xs
xsm
sm
md
lg

หัวใจฉ่ำรัก “แนน - ปิยะดา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ขาว - หมวย - น่ารักอาจเป็นสาวในสเปกที่ตรงใจใครหลายคน ไม่แปลกที่ในวงการบันเทิงจะเต็มไปด้วยสาวสเปกนี้ แนน - ปิยะดา ตุรงคกุล เป็นอีกหนึ่งสาวขาว - หมวย - น่ารักของวงการ ทว่าอย่าให้รูปโฉมภายนอกหลอกตา เพราะหลังจากที่ทีมงาน M - lite ได้พูดคุยกับเธอ เราก็พบว่า เธอไม่เหมือนสาวหมวยคนอื่นๆ เลย

“เอกลักษณ์ก็คงเป็นขาวหมวยแล้วน้ำเสียงกับรอยยิ้มที่เป็นกันเอง” เธอยิ้มหวานพร้อมตอบด้วยสุ้มเสียงน่ารักมีเสน่ห์

เราลอบสังเกตเห็นขาเรียวยาวสวยสมส่วน พร้อมทั้งดวงหน้า และความขาวในโทมสีนวลตาจากผลงานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำเซตล่าสุดของเธอในนิตยสาร MARS ฉบับที่ 127 ประจำเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มันเป็นเรือนร่างที่ผ่านการดูแลมาอย่างดี ทั้งยังเต็มไปด้วยความใส่ใจในทุกสัดส่วนของกล้ามเนื้อ

“ตั้งแต่เข้าวงการก็ออกกำลังกายมาตลอดเลยค่ะ เพราะต้องดูแลรูปร่างให้ดี” แนน - ปิยะดาเผยถึงเคล็ดลับ บอกได้ว่า เธอเป็นคนหนึ่งที่ใส่ใจต่อหน้าที่ส่วนตัวของเธออย่างเต็มที่ เพราะรูปร่างที่สมบูรณ์แบบคือสิ่งสำคัญสำหรับงานเบื้องหน้า แต่กับเบื้องในลึกล้ำของชีวิตเธอนั้น ก็ยังคงเต็มไปด้วยหลายเรื่องราวที่น่าค้นหา เช่นกัน

เธอเริ่มจากตำแหน่งผู้ประกาศคั่นรายการ

การเริ่มต้นเป็นสิ่งที่ยากเสมอ หลังจากชนะการประกวดดัชชี่บอย แอนด์ เกิร์ล เธอก็ได้รับโอกาสแรกให้การเริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิง ในฐานะของผู้ประกาศคั่นรายการ แล้วพัฒนาไปสู่นางเอกมิวสิกวิดีโอเป็นเส้นทางของดาราวัยรุ่น

“ช่วงแรกๆ มากกว่า ช่วงตอนที่ต้องฝึกผู้ประกาศยาก ต้องพูดให้ชัด เราเริ่มตั้งแต่ตอนยังเรียนอยู่ ก็ยังเด็กเวลาทำ ก็เลยรู้สึกว่ามันยากจัง คือต้องพูดให้ชัดทุกคำ ตอนนั้นก็รู้สึกโหย...ยาก บางทีก็ท้อบ้าง แต่พอผ่านตรงนั้นมาได้ก็รู้สึกมีความสุข รู้สึกว่าครั้งหนึ่งเราเคยฝึกอย่างหนักหนามาก แต่พอผ่านมันมาได้ก็รู้สึกแฮปปี้ที่ตอนนั้นเราอดทน และให้ความใส่ใจกับตรงนี้”

ความยากในช่วงแรกเริ่มนั้น ทำให้เธอได้ฝึกได้เรียนรู้ฝึกปรือจนกลายมาเป็นพิธีกรสาวมั่นอย่างทุกวันนี้ ย้อนกลับไปเธอยังจำได้ดีถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากตอนนั้น

“ตอนนั้นก็พอเรียนเสร็จหลังเลิกเรียนก็ต้องไปฝึก ครูฝึกชื่อพี่อั๋นค่ะ ยังจำได้เลย อยากขอบคุณพี่เขามาก เขาเป็นพี่ที่คุมพิธีกรผู้ประกาศของทางช่อง 7 เขาจะฝึกให้ตลอด ต้องกลับไปฝึกการสะกดคำ ฝึกออกเสียงร.เรือล.ลิง ฝึกการพูดอะไรทุกอย่าง”

