xs
xsm
sm
md
lg

วันนี้ของ “เทย่า โรเจอร์” โกอินเตอร์และรักครั้งใหม่?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ถ้ายังจำกันได้ “ เทย่า โรเจอร์” เคยดังเป็นพลุแตก ตอนที่แสดงเป็นนางเอกละครเรื่อง “ปริศนา” คู่กับ “ติ๊ก- เจษฎาภรณ์” เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ช่วงที่กำลังดังสุดขีดนี่เอง เทย่าตัดสินใจกลับไปเรียนต่อไฮสคูลและมหาวิทยาลัยที่อเมริกา แม้จะห่างหายจากวงการบันเทิงไทยไปบ้าง แต่เราก็ยังเห็นเธอกลับมารับงานที่เมืองไทยเป็นระยะๆ พร้อมข่าวคราวว่าเธอไปโกอินเตอร์ที่โน่น มาวันนี้ เทย่าบินกลับมารับงานละครที่เมืองไทย เราเลยได้ทีชวนเธอมาอัพเดทชีวิตตอนนี้

ต้องบอกว่าสองชั่วโมงที่พูดคุยกับเทย่า เราสัมผัสได้ถึงพลังมุ่งมั่น ความสวยสดใสของเธอที่ไม่เคยแปรเปลี่ยน แม้เวลาจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตามที

อัพเดทงานปัจจุบัน

เรามีนัดกับเทย่าที่โรงแรม The Davis Bangkok ย่านสุขุมวิท เธอมาพบเราในชุดเสื้อแขนกุด กางเกงขายาว และรองเท้าส้นสูง ใบหน้าแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางค์กำลังเหมาะ ดูน่ารักสดใส ไม่ต่างจากที่เราเคยเห็นเธอในทีวีมาก่อน ไม่ไกลกัน เราแอบเห็นหนุ่มหน้าตี๋ หนุ่มรู้ใจของเธอกำลังนั่งรออยู่ใกล้ๆในค็อฟฟี่ช็อฟของโรงแรม

พอถามว่าชีวิตของเธอตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เทย่ายิ้มรับพร้อมตอบว่า

“ตอนนี้เทย่ากลับมาเมืองไทยได้พักหนึ่งแล้วค่ะ ความจริงก็ไปๆ มาๆ ระหว่างไทยกับอเมริกา กลับมาเที่ยวนี้มาถ่ายละคร 2 เรื่องของเอ็กแซ็กท์ เรื่องแรกชื่อ “เสือ” ส่วนอีกเรื่องยังบอกชื่อเรื่องไม่ได้ แต่บอกได้ว่าเป็นแนวคอมเมดี้ค่ะ (ยิ้ม)”

ถ้าใครยังจำกันได้ เรื่อง “เสือ” นี้เคยถูกฉายเป็นละครทางโทรทัศน์มาแล้วประมาณช่วงปี 2546 ซึ่งตอนนั้นนำแสดงโดย ลูกเกด -เมทินี และก้อง -สหรัถ มาเวอร์ชั่นใหม่นี้ เทย่าบอกว่าจะเป็นละครรีเมคที่ปรับเปลี่ยนโครงเรื่องใหม่ จากเวอร์ชั่นเดิมที่มีพระเอก 1 คน มาเวอร์ชั่นใหม่นี้จะมีพระเอกถึง 2 คน นำแสดงโดยแบงค์ วงแคลช และไนกี้- นิธิดล ป้อมสุวรรณ

“เทย่ารับบทเป็น “ณจันทร์” นางเอกของเรื่องค่ะ เรื่องนี้เป็นละครรีเมค แต่โครงเรื่องอาจไม่ใช่เรื่องเดิมแล้ว เพราะเราเอาโครงเรื่องเดิมมาปรับให้เป็นเรื่องใหม่ และยังเปลี่ยนเนื้อหาให้เกี่ยวกับความรักทั้งหมดเลย คือ ใช้ความรักเป็นตัวดำเนินเรื่อง

