สิ้นตำนาน “หลวงปู่มังกรขาว” ลูกศิษย์จากทั่วเอเชีย ทั้ง ฮ่องกง จีน ไต้หวัน ฯลฯ แห่เข้าร่วมพิธีไว้อาลัย ทั้งดารา ผู้กำกับ ไปจนถึงนักธุรกิจระดับพันล้าน ตบเท้าเข้ามาบอกเล่าปรัชญาการใช้ชีวิตที่ได้จาก “อาจารย์กิมน้ำ” ร่างทรงเทพมังกรในตำนานหนึ่งเดียวในโลก
ถึงวินาทีนี้ ยังมีหลายปริศนาคาใจ “อะไรทำให้ดาราชื่อดังทั้งเอเชียต้องมาที่นี่?” “มีอะไรในคำสอนของหลวงปู่มังกรขาว?” และ “ตำนานบทนี้จะมีทายาทสานต่อหรือไม่?” คำตอบทั้งหมด มีอยู่ที่นี่เรียบร้อยแล้ว!!
เหตุผลที่ผู้คนแห่นับถือ
ทันทีที่ร่างประทับของ “หลวงปู่มังกรขาว” สิ้นลมหายใจลง ลูกศิษย์ซึ่งปฏิบัติภารกิจอยู่ทั่วทุกมุมโลกต่างก็พร้อมใจกันตบเท้าเข้ามาไว้อาลัย-เคารพศพของ “อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว” กันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะเหล่าคนบันเทิงชื่อดังทั้งชาวจีน ไต้หวัน ฮ่องกง ที่ผลัดเปลี่ยนเวียนกันเข้ามาแสดงน้ำใจต่อครอบครัวอาจารย์กลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ทำให้เห็นถึงความผูกพันที่มากกว่าคำว่า “อาจารย์-ลูกศิษย์” จริงๆ
อะไรทำให้คนบันเทิงทั่วเอเชียนับถือท่านอาจารย์กิมน้ำกันล้นทะลักขนาดนี้? เหยา เหมง (Yao Meng) หรือ นาตาลี เหมิง (Natalie Meng) นักแสดงสาวชาวจีนผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง My Wife is a Gambling Masestro และ The Vampire Who Admires Me คือศิษย์อีกคนหนึ่งที่สามารถตอบคำถามนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะในวันพิธีกงเต๊กก่อนวันฝังเพียงวันเดียว เธอเดินเข้ามาในงานอย่างเงียบๆ ด้วยสีหน้าหม่นหมอง แววตาเศร้า ตรงเข้าไปจุดธูปสักการะศพ ก่อนเดินมานั่งรวมอยู่ละแวกเดียวกับภรรยาของอาจารย์ ฟังคำสวดตั้งแต่เริ่มจนจบอย่างตั้งอกตั้งใจพร้อมหยดน้ำตาที่ไม่สามารถกลืนเก็บเอาไว้ได้
“ได้รู้จักอาจารย์เมื่อปีก่อนหน้านี้ค่ะ ช่วงนั้นเพิ่งคลอดลูกเสร็จ รู้สึกว่าอารมณ์ดีบ้างไม่ดีบ้าง ขึ้นๆ ลงๆ ตลอด หวัง จิง (Wong Jing) ผู้กำกับชาวฮ่องกงที่รู้จักเลยแนะนำให้ลองมาพบอาจารย์ดู มาถึงท่านก็เตือนเลยว่าต้องรู้จักใจเย็นๆ ลงซะบ้างนะ เราก็เลยรู้สึกว่า อืม... จริงด้วย พอลองทำตามก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองนิสัยดีขึ้น อารมณ์ดีขึ้น รู้จักอดทน ไม่วีนง่ายๆ ทำให้ความรู้สึกต่ออาชีพนักแสดงดีขึ้น ส่วนงานแสดงก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ค่ะ”
แมนเฟรด วอง (Manfred Wong) คนเขียนบท ผู้อำนวยการสร้าง และผู้กำกับชื่อดังชาวจีน เจ้าของผลงานซีรีส์สร้างชื่อ “Young and Dangerous” คือเพื่อนร่วมวงการที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัยพร้อมกับนาตาลีในครั้งนี้ เป็นอีกคนหนึ่งที่ประทับใจในคำสอนของท่านอาจารย์ เคยมาหาครั้งแรกตั้งแต่ปี 2539 แล้วรู้สึกสบายใจ ทำให้ชอบแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนตำหนักแห่งนี้ปีละไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้ง
“อาจารย์สอนว่าคนทำงานต้องใจเย็นๆ ไม่ต้องใจร้อน เจออะไรก็ต้องสงบสติอารมณ์ไว้ก่อน เพราะปกติ ชาวจีนส่วนใหญ่จะค่อนข้างชอบทำอะไรเร็วๆ ทำให้ใจร้อน ไม่ค่อยมีเวลาหยุดคิด แต่ถ้าเปลี่ยนมุมมองใหม่ หยุดฟัง หยุดคิด แล้วค่อยๆ ทำ มองโลกให้ช้าลง ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง แต่ระหว่างผมกับอาจารย์จะไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องหนังเท่าไหร่ครับ เวลาขอคำปรึกษา ตัวผมเองไม่ค่อยชอบขออะไรเรื่องนี้ แต่ที่มาบ่อยๆ เพราะรู้สึกเหมือนแวะมาเยี่ยมพ่อแม่-ครอบครัว ถ้าว่างก็เลยชอบแวะมาครับ มาหาท่านแล้วรู้สึกอบอุ่น สบายใจดี”
คนดังห่อเหี่ยว สิ้นที่พึ่งทางใจ
“หลิวเต๋อหัว” นักแสดงชื่อก้องโลกชาวฮ่องกง คือหนึ่งในลูกศิษย์ที่เสียใจไม่แพ้ใคร เพราะเขาเคารพรักอาจารย์ไม่ต่างไปจากเป็นพ่อของตัวเองเลย เขาคอยรับเอาคำสอนจากหลวงปู่มังกรขาวไปใช้ตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าในงานพิธีฝังศพ หลิวเต๋อหัวจะติดภารกิจ แต่เขาก็หาเวลาเดินทางมาร่วมไว้อาลัยก่อนหน้านั้น มาถึงก็สวมกอดภรรยาของอาจารย์กิมน้ำเพื่อปลอบใจ แสดงให้เห็นถึงความผูกพันที่มีให้แก่กันอย่างเต็มเปี่ยม
"ปีเตอร์ แลม" ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องดัง Infernal Affairs (2 คน 2 คม) ซีอีโอของ Media Asia Entertainment Group ยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง ก็เคลียร์คิว เดินทางมาเพื่อไว้อาลัยในวันกงเต๊กครั้งนี้ด้วย
