xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็กซ์-จักรกฤษณ์”-กับวงการพระเครื่อง จากประสบการณ์-ศรัทธา-สู่เส้นทาง“นักเลงพระ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จากการเสียชีวิตของ “เอ็กซ์” ..จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยซึ่งถูกคนร้ายขี่จักรยานยนต์ประกบยิงอย่างอุกอาจเมื่อวันเสาร์(19ต.ค.)ที่ผ่านมาซึ่งขณะนี้ตำรวจได้เร่งคลี่คลายคดีโดย1ในปมสังหารที่ชุดทำงานสืบสวนสอบสวนให้น้ำหนักมากที่สุดเชื่อว่า มาจากการปมขัดแย้งในวงการธุรกิจพระเครื่อง
 
เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กับ วงการพระเครื่อง จึงถือว่าเป็นเรื่องที่คนในสังคมให้ความสนใจในเวลานี้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ “ผู้จัดการออนไลน์” ขอนำบทสัมภาษณ์ที่ “เอ็กซ์” ที่เคยพูดคุยกับทีมงานกองบรรณาธิการ “ ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์” เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2555 หลังจากกลับจากการไปในนามของทีมชาติเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษไม่นาน ย้อนกลับไปดูถึงที่มาของความเป็น “นักเลงพระ” ของเขา และ ความเชื่อ ความศรัทธา ของอดีตนักแม่นปืนทีมชาติผู้ล่วงลับรายนี้ดังนี้

“เอ่ยชื่อ “เอ็กซ์” จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม แล้ว เชื่อว่า คอกีฬาคงรู้จักกันดี เพราะเขาคือนักแม่นปืนที่สร้างผลงานให้กับประเทศไทยเอาไว้มากมาย และ ในมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ ลอนดอนเกมส์ 2012 เจ้าเอ็กซ์คือหนึ่งในทัพนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมในครั้งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หลายคนอาจไม่ทราบว่า นอกจากความเป็นนักแม่นปืนแล้ว เจ้าเอ็กซ์ยังจัดเป็น “นักเลงพระเครื่อง” ที่เข้าขั้นอีกคนหนึ่งของวงการทีเดียว และแน่นอน ในลอนดอนเกมส์เที่ยวนี้ เจ้าเอ็กซ์ก็อาราธนาพระเครื่อง และเครื่องรางของขลังติดตัวไปเป็นขวัญกำลังใจไม่น้อย

เจ้าเอ็กซ์เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการสะสมพระเครื่องและเครื่องรางของขลังเกิดมาจากประสบการณ์ที่เคยเจอด้วยตัวเอง โดยประสบการณ์แรกคือ อุบัติเหตุจากการที่ถูกกระสุนปืนลั่นโดนที่หัวเข่า

“ตอนนั้นผมยังเป็นเด็ก ก็ไปซ้อมยิงปืนที่สนาม เพื่อนพ่อทำกระสุนปืนลั่นใส่หัวเข่า พอโดน รู้สึกตัวเองเจ็บ แต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก ตอนนั้นผมห้อยชิ้นเดียวเลยคือเหรียญ 2499 วัดปากน้ำ ยันต์ดวง จากนั้นก็เริ่มใส่ใจ สนใจมากขึ้น และก็มีความเชื่อมั่น ตอนหลังก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดท่านนายกสมาคมพระเครื่องพระบูชา ท่านพยัพ คำพันธุ์ ซึ่งถือเป็นบุคคลอันเป็นที่รักของคนในวงการและเป็นแบบอย่างสำหรับคนที่จะสะสมพระในอนาคต ต้องมีแนวทางที่ชัดเจนอย่างท่านนายกก็ได้พบท่านอยู่เรื่อยๆ จนรักใคร่ชอบพอกันเสมือนเป็นพ่อบุญธรรมที่ผมนับถือมาก เป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตของผมเลย คือต้องเป็นลูกผู้ชายชัดเจน ตัวจริง ทำอะไรทำจริง ทุกวงการที่เดินเข้าไปท่านทำได้สุดขีด ทำได้อย่างสุดยอด เป็นอีกคนที่ผมเรียกว่าพ่อ ผมเรียกพ่อยัพ ทุกคำที่ผมเรียก เรียกมาจากหัวใจ”

“จากคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน วันหนึ่ง มีรายการอะไรไม่รู้มาสัมภาษณ์ผมแล้วนำไปเปิดให้ท่านดู ท่านก็บอกเฮ้ย! ไอ้เด็กคนนี้มันใครวะ ท่านก็เขียนหนังสือมาเล่มหนึ่ง เหมือนกับเราสื่อสารกันทางจดหมาย แล้วก็มอบหนังสือหลวงพ่อทวดมาให้เล่มหนึ่ง ผมก็เริ่มอ่านและเก็บเท่าที่เราเก็บเป็นก่อน”

