ตกเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง กรณีผู้กู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จำนวนมากค้างชำระหนี้คืน ล่าสุด คลอดมาตรการกำหราบลูกหนี้กลุ่มจงใจหลบเลี่ยง อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด เดือนร้อนถึงผู้ปกครองผู้ค้ำประกันแบบเลี่ยงไม่ได้
มุจลินทร์ กำชัย รองผู้จัดการ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยความร่วมมือระหว่าง กรมบังคับคดี และ กยศ. ถึงโครงการไกล่เกลี่ยหนี้เมื่อวันที่ 21 - 22 ก.พ. ที่ผ่านมา มีการหนังสือเชิญลูกหนี้ในกรุงเทพมหานคร กว่า 1,976 ราย มูลค่าลหนี้ประมาณ 270 ล้านบาท เพื่อร่วมไกล่เกลี่ยวางแผนผ่อนชำระหนี้ เพื่อไม่ให้ถูกยึดทรัพท์ตามกฎหมาย โดยลูกหนี้ที่ไม่ไกล่เกลี่ยไม่ยอมชำระเงิน ลูกหนี้และผู้ค้ำประกันจะต้องถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด
ด้าน ขวัญระพี จุฬาพิมพ์พันธุ์ รองอธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยผ่านสื่อว่า ขณะนี้หนี้ที่ถูกศาลสั่งบังคับคดีไม่ได้มีเพียงหนี้ครัวเรือน หนี้จากการผ่อนรถยนต์ หรือหนี้บัตรเครดิตเท่านั้น แต่มีหนี้จำนวนมากที่เป็นหนี้ในโครงการเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ทั้งนี้ มาตรการไกล่เกลี่ยหนี้ กยศ. เป็นนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เปิดโอกาสในการแบ่งชำระตามกำลังทรัพย์เป็นงวด เพื่อนำเงินกลับเข้าสู่ระบบกู้ยืมทางการศึกษาแก่นักศึกษารุ่นต่อไป
ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผู้คร่ำหวอดในแวดวงการศึกษาเสนอแนะวิธีแก้ปัญหากรณีผู้กู้ไม่ชำระเงินคืน กยศ. ผ่านสำนักข่าวอิศรา โดยพิจารณาประเด็นสำคัญเชื่อว่าการไม่ชำระหนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เข้าใจของผู้กู้ ความว่า
เกิดจากความไม่เข้าใจระบบโครงการที่แท้จริงว่า กู้แล้วต้องใช้คืน ขณะที่ตัวผู้กู้เองก็ไม่ได้คำนึงถึงว่า ในอนาคตจะมีรุ่นน้องมากู้ต่อ และหากไม่คืนจะสร้างภาระให้กับทางรัฐบาลและส่งผลให้รุ่นน้องอาจขาดโอกาสในการกู้
“ขั้นตอนการดำเนินการเป็นอย่างไรตัวนิสิตนักศึกษาก็ไม่ทราบ เนื่องจากไม่มีการอธิบายอย่างละเอียด รวมถึงการพูดถึงความสำคัญให้นักศึกษาตระหนักและเข้าใจว่า เงินที่กู้ไปนั้นต้องคืนนั้น มีประโยชน์ต่อรุ่นน้องที่จะมากู้ต่อ เป็นต้น”
โดยเสนอแนะแนวทางปฏิบัติ 4 ข้อ เพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้กู้ กยศ. ขำระเงินคืนสู่ระบบ
1. ช่วงเริ่มต้นของการกู้จะต้องมีการแนะนำ พร้อมสร้างความเข้าใจให้นักศึกษาเห็นว่า เงินที่กู้ไปนั้นเป็นเงินที่มีคุณค่า มีคุณค่าต่อรุ่นน้องในอนาคตที่ต้องการจะเรียน มีคุณค่าในการพัฒนาประเทศ หากไม่ชำระคืนจะส่งผลกระทบต่อผู้กู้ในช่วงต่อไป
2. ให้ผูกรายชื่อของผู้กู้เข้าในระบบเครดิตยูโร หากไม่ชดใช้ภาระหนี้ก็จะมีประวัติหนี้เสีย ท้ายที่สุดจะไม่สามารถดำเนินกู้ซื้อบ้านหรือรถได้
3. สำหรับในภาคเอกชน ทางรัฐบาลต้องขอความร่วมมือกับหน่วยงานบริษัท ไม่ให้รับนักศึกษาหรือนิสิตที่มีภาระหนี้แล้วไม่ชดใช้คืน ด้วยการตรวจสอบจากหมายเลขบัตรประชาชน โดยให้ทำข้อมูลผูกกับระบบไว้ ซึ่งแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงชื่อเพื่อหลบหนี แต่เลขบัตรประชาชนเปลี่ยนไม่ได้แน่นอน
4. ห้ามให้นิสิตนักศึกษาที่มีภาระผูกผันหนี้ที่ไม่ชดใช้ กยศ. สมัครสอบราชการ เพราะถือว่าคนที่จะมาเป็นราชการต้องไม่โกง
….....................
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754