xs
xsm
sm
md
lg

รพ.สมิติเวชศรีราชาร่วมมูลนิธิโรคตับแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรมเนื่องในวันตับอักเสบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - รพ.สมิติเวชศรีราชา ร่วมมูลนิธิโรคตับแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมเนื่องในวันตับอักเสบ ด้วยการรณรงค์ตรวจไวรัสตับอักเสบบีให้แก่ผู้ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจ 100 คน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายพร้อม รพ.ชั้นนำทั่วประเทศกว่า 82 แห่ง ระหว่างวันที่ 27-29 กรกฎาคมนี้

วันนี้ (28 ก.ค.) แพทย์หญิงหนึ่งฤทัย ภิรมณ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคตับและระบบเดินอาหาร ศูนย์โรคตับและระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา ได้เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมเนื่องในวันตับอักเสบว่า โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา ได้ร่วมกับมูลนิธิโรคตับแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมรณรงค์ตรวจไวรัสตับอักเสบบีให้แก่ประชาชนที่ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจ 100 คน ณ โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศกว่า 82 แห่ง ระหว่างวันที่ 27-29 ก.ค.นี้ ภายใต้โครงการ “เรารักตับ” ครั้งที่ 15

โดยกล่าวว่า การจัดโครงการในปีที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เข้ารับการตรวจทั้งสิ้น 6,019 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มอายุ 41-50 ปี และ 51-60 ปี มากที่สุดคือ ร้อยละ 24.61 รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 31-40 ปี ร้อยละ 22.66 และด้วยรายละเอียดที่กล่าวมาทำให้โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา เล็งเห็นความสำคัญของการช่วยกันรณรงค์สนับสนุนการตรวจไวรัสตับอักเสบบีในประชากรของประเทศ ซึ่งโรคไวรัสตับอักเสบบี เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งตับ ที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับต้นๆ ไวรัสตับอักเสบบีเป็นเชื้อไวรัส DNA ชนิดเล็กขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ติดต่อได้ทางน้ำคัดหลั่งของผู้ป่วย ทางน้ำเหลือง ทางเลือด

เช่น การสักผิวหนัง การใช้ของมีคมกับผู้ติดเชื้อ หรือว่าจากทางแม่ไปสู่ลูก หลังจากที่ได้รับเชื้อเข้าไปแล้วเชื้อจะไปสะสมอยู่ที่ตับ ทำให้เกิดตับอักเสบ หากผู้ป่วยร่างกายสามารถควบคุมโรคได้โรคก็จะหาย แต่ก็มีผู้ป่วยบางรายที่โรคไม่หายกลายเป็นเรื้อรังแล้วก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับแข็ง และมะเร็งตับในที่สุด

“เนื่องจากโรคไวรัสตับอักเสบบี มีวัคซีนป้องกันโรคได้ เพราะฉะนั้นเราจะต้องรณรงค์ให้คนไทยทุกคนหันมาตรวจดูก่อนว่าเคยติดเชื้อหรือไม่ หรือมีภูมิเอง ซึ่งหากไม่มีการติดเชื้อ และไม่มีภูมิ ขอแนะนำให้มาฉีดวัคซีนป้องกัน เพราะเชื้อสามารถติดต่อได้ทางน้ำเหลือง ทางน้ำเลือด และสิ่งคัดหลั่งต่างๆ ฉะนั้น จะต้องลดการใช้ของมีคมร่วมกับผู้ป่วย ควรใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ แล้วก็หลีกเลี่ยงการสักผิวหนัง เวลามีบาดแผลก็ต้องระวังอย่าให้ติดเชื้อได้” แพทย์หญิงหนึ่งฤทัย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น