แม้จะยุ่งยากในช่วงแรกเริ่ม แต่เธอก็รู้สึกตกหลุมรักในการทำงาน เธอพบความสุขในทุกๆ ช่วงเวลาที่ตัวเองได้ทำงานอยู่ในวงการบันเทิง หลายคนบอกว่า หากคุณเลือกงานที่คุณชอบ คุณก็ไม่ต้องทำงานไปตลอดชีวิต การทำงานสำหรับเธอจึงไม่เหมือนการมาทำงาน เธอมองว่า เหมือนเป็นการมาใช้ชีวิต เหมือนมาเล่น มาพบปะพูดคุยกับเพื่อนมากกว่า

“ตอนนี้ก็เหมือนเป็นอาชีพที่เราทำแล้วมีความสุข ก็คือรักในการทำเป็นพิธีกร เวลาไปทำงานก็รู้สึกมีความสุข ไม่รู้สึกว่าเป็นงานที่ทรมาน เหมือนเป็นงานที่เรารักเวลามาทำงานเลยรู้สึกได้มาเจอเพื่อนๆ มากกว่า ได้มาสนุกอย่างนี้คะ”

พิธีกรสาวหมวยอินเทรนด์!

หลังจากทำงานในวงการมาได้พักหนึ่ง เธอก็ค้นพบตัวเองในฐานะของพิธีกรที่คอยพูดคุยในหลากเรื่อง แสดงตัวตนในแบบของหญิงสาวยุคใหม่ พร้อมทั้งเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่น เป็นบทบาทหนึ่งที่เธอรักมากๆ เมื่อถามถึงเคล็ดลับเธอเพียงยิ้มด้วยตาชั้นเดียวพร้อมเผยว่าคือ การเป็นตัวของตัวเอง

“อืม จริงๆก็เป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร เรารักในการทำงานตรงนี้มันก็เลยมีความสุข พอทำแล้วก็เลยแฮปปี้ คนดูอาจจะชอบเราที่หน้าตาขาวหมวย และการยิ้มแย้มกับน้ำเสียง ซึ่งเราก็ทำสิ่งเหล่านั้นด้วยความรู้สึกที่เรามีความสุขจริงๆ ผู้ชมก็เลยรู้สึกดีไปด้วย”

สิ่งที่อยู่ในตัวเธอในฐานะพิธีกรเป็นผลที่ได้รับมาจากการฝึกฝนในฐานะผู้ประกาศ แม้จะเป็นงานเพียงแค่พูด 2 - 3 ประโยค บอกว่ารายการต่อไปเชิญรับชมรายการอะไร แต่มันก็มีความหมายต่อเธอ

“มันก็ดูง่ายนะคะ แต่พอไปทำจริงๆ มันไม่ง่ายอย่างที่เราคิด แต่พอผ่านช่วงที่เราฝึกมาแล้ว ช่วงที่เราอยู่ตัวเข้าที่แล้วมันก็จะรู้สึกง่ายมาก เป็นงานที่สนุกจะใช้เวลาไม่นาน ตอนนั้นแหละที่เรารู้สึกสนุกไปกับมัน”

สิ่งที่เธอต้องทำในช่วงแรกๆ คือ การอ่านบทความต่างๆ แต่ในช่วงที่ยังเด็กมากนั้นการเป็นผู้ประกาศที่ต้องนิ่ง และพูดประโยคยาวๆ พร้อมกับฝึกจำ ฝึกพูดยังเป็นเรื่องยาก พอเวลาผ่านไปเธอก็เริ่มทำได้อย่างคล้องแคล้วขึ้น

“หลังจากเป็นผู้ประกาศช่อง 7 ก็ได้มาทำพิธีกรรายการอินเทรนด์ช่อง 5 เป็นรายการเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ก็จะพาไปร้านอาหาร พาไปอัปเดตเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ พาไปสถานที่ใหม่ๆ ทำให้เราสนุกเพราะเราก็เหมือนได้เจอเรื่องราวใหม่ๆ ตลอดเวลา ได้อัปเดตแฟชั่นตลอดเวลา”

ในส่วนของปรัชญาการดำเนินชีวิตเธอเผยว่า ความจริงใจต่อการใช้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

“แนนค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง อาจจะไม่ใช่คนที่มั่นใจตัวเองสูงมาก แต่ก็มีความมั่นใจในตัวเองระดับหนึ่ง ซึ่งมันก็มีหลายมุมในตัวเอง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือแนนจริงใจกับทุกคน เหมือนแนนรู้สึกว่า ถ้าแนนจริงใจกับใคร เขาก็จะจริงใจกับเรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนรอบข้างทุกคน มันอาจจะโชคดีที่คนรอบข้างแนนมีแต่คนดีๆ ด้วย”

