กระแสการเมืองไทยยังร้อนแรง หลายกลุ่มต้องการปฏิรูปประเทศ ขนาดเด็กไทยและฝรั่งยังอดรนทนไม่ได้ ต้องออกมาร่วมประท้วงกับเขาด้วย มาดูกันว่าใครเป็นใครในม็อบนี้
เชื่อว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครมาจากไหน แต่พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ "หัวใจที่รักชาติ" และต้องการเห็นการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อ่านแล้วตรองดูว่าถึงเวลาหรือยังที่เราในฐานะคนไทยจะลุกอออกมาสู้อย่างนี้บ้าง!
เด็กไทยร่ายกวีเสียดสีรัฐบาล
ถ้าใครผ่านไปแถวหน้าสำนักงานตำรวจในเวลา 2 -3 วันที่ผ่านมา คงจะได้เจอกับเด็กชายสองพี่น้อง “น้องปูนปั้น- อิทธิพัทธ์ ศุภกุล” วัย 11 ปี และ “น้องก้อนอิฐ- อิสรภาพ ศุภกุล” วัย 8 ขวบที่ออกมาร่ายบทกวีกระแทกอารมณ์คนที่เดินผ่านไปผ่านมา โดยความหนึ่งของบทกวีกล่าวว่า
“บรรทัดทองนองน้ำตาพาใจคิด
สันดานดิบบรรทัดฐานรัฐจิตถ่อย
สันดานเดือดที่ผู้นำมันเฝ้าคอย
ฆ่าร่างน้อยวีรชนจนจากไป
ดินแดนแดงดินเดือด
แดงเหมือนเลือด วีรชน
เสียงน้ำหลั่งดุจจะพังทั้งพารา
เสียงมหึมาจากภูผาพาโศกศัลย์
ป่าไพรร่ำร้องไม่พ้องพันธ์
แต่ใจพี่นั้นพลันสงบและจบลง
พี่จากไปด้วยใจบริสุทธิ์
ขออย่าหยุดดวงใจปรารถนา
ขอวันใหม่ให้ใจได้พกพา
วันข้างหน้าประเทศไทยเสรีชน”
น้องปูนปั้น ในฐานะพี่ชายคนโตให้เหตุผลที่ออกมาร่ายบทกวีโดนๆ พร้อมกับครอบครัวว่า
“ผมรู้สึกดีที่ได้มาแสดงออกแบบนี้ครับ เพราะผมอยากให้คนหันมาสนใจปัญหาบ้านเมืองและปัญหาสังคมมากขึ้น ต้องการแสดงออกให้คนได้รู้ถึงเหตุการณ์ ได้รับรู้ถึงปัญหา ถึงเวลาแล้วที่ประเทศเราควรจะมีการปฎิรูปประเทศ เพราะตอนนี้ประเทศไทยมีแต่ปัญหา ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลออกไปเถอะครับ ผมไม่อยากให้มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น อยากเห็นการเมืองไทยมีความสุข มีการปฎิรูปประเทศ อยากให้ประเทศก้าวหน้าต่อไปครับ”
ด้านคุณพ่อของน้องปูนปั้น คือ นายไชยยันต์ ศุภกุล กล่าวว่าตนและลูกๆ ได้ออกมาแสดงจุดยืนที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเวลาสองวันแล้ว เพราะต้องการให้ตำรวจหรือผู้นำของประเทศหันมาย้อนมองตนและใส่ใจพัฒนาสังคมไทยอย่างจริงจัง
“ลูกผมอาจจะไม่รู้ว่าปรัชญาการเมืองคืออะไร แต่เขาจะรู้ว่าทำไมของแพงขึ้น ทำไมเราต้องซื้อของแพงกว่าเดิม แต่คำถามที่เขาถามผมคือ ทำไมคนไทยไม่ตื่นรู้ ทำไมคนไทยแบ่งเป็นสองฝ่าย ทำไมคนโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นแสดงว่าเราไม่ได้อยู่ในระบบรัฐศาสตร์ แต่เราอยู่ในลัทธิของการปกครอง นักการเมืองทำให้สภาพการเมืองเป็นลัทธิการปกครอง เกิดความงมงาย แต่ไม่ได้ตื่นรู้ ไม่ได้เข้าใจหลักรัฐศาสตร์ที่แท้จริง