“เนื้อหาเกิดขึ้นในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับณจันทร์ที่ติดเชื้อมาจากเสือสมิงตั้งแต่ตอนเด็ๆ จนพอโตขึ้น มีโอกาสได้มาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ อยู่ๆ เขาก็เริ่มมีอาการเสือสมิงเกิดขึ้น โดยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาจำไม่ได้ว่าเคยดื่มเลือดเสือเข้าไป รู้แค่ว่าพ่อเขาตายเพราะเสือกัด ส่วนพระเอกก็เป็นเสืออีกตัวหนึ่ง แสดงโดยพี่แบงค์ ก็ออกมาตามหาณจันทร์ ในขณะที่พระเอกอีกคนคือ ไนกี้ เล่นเป็นลูกค้าของบริษัท เป็นคนรักสัตว์ ดูแลสิ่งแวดล้อม ณจันทร์เลยรู้สึกมีความรักกับทั้งสองพระเอกค่ะ”

เทย่ายอมรับว่าความยากของการเล่นละครเรื่องนี้คือ การที่ต้องรับบทเป็นทั้งเสือและคนในเวลาเดียวกัน ดังนั้นเธอต้องพยายามฝึกแอ๊คติ๊งให้ตัวเองคล้ายดูเสือมากที่สุด ไม่ว่าจะการนั่ง การเดิน การกิน ฯลฯ โดยพยายามไม่ไปดู “ณจันทร์”ในเวอร์ชั่นเดิม เพราะอยากออกแบบคาแรคเตอร์ของตัวละครนี้ให้ดูต่างออกไป และเป็นตัวเธอมากที่สุด

ความรักของคนกับคนก็ว่ายากมาก เรื่องนี้ดันเป็นความรักของคนกับเสือ แถมยังเป็นรักสามเส้าด้วย ทำให้เทย่ามองว่าความรักของณจันทร์ให้มุมมองหลายอย่างแก่เธอไม่น้อย

“เทย่าว่ามันยากตรงที่ว่า ผู้หญิงคนนี้รักผู้ชายสองคน และไม่ได้รักเล่นๆ คือรักจริงๆ แบบยอมตายและยอมทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายสองคนนี้ แต่ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกผิดว่าไม่ถูกที่จะรักผู้ชายสองคนพร้อมกัน ดังนั้นเขาก็ต้องค้นหาตัวเองว่า ความรักอันไหนจะแรงกว่ากัน อะไรที่จะทำให้เขายอมเสียสละตัวเองเป็นเสือ หรือว่าจะกลายเป็นคน คือเรื่องนี้อาจจะไม่ได้สอนในด้านความรักมาก แต่อยากให้ดูคาแรคเตอร์ของณจันทร์ว่าซื่อสัตย์จริงๆ คือ เวลาที่เขาทำผิด เขารู้สึกผิด หรือเวลาที่เขารักผู้ชายคนไหน จริงใจกับอะไร เขาก็จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกนั้นค่ะ”

ชีวิตงานบันเทิงที่อเมริกา

เห็นเทย่ากลับไปอยู่อเมริกาหลายปี บินกลับมาเมืองไทยก็บ่อย พอถามเธอว่าทำไมไม่กลับมาอยู่รับงานที่เมืองไทยจริงๆ จังๆ เสียที เธอตอบว่า

“เทย่าคงต้องไปๆ มาๆ ระหว่างไทยและอเมริกาตลอดค่ะ เพราะเวลาเทย่าอยู่ที่นี่ เทย่าคิดถึงที่โน่น แต่เวลาอยู่ที่โน่น ก็คิดถึงที่นี่ (หัวเราะ) ดังนั้นจะให้อยู่ที่โน่นเลยคงไม่ได้ หรือจะให้อยู่ที่นี่ก็คงไม่ได้เหมือนกัน คงจะอยู่ทำงานทั้งสองที่ค่ะ (ยี้ม)

เชื่อว่าคนคงอยากรู้ว่าชีวิตงานบันเทิงของเทย่าที่อเมริกาเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าตัวอธิบายว่างานบันเทิงที่อเมริกาไม่ได้เยอะอย่างที่หลายคนคิด เธอพยายามไปแคสงานและเรียนแอคติ้งทุกสัปดาห์ แต่กว่าจะได้งานสักชิ้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แม้บางบทจะเป็นแค่ตัวประกอบ ได้พูดไม่กี่ประโยคในละครซีรีส์ แต่กลับมีคนมาแคสงานเป็นพันคน เรียกว่ามีคู่แข่งเพียบ

