หลังทดลองให้บริการฟรีมากว่า 2 ปี ต่อไปนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2558 บริษัทกรุงเทพธนาคม หรือ "เคที" จะเริ่มเก็บค่าโดยสารแท็กซี่วีลแชร์ในอัตราเดียวกับแท็กซี่เริ่มต้น 35 บาท ส่วนค่าเรียกใช้บริการ 50 บาทจะเริ่มเก็บในวันที่ 1 มี.ค.ปีหน้า จุดประเด็นทวงสัญญาที่พ่อเมืองกรุงเทพฯ เคยให้คำมั่นก่อนหาเสียงว่าจะจัดเก็บค่าโดยสารครึ่งราคา ส่วนค่าเรียกใช้บริการ 50 บาทก็มีการเรียกร้องเช่นกันว่า เก็บแพงเกินไปหรือไม่
แท็กซี่คนพิการ ค่าเรียกใช้ 50 บาท
หลังจากที่บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ "เคที" ในฐานะวิสาหกิจกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เปิดทดลองให้บริการรถผู้พิการ และผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นหรือวีลแชร์ตั้งแต่วันวันที่ 5 ธ.ค. พ.ศ. 2555 เป็นครั้งแรกในประเทศไทยตามนโยบายของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นั่นก็คือ มหานครแห่งโอกาสของทุกคน โดยเฉพาะคนพิการ และผู้สูงอายุ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องรถบริการให้กับคนพิการและผู้สูงอายุที่มีอุปสรรคในการเดินทางโดยไม่เก็บอัตราค่าโดยสาร ทำให้แท็กซี่คนพิการได้รับการยอมรับ และมีผู้โดยสายใช้บริการจำนวนมาก
เห็นได้จากสถิติการให้บริการมีการเรียกใช้บริการเฉลี่ยต่อเดือน 1,648 งาน จากจำนวนรถให้บริการ 30 คัน โดยสถานที่เป้าหมายการเดินทางสูงสุดที่โรงพยาบาลร้อยละ 31 ห้างสรรพสินค้าและตลาด ร้อยละ 25 ศูนย์คนพิการร้อยละ 14 บ้านเพื่อนหรือญาติ ร้อยละ 11 ส่วนที่เหลือเดินทางไปยังสถานที่ทั่วไป เช่น สถานที่ราชการ สถาบันการศึกษา วัด เป็นต้น ปัจจุบันทางบริษัทฯ ได้ทดลองให้บริการรถผู้พิการ และผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นหรือวีลแชร์มาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปีแล้ว
ล่าสุด ทาง "เคที" ก็ได้ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อว่าจะเริ่มเก็บค่าบริการตั้งแต่วันที่ 1ธ.ค. 2558 ในอัตราเดียวกับแท็กซี่เริ่มต้น 35 บาท บวกค่าเรียกใช้บริการ 50 บาท แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มภาระของผู้ใช้บริการ กทม.จึงขอให้เรียกเก็บเฉพาะค่าโดยสารไปก่อนและส่วนค่าเรียกใช้บริการ 50 บาท จะเริ่มเก็บในวันที่ 1 มี.ค.2559 เป็นต้นไป
ส่วนเหตุผลในการเก็บค่าโดยสาร และค่าเรียกใช้บริการตามราคาดังกล่าวนั้น ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบอ้างว่า รถแท็กซี่คนพิการมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแท็กซี่ทั่วไป ทำให้รายได้ที่เข้ามาไม่สมดุลกับรายจ่าย แม้กทม.จะสนับสนุนงบประมาณร้อยละ 60 แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายอยู่ดี นอกจากนั้นยังบอกด้วยว่า อัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บรวมค่าเรียกใช้บริการนั้นมีอัตราต่ำกว่าต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงมาก
คำสัญญาที่เคยให้ไว้ หายไปไหน
เมื่อถามไปยังผู้พิการที่สภาพร่างกายพิการรุนแรง ขยับได้เพียงข้อมือถึงข้อศอก "ผักกาด โพธิ์ศรี" ในฐานะอาสมัครคนพิการ หลังจากรู้ข่าว "แท็กซี่คนพิการ" ว่าจะเริ่มเก็บค่าโดยสารในอัตราเดียวกับแท็กซี่เริ่มต้น 35 บาท (ตามรายงานข่าวไม่ได้ระบุว่าจะจัดเก็บค่าโดยสารครึ่งราคาตามที่กทม.เคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้) แถมยังมีค่าเรียกใช้บริการที่แพงกว่าคนทั่วไปในราคา 50 บาทตามมาในปีหน้าอีก ทำให้รู้สึกผิดหวังอย่างมากกับผู้ใหญ่ในสังคมที่ดูเหมือนจะเข้าใจปัญหาของคนพิการและผู้สูงอายุ แต่จริงๆ แล้วไม่เคยเข้าใจเลย
"คนพิการใช้ชีวิตก็ยากอยู่แล้ว พอมาฟังเรื่องของการเรียกเก็บค่าแท็กซี่คนพิการก็รู้สึกหมดหวัง ผิดกับตอนแรกที่ออกมาหาเสียง ไหนบอกว่าจะยกระดับชีวิตคนพิการให้ดีขึ้น ผุดแท็กซี่คนพิการที่นั่งวีลแชร์เข้ามาช่วยเหลือให้นั่งฟรี หรือถ้าเก็บก็จะเก็บครึ่งราคา ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเก็บเต็มราคาหรือเปล่า
หากมีการเก็บเต็มราคา คนพิการที่นั่งวีลแชร์ก็คงต้องกลับไปสู่วังวนเดิม ออกไปไหนมาไหนก็ต้องคิดหนักขึ้น เพราะต้องเสียค่าแท็กซี่ในราคาเต็ม แถมค่าเรียกใช้บริการยังสูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งเราไม่ได้เรียกร้องเพื่อต้องการของฟรีนะคะ แต่ตอนแรกบอกถ้าเก็บจะเก็บแค่ครึ่งราคา 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเราฟังแล้วก็อุ่นใจ ต่อมากลายเป็นว่า กทม.ได้ให้บริษัทกรุงเทพธนาคม หรือเคทีบริหารจัดการในเรื่องของการบริการแท็กซี่เพื่อคนพิการ แล้วก็มาเก็บค่าโดยสาร และค่าเรียกใช้บริหารที่แพงเกินไป
มันก็ชวนให้หวนกลับไปถึงนโยบายต่างๆ ตอนหาเสียง ซึ่งมันขัดแย้งกัน อย่างตัวรถแท็กซี่คนพิการที่ตั้งเป้าให้มี 100 คันภายในปี 2558 แต่ทุกวันนี้มีแค่ 30 คันอยู่เลย ถามว่า แล้วไงต่อ เหมือนลอยแพเคว้งคว้างกันเลย นโยบายที่เคยให้ มันคือนโยบายโปรยหาเสียงเหรอคะท่าน สรุปคนพิการต้องแบกภาระต่อไปหรือคะ ต่อไปนี้จะเชื่อใจ หรือมั่นใจอะไรจากใครได้อีก" อาสมัครคนพิการวัย 46 ปีบอกด้วยน้ำเสียงละเหี่ยใจ
สนับสนุนการเก็บ "ครึ่งราคา"
ดังนั้น ในฐานะคนพิการคนหนึ่ง เธอสนับสนุนให้มีการเก็บค่าแท็กซี่คนพิการครึ่งราคา ส่วนค่าเรียกใช้บริการควรมีการทบทวนราคากันอีกรอบ
"มันเหมือนขูดเลือดจากคนพิการเลยนะ เพราะแท็กซี่ทั่วไปค่าเรียกใช้บริการแค่ 20 บาทเอง แต่นี่เราต้องจ่ายมากกว่าทั้งๆ ที่เคยให้ความอุ่นใจแก่คนพิการตอนหาเสียงว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการให้ดีขึ้น แล้ววันนี้ทางฝ่ายที่ให้บริการบอกว่า เขาต้องจ่ายค่านั่น ค่านี่ แล้วยังไงต่อค่ะ ซึ่งก็จริงอยู่ค่ะ คนพิการ หรือคนสูงอายุบางคนพอจะมีกำลังจ่ายหากเก็บค่าโดยสารเต็มราคา
