนมา เป็นตำรวจติดตามนักการเมืองมาตลอด เพราะฉะนั้น มันก็จะมีจุดอ่อนในเรื่องของการให้ข่าวคดีอาชญากรรม ไม่เข้าใจกระบวนการทำงาน พอไม่มีความน่าเชื่อถือตรงนี้คนก็ตีความเป็นประเด็นว่า ตำรวจกำลังทำอะไรไม่โปร่งใส ลับลมคมใน

จนในที่สุดเขาบอกว่ามีคนที่ไปเกลี่ยกล่อมผู้ต้องหาทั้งสองคนให้กลับคำให้การ มันเลยทำให้ตำรวจไม่น่าเชื่อถือไปกันใหญ่ ถ้าเราพูดถึงเรื่องกระบวนการมันก็บอกได้ว่ามันเป็นความน่าเชื่อถือของผู้ที่ทำคดีนี้ ผู้รับผิดชอบก็คือตำรวจไทยนี่แหละ ถือเป็นเรื่องของภาพลักษณ์”

ข่าวโดย ผู้จัดการ Live




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น