“ทุกวันนี้คนไทยเหมือนสุนัขวิ่งงับหางตัวเอง เพราะหาตัวเองไม่เจอ คนเน้นใช้ปัจจัยในการดำเนินชีวิต ไม่ได้ใช้ปรัชญา ฉะนั้นคนที่อยู่ในสังคมทุกวันนี้ถึงไม่มีการช่วยเหลือกัน ไม่มีการเหลียวมองคนอื่นๆ เราถึงได้นายกฯที่เป็นคนสันดานแบบนี้ วันนี้ผมและลูกๆ เลยอยากออกมาทำอะไรแบบนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าสังคมต้องหันมามองกันและเยียวยากันมากกว่านี้ครับ”
ฝรั่งหัวใจรักพ่อหลวง
ด้าน Bernd ชาวเยอรมันวัย 51 บอกว่าเขากับภรรยาชาวไทยมาเมืองไทย เพื่อฮอลิเดย์ แต่ก็ออกมาร่วมประท้วงกับชาวไทยทุกวันเป็นเวลาเดือนครึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเวทีราชดำเนิน เวทีอโศก เวทีราชประสงค์ โดยเขาอธิบายสาเหตุที่ออกมาร่วมประท้วงด้วยว่า
“ภรรยาอธิบายให้ผมฟังว่า เราทำเพื่อลูกหลานในอนาคตของเรา ถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาบ้านเมืองเรากลับมา ดังนั้นอันไหนคือความถูกต้องผมก็อยากทำ เราแค่เป็นคนกลาง ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำจะช่วยสนับสนุนสิ่งที่คนไทยกำลังทำอยู่ เพราะรัฐบาลไทยปัจจุบันคอรัปชั่นกันมาก ประเทศไทยควรจะเปลี่ยนได้แล้ว
“การประท้วงของไทยไม่เหมือนกับการประท้วงที่ประเทศผม ที่เยอรมัน เวลาคนประท้วงกัน ตำรวจจะเคลียรืพื้นที่เพื่อให้ประท้วงได้สะดวก มีรถตำรวจนำหน้า แต่เวลาคนไทยประท้วงจะเห็นได้ว่าตำรวจไทยไม่ค่อยดูแล ตำรวจทำงานแค่ช่วยรัฐบาล เขาไม่ได้ช่วยเหลือประชาชน อย่างวันก่อนผมดูข่าวว่ามีระเบิดเกิดขึ้น แล้วเห็นตำรวจไม่ช่วยเหลือคนที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ช่วยปกป้องประชาชนเลย ผมเลยอยากเห็นรัฐบาลไทยหรือตำรวจไทยที่ทำเพื่อประชาชนไทยทั้งหมด ไม่ใช่แค่สนับสนุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่คอรัปชั่น และทำอะไรที่ถูกต้องเพื่อคนไทย”
พอถามว่าเหนื่อยไหม Bernd ตอบทันทีว่าไม่เหนื่อย เขารักคนไทย และรักในหลวง จึงอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
“ผมรักในหลวงมาก กษัตริย์ไทยต่างจากกษัตริย์อื่นๆ ในยุโรป ผมเห็นข่าวในทีวีและอินเทอร์เน็ต จะเห็นว่าพระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชนมาก ผมเลยมาร่วมประท้วง เพราะรักในหลวง อยากให้ไทยมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ มีรัฐบาลใหม่ที่ดีๆ เพื่อชาติ ไม่ใช่มาทำให้พระองค์ท่านเสียใจครับ”
ด้านภรรยาของ Bernd (ไม่ประสงค์ออกนาม) กล่าวว่า
