ผู้จัดการรายวัน360 - สถานทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประกาศให้คนไทยระวังเดินทางเข้าเมียนมา หลีกเลี่ยงแสดงตัวเป็นคนไทย หลังชาวพม่าลุกฮือนัดชุมนุมหน้าสถานทูต ค้านคำตัดสินประหาร 2 แรงงานพม่า คดีฆ่าสยองนักท่องเที่ยวเกาะเต่าเมื่อปี 2557 เผยแม่ผู้ต้องหาเป็นลม-ร้องไห้โฮ โผเข้ากอดลูกชายกลางศาล วอนศาลให้ความเป็นธรรม ทีมทนาย-สถานทูตเมียนมาเตรียมยื่นอุทธรณ์ ส่วนครอบครัวผู้ตายแถลงขอบคุณคณะผู้พิพากษา สื่อนอกแฉพิรุธคดีอื้อ ซัด ตร.ไทยชอบยัดคดี “แพะพม่า”
วานนี้ (24 ธ.ค.) คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ขึ้นบัลลังก์พิพากษาคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายซอ ลิน หรือโซเรน และนายเวพิว หรือวิน เป็นจำเลยทั้ง 2 ในคดีอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันฆ่า นายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราและฆ่า น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ ซึ่งเป็นคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย.57 ที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยครอบครัวของทั้งนายเดวิดผู้ตาย และครอบครัวฝ่ายจำเลยเข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาคดี
จากนั้นผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้อ่านคำพิพากษาว่า นายซอลิน จำเลยที่ 1 และนายเวพิว จำเลยที่ 2 เป็นจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดีที่ 2040/2557 โดยขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานร่วมกันฆ่านายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ ผู้ตายที่ 1 ฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.ฮันน่าห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ ผู้ตายที่ 2 อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง แล้วร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 2 เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน และจำเลยที่ 2 ลักโทรศัพท์เคลื่อนที่และแว่นตากันแดดของผู้ตายที่ 1 ไปโดยทุจริต ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 276, 288, 289, 334, 335 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 4, 5, 7, 11, 12, 18, 58, 62, 81 และให้จำเลยที่ 2 คืนหรือชดใช้ราคาทรัพย์สินเป็นเงิน 16,000 บาท แก่ทายาทของผู้ตายที่ 1 กับให้คืนโทรศัพท์เคลื่อนที่และจอบของกลาง
** ดีเอ็นเอตรงกับที่พบบนศพผู้ตาย
จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ ขณะจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหาเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยทั้งสองแล้ว เห็นว่าผลตรวจดีเอ็นเอที่พบบนศพผู้ตายทั้งสอง ซึ่งเป็นพยานหลักฐานของนิติวิทยาศาสตร์อันเป็นที่ยอมรับทั่วไปตามหลักสากลว่า สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้เป็นอย่างดี ทั้งเป็นพยานหลักฐานที่มีอยู่ เกิดขึ้น และได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนจับกุมจำเลยทั้งสอง ย่อมสามารถเชื่อมโยงและพิสูจน์ได้ว่า คนร้ายเป็นผู้ใด
