xs
xsm
sm
md
lg

คอกีฬาอัดยับ ถ่ายทอดซีเกมส์สุดห่วย ไม่ฉายตามตาราง-เอาเทปเก่ามาเปิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ถึงขั้นว่าถูกร้องเรียนผ่านโลกออนไลน์กันเลยทีเดียว หลังไม่พอใจการถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์แบบไม่สมใจคนดู ถ่ายทอดสดน้อยไม่ตรงตามตาราง แล้วยังนำเอาเทปการแข่งขันย้อนหลังมาให้ชมแทน ทำให้กลายเป็นกระเด็นร้อนจวกทีวีพูลว่าทำหน้าที่ได้อย่างห่วยแตกที่สุด โดยเฉพาะในเว็บสังคมออนไลน์อย่างพันทิปที่เกิดกระทู้เกินกว่าสิบกระทู้ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในการชมการถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้!!

สุดห่วย!! ถ่ายทอดสดสลับฉายเทป

ซีเกมส์ การแข่งขันกีฬาระหว่างกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหกรรมการแข่งขันกีฬาที่ใครหลายคนตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ มาในปี 2013 นี้ กลับมีอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ประชาชนคนไทยที่รอเชียร์ต้องผิดหวังกับการทำหน้าที่ถ่ายทอดสดของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือทีวีพูล เนื่องด้วยการถ่ายทอดสดไม่เป็นไปตามตาราง หนำซ้ำยังเอาเทปเก่ามาฉายให้ดู ทำให้อารมณ์และแรงเชียร์ของคนไทยหดหายไปหมด เพราะต่างเห็นพ้องกันว่า เมื่อรู้ว่าได้รางวัลไปแล้ว จะมานั่งรอดูคงไม่มีประโยชน์อันใด

เหตุนี้เอง ผู้คนบางส่วนจึงได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อว่า เป็นการถ่ายทอดสดที่ห่วยแตกที่สุดก็ว่าได้ โดยเฉพาะในเว็บไซต์สังคมอย่างพันทิป ที่ผุดกระทู้อัดยับเหตุการณ์ครั้งนี้มากกว่าสิบกระทู้

“โอ้โหนี่อะไรกัน จะเชียร์กีฬาต้องขยันหาลิ้งก์จากเว็บเพื่อนบ้าน ต้องถามหาลิ้งก์ฟรีทีวีจากเพื่อนเวียดนาม ตารางถ่ายทอดสดก็มี ก็ไม่ถ่ายตามตาราง แถมถ่ายทอดด้วยเวลาอันน้อยนิด โถ่ ฉันอยากจะบ้าตาย นี่ไม่รู้ว่านักกีฬาที่ไปแข่งเค้าจะรู้รึเปล่า ว่าไทยแลนด์ถ่ายทอดเทป แต่ระหว่างที่เค้าแข่งเราได้ดูละครรายการปกติ”

“ถ่ายทอดแห้ง 3 ชม. ถ่ายทอดสด 2 ชม. อยากดูนักกีฬาไทยแข่งสดๆ ต้องไปหา ลิ้งก์จาก พม่า สิงคโปร์ เวียดนาม มันอนาถเกินไปนะผมว่า ถ่ายทอดสด น้อยกว่าเดอะวอยซ์อีกมั้ง โฆษณาเยอะกว่าด้วย”

“คนไทยต้องดิ้นรน หาช่องทางดูกันเอง ทำไมแค่อยากจะเชียร์ประเทศตัวเอง มันยากเย็นอะไรขนาดนี้ เดี๋ยวนี้ ประชาชนคนไทยต้องทำขนาดนี้เลยหรอครับ บอกตรงๆ เหนื่อยมาก ผมอิจฉาประเทศอื่นจริงๆ นะ บางประเทศ ผมเห็นเขามีทั้งช่องทางทีวี แถมมีเว็บถ่ายทอดสดอีก ในขณะที่คนไทยยังตามหาลิ้งก์กันอยู่เลย ทั้งๆ ที่มันน่าจะถ่ายทอดสดให้ได้ดู”