ยังมีลิสต์คนบันเทิงเอเชียชื่อดังอีกมากมายที่แสดงตัวว่าเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็น อลัน ทัม, เจิ้งจื่อเหว่ย (ดาราตลก), หงจินเป่า, ซูฉี, เหวียงเฉาเหว่ย ฯลฯ ทันทีที่รู้ข่าวการจากไปของอาจารย์ที่ตนเคารพรัก หลายคนถึงขั้นหยุดงานเอาไว้แล้วบินตรงมาเคารพศพทันที จึงทำให้บรรยากาศภายในงานคลาคล่ำไปด้วยกองทัพสื่อเอเชียกว่า 30 ชีวิต ทั้งสื่อจีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ หรือแม้แต่สำนักข่าว AP (Associated Press) ต่างเดินทางมาปักหลักกันในบริเวณงานเพื่อหวังเก็บภาพและขอสัมภาษณ์คนดังในปรากฏการณ์การสูญเสียที่พึ่งทางใจครั้งใหญ่ครั้งนี้
คำสอนของอาจารย์ ใช่ว่าจะใช้ได้แค่กับคนในวงการบันเทิงเท่านั้น แต่ยังจับใจคนในทุกอาชีพ จึงดึงดูดให้ลูกศิษย์ของท่านมีตั้งแต่ระดับคนรากหญ้าไปจนถึงเศรษฐี ที่ปรากฏตัวให้เห็นจะจะในครั้งนี้ก็มีอยู่เหมือนกัน เป็นนักธุรกิจระดับพันล้านแห่งฮ่องกงชื่อว่า “หยาง โฉว เซิน” (Yang Chou Cheng) ซึ่งลงทุนนั่งเครื่องบินส่วนตัวบินตรงมาจากบ้านเกิดเพื่อมาเข้าร่วมเคารพในพิธีฝังศพในวันสุดท้าย
ไม่ใช่ไสยศาสตร์ แต่เป็นปรัชญา
นก-ปทุมพร จิรรัตนพิเชษฐ์ คือลูกคนที่สนิทกับคุณพ่อกิมน้ำที่สุด ตามติดอาจารย์แทบจะทุกฝีก้าว นกเปิดใจเล่าให้ฟังว่าเธออยู่กับพ่อที่เป็นร่างทรงมาตั้งแต่เกิด เห็นพ่อทำงานทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เธอและพี่น้องจึงมีหน้าที่ช่วยที่บ้านต้อนรับแขกผู้มาเยือน ทั้งเก็บกวาดตำหนัก จัดเตรียมอาหารไว้ต้อนรับ เพราะแต่ละคนที่มาต้องรอพบอาจารย์เป็นเวลานาน
หลายคนที่ไม่เคยเห็นช่วงเวลาการเป็นร่างทรงของอาจารย์กิมน้ำอาจมองว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่ลูกสาวคนเล็กคนนี้ยืนยันด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นว่า ทุกสิ่งที่ออกมาจากปากของคุณพ่อโดยผ่านการเป็นร่างทรงองค์มังกรขาว ไม่ใช่พิธีกรรม แต่เป็นเพียงการนั่งพูดคุยปรึกษาและสั่งสอนเพื่อชี้แนะแนวทางในการดำเนินชีวิตให้ลูกศิษย์ทุกคนที่แวะเวียนมาเท่านั้นเอง ดังนั้น เหตุผลที่ชาวต่างชาติแห่มาหาอาจารย์ไม่ขาดสาย ย่อมไม่ใช่เพราะความงมงาย ไม่ใช่ไสยศาสตร์ แต่เป็นเพราะเนื้อแท้คำสอนของหลวงปู่มังกรขาวคือเหตุและผลล้วนๆ
“ท่านให้ใจเย็น อารมณ์อย่าร้อน ทำอะไรให้มีสติ ซื่อสัตย์ กตัญญู แล้วก็เคารพพ่อแม่ เคารพในตัวเอง การทำงานดีหรือไม่ดี เราต้องรู้ด้วยตัวเอง ถ้าเราทำดีแล้วอะไรมันก็จะดีขึ้นเอง แต่อย่าเข้าข้างตัวเอง อย่าหลงตัวเอง ที่สำคัญคือชะตาชีวิตเรา เรากำหนดเอง ฉะนั้น ถ้ามีคนที่แนะนำที่มีเหตุผล มันน่าจะเป็นสิ่งที่ยืนยาวมากกว่าเน้นไปทำพิธีกรรมต่างๆ