“ปกติเทย่าจะมีโมเดลลิ่งและผู้จัดการคอยรับงานให้ แต่ไปแคสงานประมาณ 100 งาน เทย่าจะได้งานประมาณ 5% ได้ คือได้งานน้อยมาก เพราะการแข่งขันที่โน่นสูงมาก เวลาไปแคสงานที จะมีคนมาแคสงานเป็นพันๆ คน ไม่ว่าจะเป็นบทแค่ประโยคเดียว หรืองานโฆษณาที่ไม่มีประโยคพูดด้วยซ้ำไป

“ที่ผ่านมา เทย่ามีโอกาสไปเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์บ้าง มีโฆษณา มีงานถ่ายแบบบ้าง ล่าสุดช่วงคริสต์มาส ได้งานถ่ายโฆษณารถ แต่ถ่ายวันเดียวเองค่ะ ไม่ใช่บทเด่นมาก เหมือนว่าเขามีพรีเซนเตอร์คาแรคเตอร์ที่เป็นตัวเด่น นอกนั้นก็เป็น Extra เป็นผู้หญิง 5 คน ซึ่งเทย่าก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นฉากที่คนดังกำลังจะเดินเข้างาน แล้วมีสาวๆ แฟนคลับ 5 คน บอกว่า “มาแล้วๆ” เห็นเทย่าแค่ประมาณ 3 วิฯ เองมั้งคะ (หัวเราะ)

“เรื่องน่าเสียดายคือ เทย่าเกือบจะได้เป็นนางเอกซีรีส์เรื่องหนึ่งแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็มาแคนเซิล ดังนั้นเทย่าเจอมาเกือบทุกรูปแบบแล้ว อย่างเดียวที่ยังไม่เจอคือ ไปถ่ายแล้วโดนตัดฉากทิ้ง เหมือนเพื่อนเทย่าที่ได้ไปเล่นหนัง Hollywood เขาได้รับบทเป็นแฟนของลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เขาเลยตื่นเต้นมาก พาแฟนและแม่ไปนั่งดูหนังรอบพรีเมียม แล้วปรากฎว่าฉากของเขาถูกตัดออกหมดเลย โดยไม่มีใครบอกเขา คือ จะบอกว่าวงการที่โน่นโหดมาก ถ้าเทย่าเจอแบบนั้น คงจะร้องไห้กลับบ้านไปแล้ว”

เทย่าเล่าว่าด้วยความที่เธอมีลุคเป็นลูกครึ่งไทย- อเมริกัน ทำให้คาแรคเตอร์เธอไม่ชัดว่าเป็นเอเชียหรืออเมริกันกันแน่ ทำให้หางานยากตามไปด้วย

“ปัญหาที่เทย่าเจอบ่อยมากในการทำงานที่อเมริกา คือ คนเข้าใจว่าเทย่ามาจากเมืองไทย ก็ต้องเป็นคนเอเชีย เลยชอบเรียกไปแคสบทสาวเอเชีย แต่ความที่เทย่าเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ลุคเลยไม่เหมือนคนเอเชียเท่าไหร พอไปแคสงาน คนก็จะมองว่าใช่คนเอเชียจริงๆ หรือเปล่า ดังนั้นโอกาสจะได้งานก็ยาก แต่เมื่อเราไปแล้ว เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด

“มีบทหนึ่ง เขาอยากได้ผู้หญิงญี่ปุ่น เทย่าอ่านบทแล้วคิดว่าไม่ว่าเราจะเล่นได้สุดยอดแค่ไหน ก็คงไม่มีทางได้บทนี้แน่ๆ เพราะลุคเราไม่ใช่ แต่ด้วยสปิริต เทย่าก็ต้องไปแต่งหน้าทำผม เข้าไปแคสงานบอกว่า “สวัสดีค่ะ เทย่าค่ะ เข้ามาอ่านบทนี้นะคะ” พอเล่นไป เขาก็เรียกกลับมาอีกรอบหนึ่ง เพราะงงว่าผิดคนเปล่า เลยต้องไปอ่านให้เขาฟังอีกรอบหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้”

แม้หนทางโกอินเตอร์จะไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เทย่ารู้สึกยอมแพ้ เธอบอกว่าทุกวันนี้ยังสนุกกับการทำงานและจะทำไปเรื่อยๆ ตราบที่ยังคงไหวอยู่