“สามีมาไทยเดือนครึ่ง เขาชวนดิฉันมาร่วมชุมนุมเกือบทุกวัน สัปดาห์หนึ่งมา 5 วันได้ พอตื่นเช้ามา เขาก็จะบอกว่าตื่นหรือยังเราไปกันเถอะ เขาบอกว่าเราต้องไปดูคุณสุเทพ เห็นไม่พอ ยังต้องเอากล้องไปถ่ายด้วย เรียกว่าพอรู้ข่าวว่าคุณสุเทพจะไปเดินที่ไหน เราก็ไปเดินด้วย ที่ทำแบบนี้ เพราะสามีรักในหลวงมาก ตอนเราอยู่ที่เยอรมัน พอถึงเวลาข่าวในพระราชสำนักเมื่อไหร่ เขาจะเรียกดิฉันมาดูข่าว เพราะรักพ่อหลวงจริงๆ ใครจะมาแตะพระองค์ท่านไม่ได้เลย”
ขณะที่เวทีอโศกคึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย หากหลายคนสะดุดตากับฝรั่งหนุ่มน้อยหัวใจไทย “ Simon ” ชาวรัสเซีย วัย 20 ปี โดย Simon เดินทางมาร่วมประท้วงกับเพื่อนกลุ่มใหญ่พร้อมใส่ที่คาดหัวเขียนว่า “เรารักในหลวง” พอเข้าไปถามเหตุผลที่เข้ามาร่วมประท้วงครั้งนี้ Simon ตอบว่า
“ผมอยู่ไทยมานาน 6 ปีแล้วครับ เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เรียนบริหารธุรกิจ มาร่วมประท้วงทั้งหมดหกครั้งแล้วครับ มาเพราะผมรักเมืองไทย ไม่ต้องการเห็นคอรัปชั่น ผมคิดว่าถ้าเปลี่ยนนายกคนใหม่ คนไทยจะแฮปปี้มากกว่าเดิม พอมีโอกาสได้มาอย่างนี้ ประทับใจที่คนไทยจำนวนมากออกมาประท้วงกัน เห็นมีคนมากมายออกมาเดินบนท้องถนน บางคนก็นอนอยู่ในม็อบทุกคืน เป็นเรื่องน่าสนใจมาก”
ส่วนสาเหตุที่ออกมาประท้วงกับคนไทยด้วย Simon ให้เหตุผลว่า “ผมรักในหลวง เพราะผมได้ยินเรื่องดีๆ เกี่ยวกับพระองค์ท่านมาเยอะ ทรงทำเพื่อคนไทยมากมาย เลยอยากทำอะไรเพื่อประเทศไทยบ้าง คิดว่าถ้านายกไม่คอนโทรลไทยมากกว่านี้ เมืองไทยจะดีกว่านี้ครับ”
อยากให้รัฐบาลหยุดคอรัปชั่น
ด้าน “Bryan” ฝรั่งที่อยู่เมืองไทยมานานบอกว่า เขามาร่วมประท้วงอยู่ในม็อบตั้งแต่คุณสุเทพประกาศ Shutdown ในวันที่ 13 ม.ค. แล้ว เพราะต้องการยืนหยัดความถูกต้อง
“ผมอยู่เมืองไทยมานานแล้ว ผมรักเมืองไทย ก็เลยต้องออกมาประท้วงตั้งแต่วันที่คุณสุเทพประกาศ Shutdown Bangkok ความจริงผมเป็นฝรั่ง ก็ไม่กล้าประท้วงหรอก แต่ผมชอบการประท้วงของคนไทย รู้สึกดีที่ได้ร่วมประท้วงการคอรัปชั่น ประเทศไทยต้องการใครสักคนที่มายืนหยัดต่อต้านรัฐบาลที่คอรัปชั่น มันเป็นเวลาเหมาะที่คนไทยต้องลุกออกมาต่อต้านคอรัปชั่น นี่จึงเป็นโอกาสดีที่ผมได้ออกมาทำแบบนี้”
“ผมอยากให้รัฐบาลไทยหยุดคอรัปชั่น และอยากจะเห็นคนไทยมีความสุข ดังนั้นรัฐบาลจะเลือกติดคุกหรือจะหนีออกไปจากประเทศซะดีๆ ก็เลือกเอาสักอย่างครับ”
ส่วนภรรยาของ Bryan คือ คุณสุรีย์พร อินทรจันทร์ บอกว่า