“ถ้าไม่ถ่ายสดก็อย่าถ่ายเลยดูแล้วหงุดหงิดมาก กีฬาที่รู้ผลแล้วมันแทบไม่เหลือความสนุกเลย ขนาดนักกีฬาชาติตัวเองแข่งยังไม่คิดจะให้คนในชาติตัวเองได้ดู แล้วจะเปิดเพลงชาติให้ฟังเช้า-เย็นเพื่ออะไร ในเมื่อมองข้ามสิ่งที่ทำให้คนในชาติสามัคคีรวมใจ กันได้ง่ายมากที่สุดก็คือ กีฬาระดับนานาชาติแบบนี้ อีกอย่างที่ถ่ายเทปจะให้ดูแต่คนได้เหรียญ แล้วคนที่ซ้อมมาแทบตาย ถ้าไม่ได้เหรียญมาคล้องคอก็ไม่มีสิทธิ แม้แต่จะออกทีวีให้คนที่อยู่ทางบ้านได้ภูมิใจเลย ว่าได้รับใช้ชาติ”

ถ่ายทอดสดไม่ได้ เกิดจากอะไร

เหตุผลต่างๆ นานาที่หลายคนไม่เข้าใจ และเกิดการตั้งคำถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับการแข่งขันกีฬาครั้งสำคัญครั้งนี้ บ้างก็ติเตียนว่า ทีวีพูลบกพร่องต่อการทำงานครั้งนี้อย่างไม่น่าให้อภัย และสำหรับคำตอบนั้น ทางทีมงาน ASTV ผู้จัดการ Live ได้สอบถามไปยัง เชษฐา บรรจงเกลี้ยง รองบรรณาธิการโต๊ะข่าวกีฬา หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ ซึ่งสำหรับตัวเขาเองนั้นก็มีความคิดเห็นเช่นเดียวกับคนไทยอีกหลายคนที่ว่า ไม่มีใครอยากมานั่งดูกีฬาที่เรารู้ผลอยู่แล้วหรอก

“ถ้าซีเกมส์ครั้งก่อนที่เราเคยดูมา ก็จะดูผ่าน TV Pool เหมือนกัน TV Pool หมายถึงการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เป็นการรวมตัวกันทั้ง 3, 5, 7, 9, 11 บางครั้งก็จะมี ThaiPBS อยู่ด้วย รวมตัวกันไปซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมา และถ่ายทอดสลับหมุนกันไปแต่ละคน ซึ่งเมื่อก่อนเราจะได้ดูซีเกมส์ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลย ถ่ายทอดเวียนกันไป แต่ครั้งนี้ไม่ค่อยมี เพราะเจ้าภาพเขาไม่ได้จัดซีเกมส์มา 44 ปีแล้ว ครั้งล่าสุดที่จะคือปี 2512 (ตั้งแต่สมัยยังไม่ได้เป็นคอมมิวนิสต์ ทหารยังไม่ได้ยึดกุมอำนาจ)

2 ครั้งแรกเขาจัดที่ “ย่างกุ้ง” เมืองหลวงของเขา แต่ครั้งนี้จัดที่เมืองหลวงใหม่ “เนปิดอว์” หนีรถติด เนรมิตเมืองใหม่ขึ้นมาเลยเพื่อเป็นศูนย์ราชการ จะใช้เมืองนี้สร้างสนามแข่งขันขึ้นมา ที่เป็นปัญหาเรื่องถ่ายทอดสด เพราะก่อนหน้านี้ทางพม่าเขาแจ้งมาว่า เขาจะเป็นคนจัดการถ่ายทอดสดด้วยตัวเอง ทีมกล้อง นักข่าว ทีมถ่ายทอดสดของเราไม่ต้องไปยุ่งกับเขาเลย เขาจะถ่ายทอดให้ แล้วให้เราเกี่ยวสัญญาณการถ่ายทอดจากกล้องของพม่า ดึงกลับมาบรรยายและถ่ายทอดให้คนไทยดู แต่โดยปกติจะมีทีมถ่ายทอดสดแต่ละที่ ตั้งกล้องถ่ายทอดสดกันเอาเอง มีรถเคลื่อนที่ตามสนามแข่งขัน ดึงสัญญาณมาตัดภาพกล้อง 1, กล้อง 2 กันเอาเองได้ แต่ครั้งนี้ ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ต้องเกี่ยวสัญญาณมาถ่ายทอด แล้วพากย์เสียงผู้เข้าแข่งขันเข้าไป

ครั้งนี้ ผมไม่แน่ใจว่าทีมถ่ายทอดสดเขาพอหรือไม่พอ แต่เท่าที่รู้คือ การจัดการครั้งนี้ค่อนข้างมีปัญหา เจ้าภาพค่อนข้างไม่มีประสบการณ์ในการถ่ายทอดสดกีฬาทัวร์นาเมนต์ใหญ่ อย่างที่รู้ว่าเขาไม่ได้จัดกีฬามานานมากแล้ว และด้วยความที่เขาเป็นประเทศปิด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เขาต้องไปผ่านตรงกลางก่อน ให้กรองก่อนออกนอกประเทศ เลยเป็นระบบที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้”