ส่วนพวกดาราชาวฮ่องกง-ไต้หวัน เขาก็ไม่ได้มาบ่อยนะคะ เขาอยากมาก็มา และคุณพ่อก็ต้อนรับทุกคนเหมือนกัน ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าใครเป็นใคร ทำอาชีพอะไร เป็นนักธุรกิจใหญ่โตมาจากประเทศไหน แล้วท่านก็สอนคล้ายๆ กันหมดคือให้เป็นคนดี
โดยเฉพาะนักแสดง คุณพ่อจะบอกว่า เรามีชื่อเสียงได้เพราะแฟนๆ แล้วก็สื่อ ฉะนั้นเขาขออะไรที่มันไม่เกินความสามารถก็ทำให้บ้าง ให้สื่อได้ทำงาน ให้แฟนๆ ได้ใกล้ชิด แล้วก็เป็นตัวอย่างที่ดีและอย่าทำงานจนไม่มีเวลาดูแลครอบครัว”
หากมองในเชิงปรัชญาในการดำรงชีวิต คนเราหากจะประสบความสำเร็จในแต่ละสาขาวิชาชีพ หลักที่ควรยึดมั่นอย่างเป็นแก่นแกนสำคัญอาจสรุปเหลือเพียงไม่กี่ข้อ และอาจารย์กิมน้ำก็เป็นคนหนึ่งที่สรุปเอาหัวข้อเหล่านั้นมาพูดให้ฟังด้วยสายตาที่มองทะลุถึงแก่นปัญหาในชีวิตของมนุษย์ที่มีร่วมกัน ที่สำคัญคือการยึดถือนำไปปฏิบัติที่ท้ายที่สุดก็ต้องอาศัยความรักความนับถือในตัวผู้สอนรวมอยู่ด้วย
เปิดใจภรรยา อีกมุมของอาจารย์กิมน้ำ
ความเศร้าโศกของการจากไปครั้งนี้ คนหนึ่งที่รู้สึกเสียใจที่สุดคงจะหนีไม่พ้น ศรีรัตน์ ชิตเศษ คู่ชีวิตของอาจารย์กิมน้ำ ในช่วงท้ายๆ ของชีวิต เธอเผยว่า ท่านไม่ได้สั่งเสียอะไรไว้เป็นพิเศษเพราะไม่คิดว่าจะเสียชีวิต แต่ลองมองย้อนกลับไป ถือว่าท่านได้สั่งเสียทุกสิ่งทุกอย่างล่วงหน้าเอาไว้หมดแล้ว แม้แต่เรื่องงานศพ อาจารย์ก็เคยบอกไว้ว่าจะไม่เก็บซองแขกในงาน เปรียบเอาไว้ว่าอาจารย์ได้ตักน้ำใส่ตุ่มไว้เต็มแล้ว วันข้างหน้าลูกๆ อยากตักไปทำอะไร ก็ตักไป ให้มีใช้ไปถึงรุ่นเหลน แต่หากอาจารย์เรียกเก็บซองจากลูกๆ ก็เหมือนพ่อแม่กินน้ำตุ่มแรกหมดเสียเอง แล้วลูกหลานจะเอาที่ไหนใช้กัน
สิ่งที่ทำให้หลายคนมาจากหลวงปู่ถึงประเทศไทยนั้น เธอมองว่า มาจากความรักในหลวงปู่มังกรขาว และยังรักในร่างของหลวงปู่หรืออาจารย์กิมน้ำด้วย
“ทุกคนพูดเสมอว่า มาหาอาจารย์กิมน้ำแล้วจะได้รับแสงสว่างของชีวิต ไม่ใช่แสงสว่างของปาฏิหาริย์ แต่เป็นแสงสว่างที่เราจะต้องทำความดี ซื่อสัตย์กับหน้าที่การงาน มันทำให้เขาคิดว่าถ้าเขาปฏิบัติตามจะประสบความสำเร็จ-มีชื่อเสียง ไม่ใช่จูงใจว่า คุณมาแล้วกลับไปรวยแน่ดังแน่ไม่ใช่“
อย่างไรก็ตาม ความเป็นอาจารย์กิมน้ำกับหลวงปู่มังกรขาวยังมีส่วนแยกออกจากกันอยู่ ในช่วงที่หลวงปู่ประทับร่าง ถือเป็นช่วงเวลาของลูกศิษย์ เมื่อหลวงปู่ออกไปประทับบนสวรรค์ ร่างของอาจารย์ก็ยังคงเป็นอาจารย์ ย่อมมีเลือดเนื้อ รักแม่สัมผัสแม่ รักลูกสัมผัสลูก รักลูกศิษย์ก็สัมผัสลูกศิษย์ได้ตามปกติ