“ล่าสุดก่อนเทย่ากลับมาไทยครั้งนี้ เทย่าไปนั่งคุยงานกับเอเย่นต์คนหนึ่งในร้านอาหาร คือ เขาจะช่วยเสนองานให้เทย่า เทย่าเลยบอกเขาว่าขอกลับไปถ่ายละครที่เมืองไทยก่อน แต่ถ้าในอนาคตมีงานอะไรก็ช่วยคิดถึงเทย่าด้วยนะคะ เขาก็บอกโอเค

“สักพักมีเด็กเสิร์ฟของร้านเดินเข้ามาหาที่โต๊ะบอกว่า “ขอโทษนะครับ พอดีเชฟของเราวันนี้เป็นคนไทย เขาบอกว่าเป็นแฟนคลับของคุณ เลยอยากนำเสนออาหารจานนี้มาให้ “ จากนั้นเชฟก็ออกมาขอถ่ายรูปด้วย เขาบอกว่า “ดีใจมากนะครับที่ได้เจอ คราวหน้ามากินอีกนะครับ “ เทย่าเลยขอบคุณเขาไป ส่วนเอเย่นต์ถามกลับว่า “นี่คุณเป็นดาราจริงๆ ใช่ไหม” (ยิ้ม) เทย่ากลับบ้านแบบคิดว่ามีใครเชียร์เทย่าอยู่ใช่ไหม ดีใจมาก เรื่องนี้ทำให้ภาพพจน์เราดูดีมาก เพราะปกติเอเยนต์คนอื่นจะบอกว่า “ผู้หญิงคนนี้คือใคร ไม่เห็นรู้จักเลย”

ครั้งหนึ่งเทย่าเคยรับบทเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์อเมริกาเรื่อง “Cold Case” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลายคนคิดว่าเธอไปโกอินเตอร์ที่อเมริกาแล้ว เธอเล่าถึงความทรงจำที่ได้มีโอกาสแสดงในซีรีสเรื่องนี้ว่า

“ตอนนั้นเทย่ารับบทเป็นสาวลูกครึ่งจีน- อเมริกัน ที่โน่นเขาเล่นถ่ายวันละ 6-10 ฉากจบ คือ ถ่ายทั้งวันและจบในวันเดียวเลย เทย่าก็ถ่ายวันเดียว ทีมงานน่ารักมาก พอเทย่าถ่ายจบ ก็เดินไปบอกทีมงานว่าขอบคุณนะคะ กลับบ้านก่อนนะคะ แต่ทีมงานบอกว่า อย่าเพิ่งกลับ ให้ไปรอผู้กำกับเปลี่ยนฉากก่อน จากนั้นเขาก็เข้าไปบอกผู้กำกับว่าเทย่ากำลังจะกลับแล้วนะ ผู้กำกับก็หยุดงานในกองทุกอย่าง บอกว่าวันนี้สนุกมาก ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่าง และบอกให้ทุกคนปรบมือให้เทย่าหน่อย รู้สึกดีใจมากจนอยากจะร้องไห้ ทั้งที่เราเป็นแค่แขกรับเชิญ ได้ถ่ายแค่ 5 ฉาก แต่เขากลับให้ความสำคัญทุกคน เพราะเขารู้ว่าไม่ว่าใครจะรับบทเล็กน้อยแค่ไหน แต่ทุกคนก็ตั้งใจมาทำงาน เพื่อให้งานชิ้นนี้ออกมาดีที่สุดค่ะ”

แม่พระของคนยากไร้

แม้จะอยู่ไกลถึงเมืองนอก แต่เทย่าก็ไม่ทิ้งนิสัยชอบทำบุญ เธอบอกว่าความที่หาวัดไทยใกล้บ้านยาก เลยเน้นหันมาทำทานกับคนยากไร้แทน โดยเทย่ากับเพื่อนๆ มักจะนัดรวมกลุ่มกันทำอาหารไปแจกคนไร้บ้านอย่างสม่ำเสมอ

“ทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของทุกเดือน เทย่ากับเพื่อนๆ จะนัดรวมตัวกัน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาอนุญาตให้เราใช้พื้นที่ของเขา ทุกคนจะไปซื้อวัตถุดับมาทำอาหารแจกคนที่ไม่มีบ้าน หรือคนที่อยู่ข้างถนน ช่วงแรกมีแค่ไม่กี่คนเอง แต่ตอนหลังเรารวมตัวกันได้ประมาณร้อยกว่าคน ทุกสัปดาห์จะชวนกันมาทำแซนวิชประมาณ 1,000- 2,000 ชิ้น ทำคุกกี้ใส่เป็นถุง ใส่น้ำผลไม้ลงไปด้วย แล้วเอาถุงนั้นไปแจกให้กับคนไร้บ้านค่ะ (ยิ้ม)

“ ในถุงเราก็จะเขียนการ์ดใส่ลงไปด้วยว่า “ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับคุณนะคะ” จากนั้นก็จะช่วยกันขนอาหารขึ้นรถ 5-6 คัน ขับรถเข้าไปอีกฝั่งในเมืองแล้วเอาถุงเหล่านี้ไปแจก แต่ตำรวจชอบมาห้ามว่า “คุณจอดรถตรงนี้ไม่ได้นะครับ” เราก็ต้องต่อรองว่าขอเวลา 5 นาที เรามาแจกอาหารให้กับคนที่ไร้บ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีอาหาร แต่แค่นั้นตำรวจก็บอกว่าไม่ได้ครับ คุณต้องเลื่อนรถ จอดรถนี้ไม่ได้ เจอแบบนี้ก็เซ็งไปเหมือนกันค่ะ “ เธอเล่า ก่อนจะเสริมว่าถึงกระนั้นก็ไม่ทำให้เธอท้อในการทำความดี

“เทย่ารู้สึกว่าการช่วยเหลือคนอื่นที่อเมริกามีขั้นตอนมาก ไม่ง่ายเหมือนในเมืองไทย เทย่าเห็นเพื่อนฝรั่งคนหนึ่งที่ฉลาดมาก คือ เขาจะทำถุงเล็กๆ ซึ่ใส่แปรงสีฟัน ยาสีฟัน คุกกี้ และของใช้เล็กๆ น้อยๆ เก็บไว้ในรถตลอดเวลา เวลาที่เขาเจอคนขอทาน หรือคนข้างถนนมาขอเงินอย่างนี้ เขาจะเอาถุงนั้นให้แทน เพราะนี่คือของที่ทุกคนต้องการ ทุกคนต้องใช้ แทนที่จะให้เงินแล้วไม่รู้เขาจะเอาเงินไปทำอะไร”

ความรักครั้งเก่า & รักครั้งใหม่

ถ้ายังจำได้ เทย่าเคยคบหาดูใจกับนักร้องชาวอเมริกันวง Saosin ชื่อ “โคฟ” ก่อนที่ทั้งคู่จะเลิกรากันได้ประมาณหนึ่งปีเศษแล้ว เธอพูดถึงความรักครั้งเก่าไว้อย่างน่าสนใจ หลายมุมมองแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ใช้แค่ความรู้สึกในเรื่องของความรัก หากแต่รู้จักใช้สมองไตร่ตรองและรู้จักถอยเมื่อถึงเวลาไม่ใช่

“เทย่าเลิกกับโคฟได้ประมาณปีเศษแล้วค่ะ เหมือนว่าเราอกหักกันทั้ง 2 คน เราทั้งคู่รู้ว่าเลิกกันดีกว่า เพราะมันถึงจุดที่ยากเกินไปแล้ว เหมือนว่าเรากำลังเติบโตกันไปคนละทาง ที่ผ่านมาเทย่าพยายามจะดึงเขาเข้ามา เพื่อที่จะให้อยู่ด้วยกันได้ แต่สุดท้ายมันไม่ได้ เทย่าอยากให้เขาแฮปปี้ เขาก็อยากให้เทย่าแฮปปี้ เลยโอเคกันว่าต่างคนต่างหาวิธีดูแลตัวเองดีกว่า เพราะเราไม่สามารถช่วยอีกคนหนึ่งได้แล้ว”