กับการพัฒนาตัวเองในฐานะพิธีกร เธอเห็นทุกวันที่ทำงานอยู่คือการเรียนรู้ของชีวิต เหมือนชีวิตคือห้องเรียนกว้างใหญ่ที่รอจะมอบบทเรียนให้กับเธอเสมอ

“อืม ทุกๆ วันนี้เวลาไปทำงานก็เหมือนมันต้องฝึกอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเก่งแล้วเราก็อยู่แบบเดิม เราก็ต้องมีการเรียนรู้ไป เพราะทุกวันมันก็มีปัญหาที่แตกต่างกันออกไปเกิดขึ้น เรียนรู้จากตัวเอง เรียนรู้จากคนอื่น เรียนรู้จากคนรอบข้าง เรียนรู้จากเพื่อนร่วมงาน”

สาวหมวยดีกรีร้อน

หลังจากแฟชั่นเซตรับลมร้อนในนิตยสาร MARS ของเธอ ด้วยสีสันฉูดฉาดในซันเมอร์ร้อนแรง แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 3 ของเธอในการถ่ายแบบกับนิตยสารฉบับดังกล่าว แต่มันก็เป็นครั้งหนึ่งที่เธอรู้สึกสนุกและอยากทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เพราะเธอรู้ดีว่าใน 1 ปี นางแบบที่จะได้ขึ้นปกนิตยสารในเซตชุดว่ายน้ำในช่วงฤดูร้อนนั้นมีไม่มากนัก

“เราตอบรับแบบไม่คิดมากเลย เพราะเป็นทีมงานที่คุ้นเคยและไว้ใจด้วย รู้สึกประทับใจที่ได้ร่วมงานกันในหลายๆ ครั้ง”

มาถึงครั้งนี้ทีมงาน และตัวเธอก็ไม่ทำให้ใครผิดหวัง กับความเซ็กซี่แบบขาวหมวยบวกน่ารักร้อนแรงซึ่งเธอก็ถ่ายทอดมันก็ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“ผลตอบรับก็ดีคะ คนส่วนใหญ่บอกว่าสวย หลายๆ คนก็บอก หาซื้อไม่ได้เลย แต่ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า” เธอเอ่ยถึงผลตอบรับพร้อมเสียงหัวเราะ โดยภาพที่ออกมานั้น เธอก็รู้สึกพอใจด้วยความที่ภาพออกมาดูดี มีความเป็นแฟชั่น เซ็กซี่ในดีกรีที่ไม่แรงจนเกินไป

หุ่นที่ดูดีของเธอนั้น ผ่านการดูแลอย่างดีจากการเล่นฟิตเนสเป็นประจำ เธอเผยถึงเคล็ดลับหุ่นเป๊ะในนิตยสารว่า ก่อนถ่ายแบบ 1 อาทิตย์เธอต้องออกกำลังกายอย่างเต็มที่เป็นพิเศษ และก่อนถ่ายแบบ 2 - 3 วันเธอจะต้องลดแป้ง

“ปกติเป็นคนชอบกิน แต่ก็เผาผลาญดีอยู่แล้วด้วย และปกติก็ออกกำลังกายสม่ำเสมออยู่แล้วตั้งแต่เข้าวงการ ถ้าใครตามอินสตาแกรมก็จะรู้ว่าแนนออกกำลังกายค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ถือว่ามีส่วนช่วย พอก่อนถ่ายแบบอาทิตย์หนึ่งคือก็จะออกกำลังกายเต็มๆทั้งอาทิตย์ และพออีก 2 - 3 วันก็จะควบคุมอาหารลดแป้งทำให้หุ่นมันเป๊ะขึ้น”

ตัวแม่อัปเดตอินสตาแกรม

หลังจากงานเบื้องหน้าของการเป็นพิธีกร เธอเผยถึงงานอดิเรกที่เหมือนคนทั่วไป คือเดินเล่น ดูหนัง ช็อปปิ่ง หาร้านอาหารอร่อยๆ ทาน ซึ่งหากมีเวลาเธอก็มักจะปลีกตัวออกจากความวุ่นวายของกรุงเทพฯ และไปเที่ยวต่างจังหวัด ทว่าชีวิตในวงการก็หาเวลาว่างนานๆ ติดต่อกันยาก

“ส่วนใหญ่จริงๆ ชอบไปต่างจังหวัด แต่เวลาทำงานมันก็ทำให้ไปไม่ได้ตลอด เราก็จะเดินห้างตามปกติ เดินจตุจักร ทั่วไปที่คนอื่นเขาไปกัน คือถ้ามีเวลาไม่มากพอไปต่างจังหวัดก็พักผ่อนในเมืองได้”

