xs
xsm
sm
md
lg

ด้วยรักและเป็นห่วง! "มะเร็งตับ" มันใกล้ตัวกว่าที่คิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"คุณเป็นมะเร็งที่ตับในระยะที่อันตราย เพราะตับถูกทำลายไปแล้วครึ่งหนึ่งทางฝั่งซ้าย มะเร็งเริ่มลุกลามไปทางหลอดเลือด" ข้อความตอนหนึ่งในเฟซบุ๊กของ Mee-Pooh Poochanok ผู้สื่อข่าวสังกัดสถานีข่าว TNN24 ซึ่งเป็นเรื่องน่าตกใจมากสำหรับเขาที่อายุเพียงแค่ 30 ปีเท่านั้น

กลายเป็นกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์ และมีคนแห่ให้กำลังใจนักข่าวหนุ่มรายนี้กันเป็นจำนวนมาก ทั้งยังขอบคุณเรื่องราวของเขาที่ช่วยเตือนสติ และเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ใครหลายๆ คน โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่มักจะให้ความสำคัญกับงาน หรือสนุกกับงานจนลืมหันมาดูแลสุขภาพของตัวเอง


ล่าสุด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. และผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้มอบเงินสดในนามส่วนตัว จำนวน 100,000 บาท เพื่อช่วยเหลือการรักษาและเป็นกำลังใจในการต่อสู้ของนักข่าวรายนี้ ส่วนท่านใดประสงค์ให้ความช่วยเหลือ สามารถส่งผ่านน้ำใจไปถึงนักข่าวหนุ่มโดยตรงผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี นายภูชนก รักไทย เลขที่บัญชี 021-0-15809-3 สาขาบิ๊กซี สะพานควาย


เมื่อพูดถึง "โรคมะเร็งตับ" เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งยอดฮิตที่คุกคามชีวิตเพศชาย โดยในความเข้าใจพื้นฐานของคนทั่วไป หากกินเหล้ามากๆ จะเป็นตับแข็ง ส่งผลให้เป็นมะเร็งตับตามมา แต่ปัจจุบันมีข้อมูลพบว่า คนไทยอาจดื่มเหล้าลดลง ทำให้คนที่เป็นโรคตับแข็งจากการดื่มเหล้าพบได้น้อยลงไปด้วย แต่หากกินอาหารที่มีส่วนผสมของเหล้า หรือแอลกอฮอล์ติดต่อกันนานๆ อาจทำให้ตับทำงานหนักทุกวันจนเป็นตับแข็งและมะเร็งได้เช่นกัน


โพสท์นี้จะสำคัญมากๆต่อชีวิตผมครับ"คุณเป็นมะเร็งที่ตับ ในระยะที่อันตราย เพราะตับถูกทำลายไปแล้วครึ่งหนึ่งทางฝั่งซ้าย มะเ...

Posted by Mee-Pooh Poochanok on Friday, December 25, 2015


สำหรับสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด คือ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เช่นเดียวกับกรณีของนักข่าวหนุ่มรายนี้ที่คุณหมอบอกว่าเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีที่อาจได้รับมาทางกรรมพันธุ์ โดยไวรัสชนิดนี้ ส่วนมากมักได้รับเชื้อจากคุณแม่ตั้งแต่คลอด หรืออาจติดจากสามี-ภรรยา หรือแฟน ส่วนจะมีอาการของโรคตับอักเสบหรือไม่ ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคน ซึ่งบางคนแทบไม่มีอาการเป็นแล้วหายเอง และมีภูมิต้านทานในตัว

ในขณะที่บางคนเป็นแล้วเชื้อไม่หายกลายเป็นชนิดเรื้อรัง หรือเป็นพาหะติดต่อผู้อื่นได้ พอตับอักเสบนานๆ เข้า เป็น 10-20 ปี ก็ทำให้เซลล์ตับเป็นพังผืด เหี่ยวลง จนอาจกลายเป็นโรคตับแข็ง ซึ่งบางเซลล์ในล้านๆ เซลล์ อาจพัฒนาเป็นมะเร็งตับได้


ปัจจุบัน โรคมะเร็งตับเป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยที่สุด เป็นอันดับหนึ่งในผู้ชาย และอันดับสามในผู้หญิง สอดรับกับข้อมูลจากกรมการแพทย์ที่มีการเปิดตัวเลขผู้ป่วยมะเร็งตับรายใหม่ประมาณ 20,000 ราย อัตราการเสียชีวิตประมาณ 15,000 รายต่อปี โรคมะเร็งตับที่พบมากในไทยมี 2 ชนิด คือ โรคมะเร็งของเซลล์ตับ และโรคมะเร็งท่อน้ำดีตับ พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ


สาเหตุของโรคมะเร็งตับเกิดจากการไวรัสตับอักเสบชนิดบี ส่วนโรคมะเร็งท่อน้ำดีตับเกิดจากพยาธิใบไม้ตับร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีดินประสิว และไนไตรท์ เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้ม แหนมไส้กรอก เบคอน เป็นต้น

นอกจากนี้ การดื่มสุราเป็นประจำ การเคี้ยวหมาก สารพิษอะฟลาทอกซิน ซึ่งเกิดจากเชื้อราบางชนิดที่พบในอาหารประเภทถั่ว ข้าวโพด พริกแห้ง รวมถึงไวรัสตับอักเสบชนิดซีก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทำให้เกิดโรคมะเร็งตับด้วย

ด้านอาการของโรคมะเร็งตับ นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงอาการของโรคนี้ไว้ให้สังเกตในเบื้องต้น เริ่มจากเบื่ออาหารโดยไม่มีสาเหตุ แน่นท้อง ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อเป็นประจำ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด มีไข้ต่ำเป็นประจำ ปวดหรือเสียดชายโครงขวา อาจคลำพบก้อนในช่องท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต และบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง หากมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย


สำหรับการป้องกันโรคมะเร็งตับ ได้แก่ การให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน ป้องกันรักษาโรคพยาธิใบไม้ตับ ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ รับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ รับประทานผักผลไม้สดเป็นประจำ


หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารที่มีราขึ้น อาหารที่มีดินประสิว (ไนเตรท) และไนไตรท์ อาหารหมักดอง เค็มจัด เผ็ดจัด เนื้อสัตว์รมควัน ปิ้ง ย่าง ทอดจนไหม้เกรียม ไม่รับประทานปลาดิบๆ สุกๆ ที่สำคัญคือ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เคี้ยวหมาก และลดความเครียด รวมถึงออกกำลังกายเป็นประจำ


หากสงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโรค โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคตับเรื้อรังหรือมีประวัติเป็นโรคตับอักเสบควรรับการตรวจหามะเร็งอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงทีและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับได้


*** ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง

8 วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็น "มะเร็งตับ"




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น