“เรื่องนี้ทำให้เทย่านึกถึงสิ่งที่คุณแม่สอนมาตั้งแต่เด็กว่า ถ้าเราไม่ดูแลตัวเอง เราจะไม่สามารถดูแลคนอื่นได้ และอีกอย่างหนึ่งคือ เวลาเราพยายามช่วยคนอื่น หรือพยายามทำอะไรให้คนอื่น เราก็จะสามารถทำได้แค่นี้ คือ ถ้าอีกฝ่ายไม่รู้จักช่วยเหลือตัวเอง ไม่ปรับปรุงตัว ไม่เปลี่ยนตัวเองแล้ว ไม่ว่าเราพยายามทำอะไรก็ตาม มันก็ไม่มีทางดีขึ้น คือ เขาอยากจะไปทางนี้ เทย่าอยากจะไปทางนี้ เวลาเราไปกันคนละทางแล้ว มันเลยเริ่มห่างมากขึ้นเรื่อยๆ

“ความจริงโคฟก็พยายามทำทุกอย่างนะคะ แต่เทย่าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่เวิร์ก อาจเป็นเพราะชีวิตของเขาต้องไปทางนั้น ซึ่งมีอะไรที่ดีกว่าและอาจไม่ใช่เทย่าแล้ว ไม่ได้แปลว่าเทย่าไม่ดี หรือเขาเป็นคนไม่ดีนะคะ แต่มันอาจถึงเวลาที่เทย่าและเขาควรจะมองหาคนที่ดีที่สุดเหมือนกัน เทย่าได้เรียนรู้ว่าการที่เรารักกัน ก็ไม่พอที่จะให้เราสองคนอยู่ด้วยกันได้ เวลานี้มันเหมือนจบหนังสือเล่มนี้ไปแล้ว เราก็ต้องปิดเล่มนี้แล้วหาเล่มใหม่ต่อไป”

พอแง้มถามถึงสเป็คผู้ชายที่เทย่าชอบ เธอตอบทันทีว่า

“เทย่าชอบคนที่ขยัน ชอบลองอะไรใหม่ๆ นิสัยไม่ต้องซีเรียสมากและชอบการเดินทาง ที่บอกว่าชอบคนเดินทาง เพราะคิดว่าเขาจะสามารถเห็นโลกในมุมมองของคนอื่นๆ ด้วย ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญค่ะ”

ส่วนข่าวคราวที่เธอมีหนุ่มตี๋เป็นคนรู้ใจใหม่นั้น เทย่าบอกว่าไม่สะดวกที่จะเปิดเผยชื่อหนุ่มรู้ใจตอนนี้ บอกได้แต่ว่าเป็นชาวเวียดนามที่เติบโตและทำงานอยู่ที่อเมริกา ความที่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ทำให้ทั้งคู่คลิกกันไม่ยาก แน่นอนว่าเป็นคนเดียวกับที่มานั่งเฝ้าเธอในขณะให้สัมภาษณ์อยู่ตอนนี้

“ เพิ่งคบกันมาไม่นานค่ะ แต่รู้จักเป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนเทย่าอีกทีหนึ่ง เคยเจอกันในงานวันเกิดของเพื่อน หลังจากนั้นเลยคุยกันและกลายเป็นว่ามีเพื่อนกลุ่มเดียวกันเยอะ คือ เขารู้จักเพื่อนของเทย่าหลายกลุ่มมาก เวลาเทย่าไปเจอเพื่อน ก็เลยมีโอกาสเจอเขาบ่อยๆ ”

แอบเห็นหนุ่มรู้ใจคนนี้ตามเทย่ามาเมืองไทยด้วย เลยอดสงสัยไม่ได้ว่าอีกฝ่ายทำงานอะไร ถึงได้มีเวลาตามเทคแคร์ไม่ห่างแบบนี้ เทย่าตอบข้อสงสัยนี้ว่า

“เขาทำงานอีเว้นท์ค่ะ ประเภทไนต์คลับอะไรทำนองนี้ค่ะ ดังนั้นเขาไม่ต้องอยู่ที่อเมริกาตลอดก็ได้ สมมุติว่ามีงานปาร์ตี้ เขาก็สามารถเมเนจงานจากต่างประเทศได้ เช่น คอยเช็คว่าต้องเชิญแขกกลุ่มนี้บ้าง คนกลุ่มไหนต้องนั่งตรงไหน”

ประทับใจอะไรในตัวเขาคะ?