ทั้งนี้ การแข่งขันซีเกมส์ที่ประเทศพม่า ส่วนใหญ่การถ่ายทอดสดจะเน้นกีฬาสากลเป็นหลัก อย่างเช่น มวย, วิ่ง, ฟุตบอล, ยกน้ำหนัก ส่วนอีกด้านหนึ่งของสื่อมวลชนที่ต้องทำหน้าที่นำเสนอข่าวต่างก็พบกับปัญหาหนักไม่แพ้กัน เนื่องจากระยะทางของสนามแข่งขันที่ห่างออกไปในตัวละเมืองกินเวลาอยู่หลายชั่วโมง และตารางการแข่งขันมีการบอกล่วงหน้าเพียงแค่ระยะเวลาไม่นานจึงทำให้นักข่าวต้องทำงานกันด้วยความยากลำบาก

“ตอนนี้เท่าที่ทราบ มีการร้องเรียนกันเข้ามาว่าสื่อมวลชนทำงานลำบากมาก ทีมงานจะได้ทราบผังการแข่งขันไม่นานก่อนถ่ายทอดสด แค่ 1 วันล่วงหน้า หรือบางทีเช้าของวันแข่งขันแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะมีการแข่งขันอะไรบ้าง ที่เมืองไหน ทำให้เป็นปัญหาต่อผู้บรรยายพอสมควร แล้วครั้งนี้จัดกัน 3 เมือง คือ เมืองเนปิดอว์, มัณฑะเลย์ (เน้นกีฬาทางน้ำ) และเมืองย่างกุ้ง ซึ่งแต่ละเมืองก็ห่างกันพอสมควรครับ อย่างย่างกุ้งมาเนปิดอว์ ก็ต้องนั่งรถทัวร์ 6 ชั่วโมง ไกลกว่ากรุงเทพฯ ไปหัวหินอีกนะ

ที่บ่นๆ กันคือ สื่อมวลชนที่ไปไม่ค่อยรู้ว่าล่วงหน้าว่าจะมีรายการไหนถ่ายทอดสดบ้าง แต่จะรู้แค่โปรแกรมการแข่งคร่าวๆ ว่าพรุ่งนี้จะมีแข่งขันฟุตบอล, วิ่ง, ว่ายน้ำ

ยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อวันก่อนมีแข่งขันว่ายน้ำรอบชิงชนะเลิศ แต่เขาไม่ตัดถ่ายทอดสดมาให้เราดู คนที่รอเชียร์อยู่ก็เลยไม่ได้ดูสดๆ แต่นักข่าวที่ไปที่นั่นก็ยังต้องทำข่าว แจ้งผลการแข่งขัน วันรุ่งขึ้นคนอ่านหนังสือพิมพ์ ดูข่าว ก็รู้แล้วว่าใครได้เหรียญทอง แต่ทางพม่าเพิ่งส่งเทปบันทึกการแข่งขันว่ายน้ำมาให้ประเทศไทยออกอากาศวันนี้ คนก็หมดสนุกไปแล้ว รู้ผลกันไปตั้งแต่ตอน 10 โมง แต่เพิ่งได้มาดูเทปตอนบ่าย 3 คนก็บ่นกันใหญ่ ยกเว้นคนที่ไม่รู้ข่าวก็อาจจะดูสนุกอยู่

ทางสถานีโทรทัศน์ของไทยที่ซื้อสัญญาณมาถ่ายทอดสดก็ถูกคนโทร.มาต่อว่า โทร.มาถามกันเต็มเลยว่าทำไมไม่ถ่ายทอดสด เขาก็ตอบไม่ถูกเพราะพม่าให้สัญญาณมาแบบนี้ เขาก็บอกว่าเขาก็อยากถ่ายทอดสด อยากให้ผู้ชมได้ดูสดๆ เหมือนครั้งก่อนๆ แต่มันทำไม่ได้

เจ้าภาพยังขาดความพร้อม

ถึงแม้จะมีการเตรียมความพร้อมในด้านอื่นๆ มาอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาเรื่องถ่ายทอดสดกลับทำให้สะดุดลง โดยเฉพาะกับคนไทยเองที่รอลุ้นเหรียญทอง แต่กลับต้องมาดูเทปย้อนหลัง บ้างก็ต้องหาลิ้งก์ของต่างประเทศเพื่อชมการถ่ายทอดสด รวมถึงการแข่งขันกีฬาบางชนิดที่เริ่มแข่งขันมาตั้งแต่ต้น กลับไม่มีการถ่ายทอดสดออกมา