สรุปก็คือ จักรกฤษณ์กระโดดเข้าสู่วงการพระเครื่องอย่างเต็มตัวจากหนังสือที่พยัพ คำพันธุ์ส่งมาให้ และแน่นอน พระเครื่องที่จักรกฤษณ์เริ่มต้นสะสมก็คือ “หลวงปู่ทวด” วัดช้างไห้ ซึ่งนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ จักรกฤษณ์มีหลวงปู่ทวดอยู่ในครอบครองแทบจะครบทุกรุ่นทุกเนื้อเลยทีเดียว

จากหลวงปู่ทวด จักรกฤษณ์ก็เริ่มขยายวงกว้างขึ้น เป็นหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน รวมทั้งพระเครื่องและเครื่องรางของขลังที่หลากหลาย โดยเฉพาะหนุมานหลวงพ่อสุ่นแล้ว สามารถกล่าวได้ว่า จักรกฤษณ์มีในครอบครองเป็นกองทัพเลยทีเดียว แถมแต่ละชิ้นแต่ละอันก็ล้วนแล้วแต่สวยงามและมีประวัติความเป็นมาไม่บันเบา

ยกตัวอย่างเช่น พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ วัดอนงคาราม ซึ่งสวยระดับแชมป์ประเทศไทย หนุมานหลวงพ่อสุ่น พิมพ์หน้ากระบี่ หนุมานหลวงพ่อสุ่น พิมพ์หน้าโขน ที่สวยระดับแชมป์ หรือหนุมานหลวงพ่อสุ่นลงรักปิดทอง ซึ่งในอดีตเคยเป็นของอาจารย์นิพัทธ์ จิตรประสงค์ เซียนพระรุ่นเก่า ผู้เขียนหนังสืออาณาจักรเครื่องรางของขลัง พิมพ์ปี 2529 ซึ่งถือเป็นสุดยอดหนังสือเครื่องรางเล่มแรกในประเทศไทย และเป็นอันดับหนึ่งของวงการผู้นิยมเครื่องรางโดยเฉพาะ ซึ่งหายไปจากวงการ 30 กว่าปี โดยพ่อบุญธรรมของจักรกฤษณ์เป็นผู้มอบ

“หนุมานนี่ผมชอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว พ่อบุญธรรมผมยกให้ ท่านก็ได้มาแต่เก่าก่อน เอ้า หมดอายุขัยของข้าแล้ว ข้าก็ไม่ต้องใช้ ไม่ต้องเล่นแล้ว อายุปูนนี้แล้ว เอาธูปเทียนแพมา กูจะมอบให้ กูมีแต่ลูกผู้หญิง 3 คน กูบอกแกไว้ว่า ถ้ามีลูกชายจะให้ กูจะให้มึง มึงก็ต้องกราบตีนเป็นลูกกูก่อน กูถึงจะมอบให้โดยไม่คิดมูลค่า ผมก็ตกลง”

“ผมไม่เคยส่งประกวด หรือไปโชว์ เพราะของผมแท้อยู่แล้ว ไม่ต้องไปถามใคร ผมไม่ได้ต้องการสร้างมูลค่าคือมีมูลค่าในตัวเองอยู่แล้ว ไม่ได้ขาย สำหรับพระเครื่องหรือเครื่องรางที่พกติดตัวคือของใช้ ซึ่งผมอาราธนาติดตัวเยอะ ที่ผมติดตัวมาวันนี้ เช่น เหรียญกสิณหลวงพ่อพัด หลวงพ่อบุญมี เขาสมอคอน พระชัยฯ เขื่อนใหญ่วัดหนัง อย่างเส้นนี้เป็นหลวงพ่อศุขกับหลวงปู่ใจ ที่ผมติดตัวและไม่เคยถอดออกจากคอเลยเพราะชื่อของหลวงพ่อคือสุขใจ ”

กล่าวสำหรับหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าและหลวงพ่อใจ วัดเสด็จนั้น ได้เกิดอภินิหารกับชีวิตของจักรกฤษณ์ถึง 2 ครั้ง 2 คราด้วยกัน โดยครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดเพิ่งเกิดอภินิหารสดๆ ร้อนๆ ขึ้นกับตัวเจ้าเอ็กซ์เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมานี้นี่เอง