“ชอบที่เขานิสัยเหมือนเทย่า ชอบเดินทาง ชอบมองอะไรใหม่ๆ และเป็นคนขยันมาก เหมือนว่าเขาพยายามทำอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา เขาเป็นคนที่ทำให้เทย่ารู้สึกว่าอยากขยันมากขึ้น อยากฝันอะไรที่ใหญ่กว่าที่เคยฝันไว้ เช่น ถ้าเทย่าฝันอะไรไว้ เขาจะบอกว่าทำสิ ถ้าทำดู มันอาจจะไม่ยากก็ได้

“อย่างเช่นปีที่แล้ว เทย่าอยากตั้งเว็บไซต์ใหม่ของเทย่าเอง นั่งคุยกับเขาว่าน่าจะมีเว็บไซต์เนอะ เขาก็บอกทำไมไม่มีล่ะ หรือไม่ก็ลองทำเอง เดี๋ยวสอนวิธีทำเว็บไซต์ให้ สร้างแค่นี้แล้วยูก็เติมข้อมูลเข้าไป เขาบอกว่าเชื่อว่าเทย่าทำได้ เทย่าก็เลยลองทำดู สุดท้ายก็ทำได้จริงๆ มันอาจไม่ใช่เว็บไซต์สวยหรู แต่เทย่าก็ภูมิใจที่ทำสำเร็จค่ะ (ยิ้ม)

ความสุขของเทย่า

เราถามเทย่าทุกวันนี้ความสุขของเธอคือเรื่องอะไร เทย่าตอบทันควันด้วยความมั่นใจ พร้อมแววตาที่เปี่ยมสุขว่า

“คือ การทำให้คนอื่นมีความสุขค่ะ อย่างเวลาอยู่กับคุณแม่ เทย่าก็จะพยายามตามใจท่าน เพราะอยากเห็นคุณแม่แฮปปี้ พอท่านแฮปปี้ เราก็จะรู้สึกแฮปปี้ตาม หรือเวลาเทย่าทำงาน เทย่ามีความสุขกับการเห็นผู้กำกับและนักแสดงแฮปปี้ที่จะทำงานกับเรา หรือเทย่ากลับมาเมืองไทยเที่ยวนี้ ก็รู้สึกแฮปปี้ว่ายังมีคนรอดูละครของเรา รู้สึกว่ายังมีอะไรอีกเยอะ ที่เราจะสามารถทำให้คนอื่นมีความสุขได้

“ครั้งแรกที่เทย่าอยากเป็นดาราจริงๆ คือ ตอนที่เห็นแองเจลิน่า โจลี่ ไปช่วยเหลือคนที่เขมรเมื่อ 10 กว่าปีก่อน และได้เป็นทูตให้แก่ยูเอ็น ทำให้เราคิดว่าการเป็นดารา สามารถช่วยให้เราทำความดีได้ด้วย ไม่ใช่แค่เพียงใช้ความดังในการหาเงิน เอาเงินไปช้อปปิ้ง หรือซื้อของแพงๆ

“มีคนดูเราตลอดเวลาว่าเราทำอะไร เทย่าเลยอยากจะเป็นคนที่ดีสำหรับคนอื่น อยากจะใช้ชีวิตให้เขาเห็นว่าเขาสามารถทำให้ตัวเองมีความสุขได้อย่างไรบ้าง นี่คือสิ่งที่ทำให้เทย่าแฮปปี้ เหมือนการเอาอาหารไปแจกให้คนไร้บ้านที่อเมริกา เดือนละครั้ง พอเห็นคนรับแฮปปี้ เทย่าก็แฮปปี้ที่ได้ทำให้เขามีความสุขค่ะ (ยิ้ม)”

ASTV ผู้จัดการ Lite

เรื่องโดย สุพรรษา แก้วแสงธรรม
ภาพโดย ปวริศร์ แพงราช

ขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ: โรงแรม The Davis Bangkok (สุขุมวิท 24 โทร.0-2260-8000)

ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage ของ "ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!








เทย่ากับพระเอก 2 คนในเรื่อง “เสือ” คือ แบงค์ วงแคลช และไนกี้- นิธิดล
วันบวงสรวงละครเรื่อง “เสือ” เทย่าถ่ายภาพร่วมกับนักแสดงของเรื่อง
ภาพสวีทของเทย่ากับหนุ่มรู้ใจคนใหม่
งานถ่ายมิวสิควีดีโอโกอินเตอร์ของเทย่า
ไลฟ์สไตล์ของเทย่าที่อเมริกา เมืองลอสแองเจลีส ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องเล่นกีฬาทางน้ำ
กำลังโหลดความคิดเห็น