จากหน้าที่ปกติที่เป็นพีธีกรไปตามร้านอาหารหลากหลาย ทำให้ชีวิตส่วนตัวของเธอก็ต้องออกไปหาร้านอาหารแปลกใหม่เพื่ออัปเดตเทรนด์ชีวิตด้วย

“การทำงานก็ต้องไปอยู่แล้ว พอเราเจอร้านใหม่ๆ น่ารักๆ ก็ต้องไปลอง เพราะบางทีอย่างที่แนนบอกว่า ตัวแนนเองก็เอาไปแชร์กับโปร์ดิวเซอร์รายการบ้าง แล้วแนนก็เป็นคนชอบถ่ายรูปก็เลยจะอัปเดตตลอดว่ามีร้านใหม่ๆอะไรบ้าง”

นอกรายการเธอก็เป็นคนนำแฟชั่นคนหนึ่ง แต่เป็นในฐานะของเจ้าของร้านขายเครื่องประดับในอินสตาแกรมในชื่อร้าน vintage me love

“แนนก็มีเปิดขายเครื่องประดับทางอินสตาแกรม เลือกของเอง รับออเดอร์เอง แพ็กของเอง ส่งของเอง คือแนนทำเองทุกขั้นตอนเองหมดเลย เวลาว่างจากงานแนนก็จะมาดูตรงนี้”

โดยเครื่องประดับนั้นส่วนใหญ่เป็นต่างหู สร้อยข้อมือ แต่ก็จะมีเสื้อผ้าเก่าของเธอมาขายบ้าง เพราะหลายคนฟอลโลอินสตาแกรมเธอมักจะถามถึงเสื้อผ้าของเธอ เมื่อมีคนที่อยากได้มากๆ บางทีเธอก็รู้สึก เสื้อผ้าที่ใส่นั้นก็ใส่เพียงไม่กี่ครั้งจึงมีนำมาลงขายบ้างในราคาถูก

“ร้านแนนจะเลือกของจากความชอบของตัวเองเป็นหลัก แนนเชื่อว่า คนที่ติดตามร้านเราจะชอบในความเป็นตัวเรา การแต่งตัวของเรา บางคนก็อาจจะมาถามคำแนะนำของเรา จะไปงานนี้ ใส่ชุดนี้ควรจะใส่เครื่องประดับแบบไหน เราก็ให้คำแนะนำได้ เราก็เลยเลือกของที่เราชอบมากกว่า ไม่ใช่ว่าจะต้องตามเทรนด์ แต่ก็ต้องทันสมัย ต้องอัปเดต และส่วนใหญ่จะเลือกจากความชอบของเราและคุณภาพ รวมถึงราคาที่จับต้องได้”

ชีวิตในโลกอินเทอร์เน็ตดูจะมีส่วนต่อไลฟ์สไตล์ของเธอเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอินสตาแกรมที่คอยอัพเดทรูปและความเคลื่อนไหวในชีวิตหลายอย่างของเธอ

“จริงๆ ก็ติดแค่อินสตาแกรมนะ เฟซบุ๊กก็ไม่ค่อยเล่น แนนชอบดูของคนอื่นด้วยที่เราฟอลโลเขา แล้วก็ชอบถ่ายรูป ชอบอัปเดต”

ทั้งนี้ ผลที่เกิดจากอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะอินสตาแกรม เธอเห็นว่ามีส่วนให้หลายอย่างในชีวิตเชื่อมโยงถึงกันได้มากขึ้น และช่วยเปิดโลกให้เธอได้รู้หลายสิ่งหลายอย่าง

“คิดว่าทุกวันนี้ ค่อนข้างมีผลหลายๆ อย่างนะคะ เหมือนทุกคนมีสื่อในตัวเอง หลายๆ คนก็ฟอลโลเรา โปรโมตสินค้าบ้าง ขายของบ้าง โปรโมตความเป็นตัวเองบ้าง”

อย่างไรก็ตาม โซเชียลมีเดียก็ยังมีอันตราย เธอเผยว่า หลายครั้งที่เห็นคน 2 คนในร้ายอาหารที่เอาแต่กดมือถือไม่พูดคุยกันในโลกแห่งความจริง