“ในตอนที่เขาเป็นร่างทรง วันหนึ่งแทบไม่ได้พูดกันเลย มื้อเช้าทุกคนกินอาหารเช้า แต่อาจารย์ยังไม่ได้กิน บางทีเหนื่อยๆ น้ำข้าวมาวางไว้ก็ไม่ได้กิน ทุกคนที่เข้ามาหาก็อยากเจอ อาจารย์ก็อยากช่วย ทำให้หลายครั้งอาจารย์ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับคนในครอบครัวเท่าไหร่ แต่แม่ก็ยังยินดี”
สืบทอดตำนาน ตำหนักมังกร
ตำนานของหลวงปู่มังกรขาวจะมีผู้ใดสืบต่อหรือไม่? คือสิ่งที่หลายคนอยากรู้ เพราะข้อจำกัดที่มีอยู่ อาจารย์กิมน้ำไม่มีลูกชายแท้ๆ สักคน มีแต่ลูกสาว และกฎเหล็กของสำนักระบุเอาไว้ว่าผู้ที่จะสืบทอดการเป็นร่างทรงของหลวงปู่มังกรขาวได้ ต้องเป็นลูกผู้ชายเท่านั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ภรรยาของอาจารย์เผยความตั้งใจเอาไว้ว่า แม้ลูกๆ จะสืบทอดตำแหน่งร่างทรงไม่ได้ แต่เจตนารมณ์นั้นยังคงสามารถสืบสานต่อ โดยการเปิดตำหนักให้คนมากราบไหว้บูชา ดูแลผู้คนที่มากราบไหว้ตามปกติ ที่สำคัญเธอวางแผนไว้ว่าจะมีการสร้างรูปปั้นเหมือนจริงของอาจารย์กิมน้ำ เพื่อเป็นที่สักการบูชาแก่ลูกศิษย์ที่คิดถึง
“เพราะตำหนักนี้เป็นของหลวงปู่มังกรขาว ไม่ใช่ของอาจารย์กิมน้ำ แต่ท่านก็เลี้ยงครอบครัวอาจารย์กิมน้ำและให้โอกาสลูกศิษย์ทุกคนที่มาหา อยากได้อะไร เสียใจเรื่องอะไร ทำอาชีพอะไรก็พูดเอง ถ้าขอแล้วสำเร็จก็ย้อนกลับมา กราบขอบคุณ มาถวายดอกไม้ ผลไม้ ไม่ต้องถวายเงิน ที่นี่ไม่เก็บ ดอกไม้ธูปเทียนตั้งไว้ ใครจะยกไปหาก็ยกไป ไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ว่าต้องถวายอะไร”
ถึงแม้ร่างทรงในตำนานจะไม่มีผู้สืบทอดแล้ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพิธีวันสุดท้าย วันรับพระราชทานดินฝังศพและนำศพไปไว้ในสุสาน ระหว่างประกอบพิธีสักการะครั้งสุดท้าย จู่ๆ ผู้ประกอบพิธีการ 2 คน คือ เต้งกิ้ม แซ่เลี้ยง และลูกสาวคนเล็กของอาจารย์กิมน้ำ ก็มีอาการตัวสั่นเทิ้ม และมีท่าทีผิดแผกไป เหมือนมีพละกำลังมากกว่าคนอื่นๆ เล่าลือกันว่าเป็นผลมาจากร่างทรงของ “หลวงปู่มังกรเขียว” ซึ่งตามตำนานเชื่อว่าเป็นพี่คนโตของหลวงปู่มังกรขาว มาเข้าร่างทรงของเต้งกิ้ม ส่วนร่างของคุณนก ลูกสาวคนเล็กของพ่อกิมน้ำ ได้กลายเป็นร่างทรงให้แก่ “หลวงปู่มังกรเหลือง” 1 ใน 5 เทพมังกร
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