“จริงๆ มันก็มีปัญหาตั้งแต่พิธีเปิดแล้วนะครับ คือพิธีเปิดมีวันที่ 11 ธ.ค. แต่กีฬาเริ่มแข่งกันตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. แล้ว ซึ่งระหว่างนั้น ตั้งแต่วันที่ 1-11 ธ.ค. มีการแข่งขันมาตลอด แต่ไม่มีการถ่ายทอดสดให้ชาติอื่นๆ ดูเลยนะ ทำให้เราพลาดเชียร์กีฬาไปบางชนิดเหมือนกัน

อย่าง “ชินลง” ซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้าน เป็น “ตะกร้อลีลา” ของพม่า เขาก็ชิงกันไป 8 เหรียญทองเรียบร้อยแล้ว เราไม่ได้ดูเพราะเขาไม่ได้ถ่ายทอด ทั้งๆ ที่เราก็อยากดู อยากรู้ว่าเขาเตะยังไง เราก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าภาพเขาคิดยังไง ในเมื่อเขาอยากโชว์กีฬาพื้นบ้าน หรือเขาจะแสดงตัวชัดเจนมากเกินไปหรือเปล่าว่าอยากได้เหรียญมากกว่าอยากสาธิตกีฬาให้คนทั้งอาเซียนดู เพราะพอไม่ได้ถ่ายทอดสดก็อาจจะมุบมิบผลกันได้ง่ายๆ

หรือตอนแรก เขาบอกว่าจะไม่ถ่ายทอดสด “มวย” แต่มีการโวยกันมากว่าไม่ได้นะ ถ้าไม่ถ่ายทอดแสดงว่าจะขี้โกงกันหรือเปล่า เพราะเวลาดูมวย เราจะดูว่าใครชนะ-ใครแพ้ ต้องดูการชกบนเวที แต่ถ้าเราไม่เห็นการชก มาเห็นแค่แต้มขึ้น เราก็จะไม่รู้เลยว่าชนะกันแบบค้านสายตาหรือเปล่า สุดท้ายเมื่อมีการร้องเรียนไป ก็เลยได้ดูถ่ายทอดสดมวยแล้วก็กรีฑา ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีครับที่ยังเรียกร้องกันได้”

สำหรับในตอนนี้ การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคงในเรื่องการถ่ายทอดสดไม่ทันแล้ว เมื่อสาเหตุนั้นอยู่ที่เจ้าภาพที่ยังขาดความพร้อม เพราะฉะนั้น อีกไม่กี่วันก่อนการแข่งขันซีเกมส์จะปิดฉากลง คนไทยที่รอลุ้นคงต้องพยายามหาช่องทางอื่นในการรับชมการแข่งขันไปแทน

“เราอยากให้เข้าใจแต่ละชาติ เพื่อนบ้านอยากจัดกีฬาซีเกมส์ แต่ความพร้อมของแต่ละชาติก็ไม่เท่ากัน อย่างครั้งนี้ พม่าก็ไม่จัดกีฬาหลายชนิด เช่น เทนนิส, ยิมนาสติก ถามว่าทำไมไม่จัด ถ้ามองโลกในแง่ร้ายก็อาจจะบอกว่า พม่ากลัวว่าเราจะได้เหรียญทองก็เลยไม่จัด เพราะไทยก็เป็นเจ้าในกีฬาเหล่านี้อยู่ แต่ถ้ามองโลกในแง่ดี แง่ความเป็นเพื่อนบ้าน ก็อาจจะเข้าใจว่าเขาคงไม่พร้อมจริงๆ เขาบอกว่าสนามเทนนิสเขามีก็จริง แต่มันไม่ได้มาตรฐาน หรืออย่างยิมนาสติก ถ้าเขาจะจัด เขาไม่มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องการให้คะแนน มันเตรียมตัวไม่ทัน จัดไม่ได้ เราก็ต้องเข้าใจเขา ถ้าจัดแล้วไม่ดี เขาก็โดนด่าเหมือนกัน

สรุปแล้ว จริงๆ แล้ว พม่าเขายังไม่พร้อม แต่เขาพร้อมจะเปิดประเทศแล้ว และอาเซียนทั้งหมดก็ยินดีจะเปิดรับ เพราะฉะนั้น จงเข้าใจเขา อย่าไปดูถูกเขาว่าเขาเป็นชาติด้อยพัฒนา เพราะเราก็เคยเป็นชาติที่ไม่พร้อมมาก่อน” เชษฐา กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live


กำลังโหลดความคิดเห็น