“ถ้าติดเกินไป บางทีอย่างบางคนไปทานข้าวกัน 2 คน เล่นแต่มือถือไม่คุยกันเลย มันก็มีผลต่อชีวิตประจำวันในปัจจุบันเหมือนกัน ก็อยากให้พองาม เล่นได้เพื่อจะได้ติดต่อกับเพื่อนหรืออัปเดตชีวิตส่วนตัว บางทีเราไม่มีเวลาติดตามเพื่อนเก่า เราก็ติดตามทางอินสตาแกรม วันนี้เขาทำอะไร ไปไหนกัน บางทีก็มีคนลงสถานที่ใหม่ๆ บางทีก็ไปบ้าง ช่วยให้เราอัปเดตได้”

แต่ในส่วนของคุณูปการจากการเชื่อมต่อของโลกเสมือนนี้ ในฐานะที่ต้องตามเทรนด์ตามกระแส มันก็ช่วยให้มองเห็นเทรนด์ได้ง่ายขึ้น เธอบอกเลยว่า เธอได้เห็นโลกกว้างขึ้น

“พอเราได้เห็นที่นี่จากที่เราไม่รู้จักมารู้จัก มันก็มีผลต่อการเลือกในการทำงาน หรือการใช้ชีวิตของเรา มันมีข้อมูลที่เชื่อมโยงมาถึงเรา”

ครอบครัวคือแก่นแน่นหนาของชีวิต

แม้ชีวิตในวงการบันเทิงจะไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่ของเธอสนับสนุน แต่ก็ไม่ได้บังคับ ไม่ถึงขั้นออกมาตรการห้ามเธอทำงานในวงการบันเทิง ยังคงให้อิสระกับเธอในกรอบที่เธอสามารถปรึกษาได้ทุกเรื่อง เธอคิดว่าเป็นเรื่องดีที่เธอได้เติบโตมาในครอบครัวแบบนี้

“เฉยๆคะ” เธอตอบถึงท่าทีของที่บ้านต่องานในวงการของเธอ “ที่บ้านไม่ค่อยบังคับ ก็แล้วแต่ว่าเราชอบทำอะไร ถ้ามันไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็โอเค ให้อิสระในความคิดแต่เราก็ปรึกษาตลอด”

แต่วัยเด็กของเธอก็ไม่ใช่อิสระถึงขนาดให้ทำอะไรได้ตามใจชอบ เธอยังรู้สึกว่าพ่อแม่เป็นผู้ปกครองที่ดุพอสมควร

“ตอนเด็กๆเรารู้สึกว่าเขาดุนะคะ แต่พอโตมาก็รู้สึกว่า ค่อนข้างได้รับอิสระพอควรเหมือนกันถ้าเทียบกับบ้านอื่นๆแล้วน่ะคะ” เธอพูดถึงครอบครัวแบบเขินๆ และพื้นฐานครอบครัวที่ดีในฐานะปานกลาง พ่อแม่เลี้ยงดูเธอมากับมือ โดยมีพี่เลี้ยงในช่วงวัยเด็กเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น พ่อแม่ดูเหมือนจะเข้มงวดและฝึกให้เธอดูแลตัวเองได้

“เขาจะฝึกให้ดูแลตัวเอง ทำอะไรเอง แล้วเราก็ทำงานตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย หาเงิน - ใช้เงินที่เราหาเอง ก็คือไม่ได้ขอเงินพ่อแม่ ซื้อรถเอง คือทำอะไรด้วยตัวเองมาตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนอยู่

“สิ่งนี้ทำให้เราเหมือนมีความรับผิดชอบ พอเป็นผู้ใหญ่มีเรื่องของชีวิต มีการตัดสินใจหลายๆ อย่าง เราก็ตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง”

แต่การตัดสินในชีวิตทั้งหมด เธอก็ยังคงปรึกษาที่บ้านอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญของชีวิต การอยู่บ้านเดียวกัน และความรักความผูกพันที่มีต่อกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้เธอสามารถคุยกับพ่อแม่ได้ทุกเรื่อง

“ทำอะไรก็พูดคุยกันตลอดเวลา คือคุณพ่อคุณแม่ใกล้ชิดอยู่ด้วยกันเจอกันทุกวัน เราจะคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวในแต่ละวันอยู่แล้ว แม้เขาจะปล่อยให้เราทำอะไรเอง แต่เราก็ยังมีเขาอยู่ด้วยเสมอ ให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ ให้ความรักความอบอุ่น ถ้าเกิดว่าอิสระ แต่ก็ยังอยู่ในกรอบที่เราสร้างขึ้นมาด้วย กรอบที่มีความผูกพัน”