“คือครั้งแรกลูกไม่ยอมคลอด รอ 12 ชั่วโมงไม่ยอมคลอด ผมไปถึงก็อาราธนาตะกรุดโลกธาตุ หลวงปู่ใจวัดเสด็จแล้วก็ลูบไปที่ท้อง ไม่ถึง 5 นาที ปากมดลูกเปิด ลูกผมคลอดเลย ครั้งต่อมาเมื่อวานนี้( 18 กรกฎาคม 2555) แฟนมีเลือดออกจะต้องคลอดฉุกเฉินคือผ่าออก หมอให้เวลาตั้งแต่ 5 โมงถึง 6 โมง ถ้าไม่ออกต้องเข้าห้องฉุกเฉินเพราะน้ำคร่ำเริ่มลดน้อยลง ผมก็ถอดสร้อยออกมาจาก คอ 4 ปีแล้วไม่เคยถอด ใส่ตลอดเวลา อาบน้ำ หลับนอน ปรากฏว่า พลาสติก ที่เลี่ยมเอาไว้มีรอยร้าว และน้ำเริ่มซึมเข้าไปข้างใน ผมก็แปลกใจ เฮ้ย ทำไมน้ำซึมเข้าไป”

“ผมนึกในใจเหมือนหลวงพ่อจะมาบอกบางสิ่งบางอย่าง ผมก็ใช้มีดงัดพลาสติกออก แล้วนำไปใส่ในน้ำอุ่นแล้วอธิษฐานขอหลวงพ่อทำเป็น น้ำมนต์เอาไปให้แฟนทาน ก็อธิษฐานว่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีผมก็จะไปหาเช่าตะกรุดอันนี้ให้แฟนใช้อีกสักดอก พอไหว้เสร็จ อธิษฐานเสร็จก็ให้แฟนดื่ม ก็ไม่คิดอะไรหรอก แล้วก็ออกไปคุยกับหมอว่า คุณหมอครับ ถ้าเกิดมันจำเป็นจริงๆ ก็ผ่าได้เลยนะ อย่าให้เกิดอันตรายกับตัวเด็ก ก็นั่งคุยกันไปสักพัก เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เวลา 5 โมง 45 นาที หมอบอกปากมดลูกเปิด อีกแป๊บหนึ่งลูกผมคลอด 5 โมง 49 นาที หมอบอกอภินิหาร ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองไม่เชื่อ หมอก็อยากจะได้ตะกรุดอันนี้ไปแขวนอยู่หน้าห้องผ่าตัด จะได้ไม่มีปัญหาในการคลอด ผมบอกไม่ได้ เพราะเรื่องแบบนี้จิตจะต้องศรัทธาด้วย”

นอกจากนี้ สิ่งที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนของเจ้าเอ็กซ์ก็คือ การอาราธนาพระเครื่องติดตัวที่ถือเป็นเอกลักษณ์พิเศษ

เพราะโดยปกติแล้ว คนทั่วไปจะอาราธนาด้วยการสวมสร้อยเอาไว้บริเวณคอ แต่สำหรับเจ้าเอ็กซ์นั้น นอกจากสวมสร้อยที่คอหลายต่อหลายเส้นแล้ว เขายังสวมสร้อยคล้องเอาไว้ที่บริเวณหัวไหล่อีกด้วย

“ผมห้อยเยอะ ติดตัวตลอด เพราะ ผมก็ศัตรูเยอะเหมือนกัน(ยิ้ม) คนที่คิดในทางที่ไม่ดีกับผมก็เยอะเหมือนกัน เวลาแข่งยิงปืนก็ติดตัว ไม่เคยถอดเลยนะ อย่างน้อยก็เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้เราไม่วอกแวก ไปลอนดอนเที่ยวนี้ก็ติดตัวไปครบชุด ที่ติดตัวประจำก็เช่นหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงปู่รอดวัดบางน้ำวน หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ฯลฯ ส่วนใหญ่เป็นพระเหนียวล้วนๆ บางคนถามผมว่า จะเหนียวไปไหนเนี่ย คือผมคิดว่า ชีวิตเราบางทีอาจเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องมีของดีติดตัวเอาไว้ แต่เมตตาก็มี อย่างหนุมานก็ดีในทางเมตตามหานิยมอยู่แล้ว”

“ส่วนที่ห้อยบริเวณหัวไหล่เพราะอาจารย์ผมบอก ท่านให้ห้อยแบบนี้ ผมก็ห้อยแบบนี้ คือกันเอาไว้ ถ้าเผื่อมันบังเอิญหลุดออกจากคอแล้ว เรายังมีที่หัวไหล่กันเอาไว้คุ้มครองตัวเอง จริงๆ แล้วผมสะสมจริงจังไม่นานเท่าไหร่ ผมเก็บหนักๆ เมื่อ 4 ปีนี้นี่เอง ส่วนก่อนหน้านี้เก๊หมด อาจารย์ผมบอกให้โละเพราะเรามาผิดทาง โชคดีที่หนีทัน”เจ้าเอ็กซ์ จักรกฤษณ์เล่าให้ฟังทิ้งท้าย










กำลังโหลดความคิดเห็น