“เมื่อก่อนพี่ชอบคุณทักษิณมาก แต่สามีเป็นคนบอกพี่เองว่าทักษิณไม่ดียังไง จนพี่ทะเลาะกับเขาทุกวัน เกือบเลิกกัน แต่ตอนหลังพี่เริ่มเห็นความจริงมากขึ้นทุกวัน เห็นความชั่วร้ายออกมาทุกวัน ก็รับไม่ได้ ตอนพันธมิตรออกมาประท้วง พี่ก็ไปร่วมด้วย ส่วนคุณไบรอันติดตามข่าวทุกวัน เขาเลยคิดเหมือนคนไทยว่าการเมืองไทยทุเรศ จนทนไม่ได้แล้ว เขาชอบความถูกต้อง ถ้าเป็นฝรั่งทั่วไป อาจจะไม่เข้าใจ คิดแค่ว่าคุณสุเทพไม่ต้องการประชาธิปไตย แต่ไบรอันเขากลับเข้าใจ อย่างพี่คิดว่าเราต้องการประชาธิปไตย แต่ขอให้จัดกฎระเบียบให้สะอาดก่อน ถ้ารัฐบาลนี้เป็นคนจัดการเลือกตั้ง การเลือกตั้งก็จะยังสกปรกเหมือนเดิม บ้านเมืองก็จะล่มจม"
อยากให้อนาคตการเมืองไทยเปลี่ยน
John ชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่เมืองไทยมานานถึง 20 ปี เป็นอีกคนที่มาร่วมประท้วงกับภรรยาชาวไทยเป็นประจำ เราพบเขาที่เวทีสี่แยกราชประสงค์ เขาบอกว่า
“คนประท้วงที่นี่ค่อนข้างดีมาก ผู้คนค่อนข้างเฟรน์ลี พวกเขาแค่ต้องการโชว์ว่าต้องการสนับสนุนการประท้วง แต่ไม่ได้ต้องการความรุนแรง ผมมาเข้าร่วมประท้วงหลายครั้งแล้วพร้อมกับภรรยา คือ มาเท่าที่มาได้ เพราะคิดว่านี่คือเป็นเกมสำคัญในเวลานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่รัฐบาลพยายามให้ข้อมูลผิดๆ กับสื่อต่างประเทศ
“ในความเห็นส่วนตัวของผม ถ้าหากเราประท้วงหยุดตอนนี้จะเป็นเรื่องที่แย่มาก คนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเสียเวลา แต่ผมเห็นว่าเราควรใช้โอกาสนี้เปลี่ยนการประท้วงจากลบให้กลายเป็นบวก เพราะเวลาผู้นำพูดปราศรัยบนเวที เขาเอาแต่พูดถึงนายกฯ คนเก่า และนายกฯ คนปัจจุบัน ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะหยุดพูดแบบนั้นและควรบอกว่าอะไรที่พวกเขาต้องการจะเปลี่ยนและจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรมากกว่า ดูเหมือนว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. จะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรและดูจะสูญเปล่า ดังนั้นตอนนี้เราต้องการใครสักคนเข้ามาให้ไอเดียในการแก้ปัญหานี้”
“ผมอยากบอกว่าคนไทยดีมากและจะดีมากขึ้นอีก ถ้าประเทศไทยมีอนาคตที่ดี
สำหรับคนรุ่นใหม่ แต่ทั้งหมดจะสำเร็จลงได้ เราควรจะมีผู้นำที่ไม่ได้สนใจแต่ประโยชน์ตนเองฝ่ายเดียวก่อนครับ”
ส่วน "Wilfried“ นักศึกษาชาวฝรั่งเศสที่มาร่วมชุมนุมกับบิดาที่เวทีแยกราชประสงค์เหมือนกัน กล่าวว่า ตนเองยังไม่เข้าใจดีนักว่าเกิดขึ้นอะไรกับการเมืองไทย แต่คิดว่าการชุมนุมครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยให้ปราศจากคอร์รัปชั่นและมีประชาธิปไตยมากกว่าที่เป็นอยู่