ด้วยความที่เป็นลูกผู้หญิงทำให้เธอสนิทกับแม่เป็นพิเศษ สิ่งหนึ่งที่แม่สอนเธอมาตั้งแต่เล็ก และซึมซับอยู่ในความเป็นตัวเธอมาตลอด มันบ่มเพาะมาจากการใช้ชีวิตในทุกๆ วันก็คือการรักในครอบครัวที่มีเธออยู่

“จริงๆ ก็ไม่ได้เป็นคำสอนอะไรหรอก แต่คุณแม่จะอบรมตั้งแต่เด็กๆ มันเหมือนเป็นเรื่องที่ซึมซับกันมาตลอดในทุกเรื่อง ในการวางตัวของผู้หญิง ในทุกๆ อย่าง แนนรู้สึกว่า แนนโชคดีที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ดี ดีในที่นี้ไม่ใช่ฐานะ แต่หมายถึงความรักความอบอุ่น

“ก็คือรู้สึกว่าเราโตมาเป็นแบบนี้ในทุกวันได้ก็เพราะว่าเรามีคุณพ่อคุณแม่ มีครอบครัวที่ดี แนนรู้สึกว่าตรงนี้ค่อนข้างสำคัญ เพราะว่าอย่างหลายๆ คนอาจจะมีปัญหาหลายอย่างที่แตกต่างกัน แนนเชื่อว่า ครอบครัวเป็นเหมือนพื้นฐานของหลายๆ อย่าง เป็นสิ่งที่บ่มเพาะเรามา เป็นฐานที่มั่นคงในการดำเนินชีวิต เจออุปสรรคอะไรก็ไม่มีปัญหา”

สวย เฉียบ เนี้ยบ นำเทรนด์

นอกจากรายการอินเทรนด์ที่ผู้ชมจะได้เจอเธอทุกวันเสาร์ อีกรายการหนึ่งของเธอคือ สวย เฉียบ เนี้ยบ ที่เธอรับหน้าที่พิธีกรตั้งแต่จันทร์ - ศุกน์ทางเวิร์ค พอยท์ทีวี รายการเกี่ยวกับผู้หญิงทั้งคู่ เมื่อถามว่าเธอกลัวตกเทรนด์หรือเปล่า เพราะกระแสในโลกทุกวันนี้มาเร็วไปเร็วจนยากจะจับทัน เธอปฏิเสธ พร้อมบอกว่า ยิ่งกระแสมาเร็วก็ยิ่งมาถึงตัวเธอเร็วขึ้นมากกว่า

“จริงๆ ชอบแฟชั่น อัปเดตแฟชั่น แต่ไม่ได้เป็นคนตามแฟชั่น ไม่ได้เป็นคนแฟชั่นจ๋า เขาฮิตอะไรเราต้องมี คือชอบที่จะดู อัพเดท เพื่อให้เราทันเหตุการณ์เพราะเราทำงานตรงนี้ แต่ต้องตามเทรนด์มั้ย? ก็ไม่ได้ขนาดนั้น ไม่ใช่เขามีอะไรกันเราต้องมี จะเป็นคนที่ซื้ออะไรที่เราอยากได้จริงๆ บางคนอาจจะซื้อเพื่อไปโชว์คนอื่นที่เขาซื้อไม่ได้ ซื้อเพราะคนอื่นเขามี แต่แนนจะเป็นคนซื้อเพราะแนนอยากได้จริงๆ มากกว่า”

จากการที่อยู่ในวงการแฟชั่น ทำงานเกี่ยวกับเทรนด์หรือกระแส เธอสังเกตว่าเทรนด์จะหมุนเป็นวงกลมเสมอ จะเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ วันหนึ่งก็จะวนกลับมาที่เดิม

“จริงๆ เทรนมันก็เป็นวงกลม เหมือนเปลี่ยนไปสักพักก็เปลี่ยนกลับมาที่เดิม อยู่ที่ว่าช่วงนั้นเขาจะหยิบจับอะไรขึ้นมา ซึ่งถ้าใครโชคดีมาในจังหวะเวลาที่พอเหมาะก็บูมไป แล้วคนอื่นๆ ก็จะตามๆ มา แล้วสักพักมันก็จะซาไปเหมือนมันมีระยะเวลาของมัน

“แต่พอมันจบไป หายไปสักพักหนึ่งเดี๋ยวมันก็วนกลับมาใหม่ มันก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ ก็เลยรู้สึกว่า บางทีเรามีอยู่แล้วแต่เราไม่นึกถึง เวลาซื้ออะไรก็ต้องคิดก่อน บ้านเรามีอยู่แล้วหรือเปล่า เราอาจจะเอามาประยุกต์ เอามามิก แอนด์ แมตช์ให้เข้ากับเป็นเทรนด์ ณ ตอนนั้น”

วันอันยาวนานของชีวิต

หากเปรียบชีวิตเป็นเหมือนหนึ่งวัน เธอก็เดินทางมาถึงยานเช้าแสนสุกใสที่สุดของชีวิตที่เต็มไปด้วยความชื่นบาน แต่อนาคตยาวนานต่อไป เธอไม่ได้มองตัวเองในฐานะที่เป็นดาราสักเท่าไหร่

“แนนไม่กล้าเรียกตัวเองว่าดารานะ เพราะเราก็ไม่ได้มีชื่อเสียงสักเท่าไหร่ แต่ถึงจะไม่ดังมาก แต่เราก็มีความสุขกับจุดที่เราเป็นอยู่”

อนาคตของชีวิตในวงการ เธอเผยว่าอยากจะทำงานเป็นดีเจตามคลื่นวิทยุ อย่างไรก็ตาม งานทุกด้านในวงการก็อยู่ในความสนใจของเธอหมด

“จริงๆก็หลายอย่างนะ อยากลองทำทุกๆ ด้าน ที่นึกออกก็มีดีเจ แล้วก็อยากแสดงภาพยนตร์”

หากแต่เมื่อมองไปถึงระยะยาว เธอระบายยิ้มผ่านน้ำเสียงว่า จริงๆก็อยากทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งตอนนี้เธอก็เริ่มจัดการไปแล้วบางส่วน

“ตอนนี้ก็กำลังอยากทำธุรกิจของตัวเองอยู่ เกี่ยวกับความสวยความงาม ตอนนี้ก็ดำเนินการอยู่ เป็นพวกผลิตภัณฑ์ดูแลผิว”

จากคิวงานรายการประจำตั้งแต่วันจันทร์ - วันเสาร์ ยามว่างก็ขายของจากอินสตาแกรม ทำให้หลายครั้งเธอรู้สึกเหนื่อย แต่เธอยืนยันว่าไม่ได้เหนื่อยจากงานที่ทำเพราะมันเป็นสิ่งที่เธอรัก หากแต่เหนื่อยจากขั้นตอนอื่น อย่างการขับรถไปทำงานมากกว่า

“ตอนทำงานไม่เหนื่อย เหนื่อยตอนขับรถมากกว่า มันต้องไปหลายที่มาก และค่อนข้างไกล แต่ตอนทำงานเราสนุกไม่ได้รู้สึกหนักหนา รู้สึกเหนื่อย”

การจัดรายการสดที่ออกอากาศตอน 8 โมงครึ่ง โดยนัดถ่ายตั้งแต่ตอน 6 โมงเช่าเพื่อเตรียมตัว ทำให้เธอต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 ยิ่งกับเธอที่เป็นคนนอนดึก ไม่แปลกที่เธอจะรู้สึกเหนื่อยกับการเดินทาง

“แล้วเราเป็นคนนอนดึกแต่ตื่นเช้า ก็อาจจะมีบางที ง่วงๆ กว่าจะถึงบ้าน บางวันรู้สึกเลยว่า บุญที่ทำมาทั้งหมดได้ถูกใช้ไปกับการขับรถให้มาถึงบ้านแล้ว คนที่บ้านก็จะห่วงเรื่องนี้มาก”

รักหวานๆ สบายๆ ของสาวหมวย

หลังตกเป็นข่าวรักและเลิกกับนักแสดงระดับพระเอกของช่อง 7 มาถึงวันนี้เธอได้พบรักใหม่ ทั้งยังหวานช่ำจนเธอออกปากบอกเลย ตอนนี้สำหรับเธอ คนนี้คือคนที่ใช่ หากอ่านจากหน้าข่าวก็ถือเป็นกอซซิปในวงไฮโซเลยทีเดียว เพราะหนุ่มเจ้าของหัวใจสาวหมวยคนนี้คือ กึ้ย - ศุภชัย จิระพจชพร ทายาทโรงแรมโฟร์วิงส์

“โอเค แฮปปี้ค่ะ” เธอยิ้มเมื่อได้ยินคำถามถึงเรื่องความรัก “ถ้าถามว่าคนนี้เป็นคนที่ใช่สำหรับเราหรือเปล่า ตอนนี้คือใช่ค่ะ เป็นคนเราอยู่ด้วยแล้วสบายใจเป็นคนที่ทำให้เรามีความสุข เขาเป็นคนที่เข้าใจเรา มีไลฟ์สไตล์หลายๆ อย่างที่เหมือนเรา และเขาก็เป็นคนแรกๆ ที่เรานึกถึงเวลามีเรื่องอะไรก็ตาม คอยให้กำลังใจกัน”

แต่หากให้มองไกลไปถึงเรื่องแต่งงาน เธออมยิ้มเล็กน้อยพร้อมเปรยว่า เป็นเรื่องของอนาคต แน่นอนว่าเมื่อขึ้นชื่อว่าอนาคต มันก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

“ยังไม่ได้คิดไปถึงขนาดนั้น แค่ในตอนนี้แฮปปี้มีความสุขดีก็โอเคแล้ว เพราะตอนนี้เขาเป็นคนที่เติมเต็มเราในหลายๆอย่าง ดูแลเราในด้านความรู้สึก ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปค่ะ ได้ใช้เวลาร่วมกัน เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ทำให้ทุกๆอย่างมันสบายๆ”

แม้เรื่องรักจะเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายคนจับจ้อง ยิ่งเฉพาะกับสื่อมวลชน พร้อมกันนั้นก็เป็นประเด็นส่วนตัวที่เหล่าดาราไม่อยากเปิดเผย เธอรับตรงกับ บางครั้งก็รู้สึกเซ็งกับการพูดถึงเรื่องความรัก แต่อีกใจก็รู้สึกว่า ดีกว่าที่จะถูกลืมหรือมองข้ามไปเฉยๆ

“จริงๆ แล้วอยากให้สนใจเรื่องผลงานเหมือนกัน ที่ผ่านมาเวลาเจอพี่ๆ สื่อมักจะถามเรื่องความรักก่อน แล้วค่อยถามเรื่องงานทีหลัง หรือบางทีก็ไม่ได้ถามเลย เราไม่ได้อยากพูดเยอะ เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต เป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน จริงๆ ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ สื่อด้วย เพราะถ้าถามว่า แนนเป็นดาราดังมั้ย จริงๆก็ไม่ ทุกวันนี้ถ้าถามแนนว่าเป็นดาราหรือเปล่า แนนยังไม่กล้าตอบเลยว่าเป็นดารา แนนจะบอกว่าเราเป็นพิธีกรมากกว่า ยังดีที่เขาสนใจเรา”

ในส่วนของความรักนั้น เธอมีมุมมองที่แข็งแรงอยู่แล้ว ประสบการณ์รักในชีวิตเธอจึงไม่มีคำว่าเสียใจสักเท่าไหร่

“หลายคนชอบถาม เวลาเลิกกับแฟนแล้วทำไมไม่เสียใจ อาจจะเพราะว่าเวลาแนนคบใคร แนนรักแบบเต็มที่แล้วก็เหมือนเราทำดีที่สุดแล้วในทุกๆ ครั้ง เวลาที่ต้องเลิก แนนเลยไม่ค่อยเสียใจ คือเราทำดีที่สุดแล้วในแต่ละครั้ง”

เธอมองว่า ประสบการณ์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเข้มแข็งขึ้น แต่อีกสิ่งที่ทำให้เธอยังสามารถยืนอยู่ได้ เธอยังยืนยันว่าคือครอบครัว ท้ายที่สุดแล้วเธอยังมีครอบครัวที่รักเธออยู่เคียงข้างเธอเสมอ

“การเลี้ยงดูที่ทำให้เราอยู่ได้ อย่างหลายๆ คนเวลาผิดหวังจะรู้สึกไม่เหลืออะไรเลย แต่ว่าแนนยังมีครอบครัวที่คอยให้กำลังใจและอยู่ข้างๆ ตลอด”

ชื่อจริง ปิยะดา ตุรงคกุล
ชื่อเล่น แนน
การศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัศรีนครินทรวิโรฒ เกียรตินิยมอันดับ 2
งานอดิเรก เล่นกีฬา, ฟิตเนส, เข้าสปา, ท่องเที่ยวต่างจังหวัด , ชอปปิ้ง

ผลงาน รายการอินเทรน ช่อง 5 , รายการ สวย เฉียบ เนี้ยบ ช่อง เวิร์คพอยท์ทีวี , ถ่ายแบบลงนิตยสารMARS ฉบับประจำเดือนพฤษภาคม 2556

ภาพจาก นิตยสาร mars ฉบับประจำเดือนพฤษภาคม 2013 , instagram @ nannpiyada









เข้าฟิสเนตรักษาหุ่นตลอด


แอบเป็นนักชิมตัวยง

ภาพหวานกับแฟนหนุ่ม


กำลังโหลดความคิดเห็น