จากการตรวจพิเคราะห์วัตถุพยานดังกล่าวเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสองพบว่า ดีเอ็นเอที่ตรวจพบจากคราบอสุจิในตัวผู้ตายตรงกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง โดยรายงานผลการทดสอบเปรียบเทียบดีเอ็นเอของคนร้ายกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง มีค่าตำแหน่งดีเอ็นเอตรงกันทั้ง 16 ตำแหน่ง จึงสามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ของบุคคลได้อย่างชัดเจนตามหลักมาตรฐานสากล ส่งผลให้การตรวจพิสูจน์มีน้ำหนักและมีความน่าเชื่อถือได้โดยสนิทใจ
** ศาลสั่งประหารสถานเดียว
นอกจากนี้ โจทก์ยังมีพยานบุคคลยืนวันว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้นำโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางของผู้ตายที่ 1 มามอบให้ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุไม่นาน อันเป็นหลักฐานยืนยันได้ส่วนหนึ่งว่าจำเลยที่ 2 ย่อมจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุคดีนี้ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาทั้งในส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง ที่ตรงกับดีเอ็นเอของคนร้าย วัตถุพยานของกลางในที่เกิดเหตุ รวมทั้งพยานแวดล้อมกรณีก่อนและหลังเกิดเหตุ ล้วนมีน้ำหนักพิสูจน์เชื่อมโยงให้เห็นและรับฟังได้ จึงพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เมื่อลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้งสองแล้ว ก็ไม่อาจนำโทษจำคุกในความผิดกระทงอื่นของจำเลยทั้งสองมารวมได้อีก คงให้ประหารชีวิตสถานเดียว
** แม่จำเลยล้มทั้งยืน-ปล่อยโฮกลางศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ล่ามชาวพม่าแปลคำพิพากษาให้จำเลยและแม่ของจำเลยทั้งสอง โดยระบุว่าศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต แม่ของจำเลยได้เป็นลมล้มพับที่เก้าอี้และร้องไห้ออกมาเสียงดัง พร้อมเข้ากอดลูกและพากันร้องไห้ โดยมีล่าม ทีมทนายความจำเลย เจ้าหน้าที่สถานทูตเมียนมา และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าไปปลอบโยนให้กำลังใจ พร้อมกับบอกว่าคดียังไม่ถึงที่สุด ยังสามารถต่อสู้ได้อีก 2 ศาล โดยที่จำเลยทั้งสองพยักหน้าและยอมรับสภาพก่อนที่จะถูกตำรวจประจำศาลคุมตัวลงทางด้านข้างของบัลลังก์ศาลเพื่อไปขึ้นรถเรือนจำไปฝากขังที่เรือนจำ อ.เกาะสมุยตามเดิม โดยทีมทนายความจำเลย และฝ่ายกฎหมายจากสถานทูตเมียนมา ได้ร่วมปรึกษาเพื่อเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายใน 30 วัน ตามกำหนด
ขณะที่ นายแอนดี้ ฮอลล์ นักเคลื่อนไหวเครือข่ายสิทธิแรงงานอพยพและที่ปรึกษาทีมกฎหมายจำเลย กล่าวว่า ทนายจำเลยมีเวลา 30 วันในการยื่นอุทธรณ์ และรู้สึกประหลาดใจกับคำพิพากษาที่ตัดสินให้จำเลยทั้งสองมีความผิดเกือบทุกกระทง ทั้งที่หลักฐานที่ใช้ในการไต่สวนเต็มไปด้วยช่องโหว่ การเก็บและเบิกหลักฐานไม่สมบูรณ์
** ครอบครัว “เดวิด” พอใจ
ด้านครอบครัวของ นายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ ได้แถลงขอบคุณผู้พิพากษาที่ให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของพวกเขา ซึ่งครอบครัวมิลเลอร์ ได้อดทนรอคำพิพากษามากว่า 14 เดือน หลังจากเกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นกับครอบครัว และในวันนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าพี่ชายคือ นายเดวิด ได้ตายด้วยความทรมานจากการถูกทุบตีด้วยจอบ จึงขอขอบคุณผู้พิพากษาที่ได้ให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวตนเอง
*** สื่อนอกประโคมข่าวข้อพิรุธคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังศาลตัดสิน 2 จำเลยชาวพม่าแล้ว สำนักข่าวและสื่อต่างประเทศ อาทิ บีบีซี ซีเอ็นเอ็น เดอะการ์เดี้ยน และเดอะมิร์เรอร์ เป็นต้น ต่างรายงานข่าวไปทั่วโลก โดยระบุว่า ศาลจังหวัดเกาะสมุยได้พบหลักฐานนายซอลิน และนายเว พิว ได้ร่วมกันกระทำความผิดในการก่อฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ และลงโทษประหารชีวิตจำเลยชาวพม่าทั้งสอง
โดยเดอะ มิร์เรอร์ สื่อในอังกฤษ ชี้ว่า คำตัดสินของศาลจังหวัดเกาะสมุย มีขึ้นหลังจากการดำเนินการสืบสวนและพิจารณาคดีตกอยู่ในความขัดแย้ง รวมทั้ง การจัดการกับหลักฐานในที่เกิดเหตุที่ผิดพลาด และการทรมานผู้ต้องหา
ขณะที่ สำนักข่าวเอเอฟพี ได้รายงานย้อนความการสอบสวนคดีฆาตกรรมดังกล่าวว่า เต็มไปด้วยข้อครหา โดยหลังพบศพ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปิดล้อมจุดเกิดเหตุ หรือปิดท่าเรือ ต่อมากลับมีภาพศพเหยื่อปรากฏในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ซ้ำเติมความโศกเศร้าของครอบครัวผู้ตาย และหลังจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ไม่กี่วัน ตำรวจกล่าวว่าทั้งคู่รับสารภาพแล้ว แต่จากนั้นไม่นานทั้งสองกลับคำรับสารภาพ และยืนยันว่าถูกซ้อมทรมานระหว่างสอบสวนจนต้องเซ็นรับสารภาพ แต่ตำรวจปฏิเสธ และศาลยืนยันไม่มีหลักฐานการซ้อมทรมาน
** แฉแรงงานพม่าโดน ตร.ไทยยัดคดีประจำ
ด้าน สำนักข่าวการ์เดี้ยน ระบุว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับคดี ชี้ว่าแรงงานชาวพม่า ซึ่งอยู่ในไทยประมาณ 2.5 ล้านคน ถูกตำรวจไทยยัดข้อหาหลายครั้งมาก่อน การเอาผิดจำเลยทั้งสองคดีนี้ให้น้ำหนักกับอสุจิที่เก็บจากศพของ น.ส.วิทเทอริดจ์ แต่เมื่อทนายจำเลยร้องขอให้ตรวจซ้ำอย่างเป็นอิสระ เจ้าหน้าที่กลับไม่สามารถนำตัวอย่างมาให้ได้ และมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งระบุว่าตัวอย่างถูกทำลายหรือใช้จนหมดแล้ว ที่สำคัญการไต่สวน 2 วันสุดท้ายเมื่อเดือน ต.ค. นายเวพิว กล่าวในศาลด้วยว่า ตำรวจคนหนึ่งถ่ายภาพของเขาขณะเปลือยกาย และถูกซ้อม รวมทั้งขู่จะตัดแขน ขา และทิ้งศพลงทะเลให้ปลากิน อีกทั้งทางการไทยยังถูกวิจารณ์กรณีนำผู้ต้องสงสัยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อหน้าสื่อ ซึ่งเป็นพฤติการณ์ปกติในการสอบสวนของไทยที่ถูกประณามว่าเป็นการบ่งบอกไปแล้วว่าผู้ต้องสงสัยกระทำความผิด
** ชาวพม่าลุกฮือนัดประท้วงวันนี้
ขณะที่ เฟซบุ๊กมิงกลาบา (Minglapar) ที่ให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประเทศเมียนมา ได้มีชาวพม่าจำนวนมากเข้าไปแสดงความเห็นที่โพสต์ข่าวคำตัดสินคดี โดยส่วนใหญ่แสดงความเสียใจกับเพื่อนร่วมชาติ และมีหลายคนโพสต์ภาพแบนเนอร์ประณามประเทศไทย รวมไปถึงตำหนิผู้นำรัฐบาลเมียนมาที่นิ่งเฉยต่อกรณีดังกล่าว
ด้าน สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ได้ออกประกาศขอให้ชาวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางมาประเทศเมียนมา ในช่วงนี้เป็นพิเศษ และหลีกเลี่ยงการแสดงตัวเป็นคนไทยในที่สาธารณะโดยไม่จำเป็น เนื่องจากเกิดกระแสการต่อต้านคำตัดสินดังกล่าว โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ และมีการนัดหมายมาชุมนุมประท้วงบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตฯ ในวันนี้ (25 ธ.ค.) ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งพัฒนาการของเหตุการณ์ให้ทราบเป็นระยะ.