แต่คนพิการที่ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินเดือน โดยเฉพาะคนพิการที่ต้องนั่งวีลแชร์ ถ้าระบบของสังคมไม่เอื้อต่อคนพิการ ออกไปไหนก็ลำบาก ถูกเลือกปฏิบัติ แท็กซี่คนพิการก็ดันมาเก็บเต็มราคา แถมค่าเรียกใช้บริการยังแพงอีก คนเหล่านี้ก็กลับเข้าสู่วงเวียนชีวิตเดิมๆ กลับมาเป็นภาระของสังคมต่อไปแทนที่จะออกไปทำโน่น ทำนี่หารายได้เลี้ยงตัวเอง" อาสมัครคนพิการคนเดิมเผย
สุดท้ายนี้ เธอบอกในฐานะผู้เคยใช้บริการแท็กซี่คนพิการว่า เป็นโครงการที่ดี และน่าชื่นชม โดยเฉพาะคนขับที่ให้เกียรติคนพิการ พูดจาสุภาพ ขับรถดี รู้เส้นทาง ขับอย่างระมัดระวัง รู้สึกปลอดภัย ส่วนค่าโดยสารเธอบอกว่ายินดีจ่าย ถ้าเป็นการจ่ายแค่ครึ่งราคาตามคำมั่นสัญญาที่กทม.เคยให้ไว้ก่อนหาเสียงว่า ทางกทม.จะสนับสนุนค่าโดยสาร 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ใช้บริการจะจ่ายค่าโดยสารเพียงครึ่งเดียวซึ่งจะมีบิลแจ้งให้ทราบ
"พวกเราไม่ได้ต้องการให้ภาครัฐ หรือทางกทม. ควักเนื้อ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยๆ 50 เปอร์เซ็นต์ก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่ตอนแรกบอกจะช่วยครึ่งราคา แล้ววันนี้มาอ้างโน้นอ้างนี่ เมื่อเป็นแบบนี้ คนพิการจะเอาอะไรไปต่อยอดในชีวิต" อาสมัครคนพิการวัย 46 ปีบอก และอยากให้คนไทยเข้าใจอุปสรรคในการเดินทางของคนพิการให้มากขึ้น มีความเอื้อเฟื้อแก่คนรอบข้าง สังคมไทยจะได้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น
สำหรับแท็กซี่คนพิการ และผู้สูงอายุ หรือแท็กซี่วีลแชร์ เป็นรถตู้ที่นำมาดัดแปลงภายใน และสั่งทำเป็นพิเศษ โดยติดตั้งอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ตัวลิฟต์ สวิตช์ ราวจับ กล้อง และจีพีเอส โดยระยะแรกได้นำรถตู้โตโยต้า รุ่นไฮเอซ มาใช้ทดลอง 10 คัน แต่ด้วยสภาพหลังคาที่ค่อนข้างต่ำ รุ่นต่อมาจึงได้เปลี่ยนมาใช้โตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางขึ้น และหลังคาสูง เพื่อป้องกันศีรษะกระแทก
ด้านตัวผู้ขับขี่จะมีการตรวจสอบประวัติ และผ่านหลักสูตรการอบรมในการบริการจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ ในส่วนของรถแท็กซี่คนพิการและผู้สูงอายุ ไม่สามารถโบกเรียกใช้บริการได้ตามริมถนน จะต้องเรียกใช้บริการผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น และใช้อัตราค่าโดยสารเดียวกับรถแท็กซี่มิเตอร์ทั่วไป
ปัจจุบัน มีอยู่เพียง 30 คัน โดยมีศูนย์ให้บริการประกอบด้วย หนองแขม โทร. 090-090-0720, รามคำแหง โทร. 090-090-0727, พระราม 3 โทร. 090-090-0729 , 090-090-0728 (ให้บริการเฉพาะวันทำงานปกติ) และ 02-294-6524
ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
มาสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน!!ตัวอย่างงานในเซ็กชั่นทั้งหมด>>>...
Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Friday, August 21, 2015
รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754