“ในความเห็นของผม คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากที่ผู้คนออกมาสู้ในอะไรที่เขาเชื่อ ผมอาจพูดไม่ได้ว่าเป็นเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง เพราะยังไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ดีนัก เลยยังต้องการข้อมูลที่มากกว่านี้หน่อย ดังนั้นผมเลยมาที่นี่ เพราะอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ และต้องการถ่ายภาพกับคุณพ่อของผม ซึ่งท่านเป็นฝ่ายสนับสนุนเสื้อเหลืองมาตั้งนานแล้ว
“พอมาที่นี่ ผมก็เซอร์ไพรส์มากที่เห็นคนประท้วงอย่างสันติ ทั้งที่ผมคาดว่าจะเห็นภาพความวุ่นวายมากกว่านี้ ผมได้เห็นคนมากมายที่แตกต่างกัน ตั้งแต่คนที่อยู่ในสังคมชั้นสูงมาจนถึงสังคมชั้นกลาง แต่พวกเขาทั้งหมดนั่งอยู่กลางถนนด้วยกันในอารมณ์ที่ชิลๆ แม้ผมจะไม่เข้าใจว่านักการเมืองปราศรัยอะไรบนเวที แต่ผู้คนที่นี่ก็ดูอินกันมาก”
“คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ คนไทยกำลังเหนื่อยหน่ายกับการคอรัปชั่นและระบบที่มีมายาวนาน หรือที่เราเรียกว่าระบอบทักษิณ จึงเป็นเรื่องที่ประทับใจที่ได้เห็นว่าคนประท้วงพยายามพัฒนาการเมืองไทยอย่างไร และคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่คนไทยต้องการระบบที่ดีขึ้นกว่าเดิมครับ” Wilfried กล่าว
นานาทัศนะฝรั่งบน Social network
ด้านเฟซบุ๊ค “พลังประชาชน โค่นล้มระบบทักษิณ” ก็ได้แชร์ภาพชาวต่างชาติที่เข้าร่วมประท้วงครั้งด้วย โดยเป็นภาพของ“จอห์นสัน ซินแคลร์” ที่กล่าวว่า
“ผมรักในหลวง ผมรักประเทศไทย ผมรักคนไทย ผมได้ร่วมชุมนุมกับคนไทยประมาณ ๒-๓ สัปดาห์ แล้วครับ คนไทยน่ารักมากครับ ผมอยู่ประเทศไทย ๔ ปีแล้ว ถึงผมจะไม่ได้เกิดในประเทศไทย แต่ผมได้ขออาศัยอยู่บนเเผ่นดินไทย ผมรักประเทศไทยมาก ผมสัญญาด้วยเกียรติของลูกชาย ผมจะไม่ทรยศต่อแผ่นดินที่ให้ที่ซุกหัวนอนแก่ผม ผมจะขอช่วยกอบกู้ประเทศไทย ร่วมกับคนไทยให้รอดจากพวกคนชั่วโดยเร็วที่สุดครับ ทุกวันนี้ผมก็มาร่วมชุมนุมทั้งกลางวันและกลางคืน ผมก็ช่วยเก็บขยะ ช่วยทุกอย่างครับในสิ่งที่ผมจะทำได้”
ส่วนเฟซบุ๊ซของคุณ Bunger Bung ก็ได้แชร์ภาพและข้อความของ “Peter Ronson” ชาวต่างชาติที่ถึงขั้นมากินนอนในม็อบร่วมกับคนไทยว่า
“ผมรักประเทศไทย ผมมาร่วมชุมนุมกับชาวไทย ประมาณ 1 เดือนกว่าๆแล้ว และอยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกันบนถนน กับผู้ชุมนุมชาวไทย ถึงประเทศไทยจะไม่ใช่เป็นที่เกิดของผม แต่ผมได้มาอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย ผมจะไม่มีวันเนรคุณแผ่นดินนี้อย่างแน่นอนครับ “
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE