xs
xsm
sm
md
lg

“คาร์แคร์” แคร์เงิน ไม่แคร์รถ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รถหายที่ไหนไม่หาย ดันมาหายในคาร์แคร์!! สถานที่ที่ควรมีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อให้ลูกค้าที่นำรถสุดรักมาล้าง-ขัดสี-ซ่อมแซม ฯลฯ สามารถไว้วางใจที่จะฝากทรัพย์สินราคาแพงเอาไว้ในการดูแลของผู้ประกอบการได้ แต่สถานการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น
หลังจากนักแสดงสาว “ออม-สุชาร์” แวะไปทิ้งรถเอาไว้ให้คาร์แคร์เกรดบีชื่อดังย่านสาทรล้าง กลับมาอีกที ถึงกับต้องช็อก!! ล้างกันอย่างไรไม่รู้ หมดจดเสียจนรถหายไปทั้งคัน ทำเอาบรรดาคนมีรถทั้งหลายถึงกับหวาดผวากันไปตามๆ กัน และตัดสินใจว่าจะไม่ทิ้งรถไว้ที่ร้านใดๆ อีกต่อไป เพราะไม่อยากต้องเป็นผู้เคราะห์ร้ายอีกรายที่รถหายในคาร์แคร์



ล้างไปล้างมา หายยกคัน!
“เอารถไปล้างค่ะ แล้วเขาบอกว่าใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็เลยไปเดินเล่นรอในห้างสรรพสินค้าแถวนี้ ทางร้านก็ออกใบรับรถมาให้ พอทำธุระเสร็จ เราก็เอาใบรับรถมายื่นให้เขา เขาก็บอกว่าแป๊บนึงนะ หารถไม่เจอ (หน้าเสียแล้วเงียบไปพักหนึ่ง) เราก็รู้ตัวแล้วค่ะว่ารถหายแน่ รู้พร้อมๆ กับเจ้าของร้านและพนักงานทุกคนตอนนั้นเลย (ถอนหายใจ) รถคันนี้ออมจ่ายค่างวดจนใกล้หมดแล้วด้วย เหลืออีกแค่ 2 เดือน ออมรักรถคันนี้มาก พอหายไปก็เลยรู้สึกเสียดายมากค่ะ เพราะมันเป็นน้ำพักน้ำแรงของเราเอง” ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง นักแสดงสาวร่างกะทัดรัด เล่าเหตุการณ์ให้ฟังด้วยสีหน้าผิดหวัง
 

ความจริงแล้วออมไม่ได้เป็นลูกค้าขาประจำของคาร์แคร์แห่งนี้ แต่วันที่เกิดเหตุ เธอมีถ่ายละครละแวกนางลิ้นจี่ ระหว่างพักกองฯ พอมีเวลาว่าง จึงแวะเอารถมาสด้า 3 สีขาวสุดรักของเธอ มาฝากล้างไว้ที่ “ศูนย์เมกไกวส์” ซึ่งตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันบางจาก บริเวณเดียวกัน ไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นผู้เคราะห์ร้ายรถหายยกคัน
  

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านกาแฟภายในปั๊มน้ำมัน อธิบายเหตุการณ์ดังกล่าวได้ว่า คนร้ายน่าจะตามสะกดรอยนางเอกสาวมาจากที่อื่น สันนิษฐานว่าอาจตามมาเพราะความบ้าคลั่งในฐานะแฟนคลับ จนเป็นเหตุให้อยากขโมยรถของดาราที่ชื่นชอบมาไว้ในครอบครอง หรืออีกกรณี ตามมาถึงในร้านเพราะจงใจจะขโมยรถยี่ห้อนี้ตามออเดอร์ในการขายตลาดมืดมาตั้งแต่แรก เพราะนอกจากรถของออมแล้ว เห็นได้ชัดว่าคนร้ายไม่มีท่าทีสนใจรถคันอื่น-ยี่ห้ออื่นอีกเลย
  

“จากกล้องวงจรปิด เห็นเขาเข้ามาพูดคุยกับพนักงานในร้านอยู่พักหนึ่ง แล้วค่อยๆ เดินคุยโทรศัพท์เข้าไปใกล้ๆ กับบริเวณที่แขวนกุญแจรถ พอหยิบได้แล้วก็เดินไปเอารถที่จอดไว้อยู่ห่างออกไปประมาณ 15 เมตรได้ค่ะ ตรงนั้นก็มีคนอยู่ด้วย แต่เขาก็เอากุญแจไปสตาร์ทรถแล้วก็ขับออกไปเลย” นางเอกหน้าหวานให้ข้อมูล
  
มีการตั้งข้อสงสัยเพิ่มเติมว่าพนักงานและเจ้าของร้านอาจรู้เห็นเป็นใจในการโจรกรรมครั้งนี้ เนื่องจากชายปริศนาดูไม่กระโตกกระตาก รู้ว่าต้องหลบมุมกล้องอย่างไรและต้องเดินเลี่ยงไปในทิศทางไหนเพื่อไม่ให้กล้องจับหน้าได้ แต่สอบปากคำทุกคนในคาร์แคร์แล้วไม่พบพิรุธ ประเด็นร่วมมือกับอาชญากรจึงปัดตกไปก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบลายนิ้วมือ ซึ่งคนร้ายทิ้งเอาไว้บนรถเก๋งอีกคันหนึ่งขณะเข้ามาตีเนียน-พูดคุยกับพนักงาน ต้องรอดูกันต่อไปว่าลายนิ้วมือจะตรงกับรายชื่อประวัติคนร้ายที่มีอยู่หรือไม่



โจรกรรมในคาร์แคร์
หลังจากข่าวการลักรถที่เกิดขึ้นกับนางเอกสาวชื่อดังรายนี้แพร่กระจายออกไป คนในสังคมต่างให้ความสนใจ คอยติดตามผลว่า จะจับตัวคนร้ายได้ไหม? จะหารถเจอหรือเปล่า? หรือหากหาไม่เจอ ใครคือคนที่ต้องรับผิดชอบ? เจ้าของคาร์แคร์จะยอมจ่ายค่าเสียหายชดเชยคืนให้เป็นจำนวนเงินเท่าใด?
กระทั่งลามมาถึงคำถามตัดพ้อที่ว่า “นี่ถ้าไม่ใช่ดารา ทางคาร์แคร์คงไม่สนใจ ทางตำรวจคงไม่กระตือรือร้นกันขนาดนี้หรอกมั้ง?” เพราะนี่ไม่ใช่ความผิดพลาดครั้งแรกที่เกิดขึ้นและสร้างความเสียหายให้แก่ลูกค้าผู้เข้าใช้บริการศูนย์บริการรถยนต์ แต่ปุถุชนคนธรรมดาก็เคยรถหายในคาร์แคร์มาแล้ว เพียงแต่เสียงร้องเรียนของพวกเขาไม่ดังพอ จึงไม่มีใครสนใจออกมารับผิดชอบขนาดนี้เท่านั้นเอง
 
“รถหายจากร้านล้างรถที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มกราคม 2554 ค่ะ พี่ชายของดิฉันได้นำรถเข้าไปล้างที่ร้านล้างรถชั้น B ของห้างดัง เวลา 13.10 น. ซึ่งร้านนี้เป็นร้านประจำที่พี่เปิดเมมเบอร์ไว้ และจะนำรถเข้าไปล้างทุกวันเสาร์ วันนั้นก็นำไปล้างเหมือนปกติ พอตอนเย็นไปรับรถเวลา 18.00 น. ปรากฏว่าทางร้านแจ้งว่ามีคนมารับรถไปแล้ว ซึ่งใบรับรถยังคงอยู่กับทางเรา ทั้งๆ ที่ปกติพี่จะมารับรถเองทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้มีผู้ชายคนหนึ่งมาแจ้งขอรับรถแทน บอกว่าใบรับรถอยู่กับภรรยาจึงไม่มีบัตรมารับ ขอต่อเมมเบอร์มูลค่า 5,999 บาท และชำระเป็นเงินสด ทั้งๆ ที่ บัตรเมมเบอร์ของพี่เราไม่ได้ใกล้หมดอายุแต่อย่างใด แต่พนักงานก็เอากุญแจให้เขาไป เพราะการรับเมมเบอร์ของที่นี่ ไม่ต้องใช้เอกสารใดๆ ทั้งสิ้น ใช้แค่เงินและชื่อเท่านั้น ทำให้คนร้ายนำรถออกไปได้ง่ายๆ
 

สิ่งที่ทำให้งงอีกอย่างคือ คนที่รับรถจากพี่เราเป็นพนักงานคนเดียวกับที่ให้กุญแจรถคนร้ายไป ซึ่งพี่เราไม่ได้เป็นลูกค้าขาจรด้วย และพนักงานคนนี้ก็ทำงานมา 3-4 ปีแล้ว ทางร้านล้างรถได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับผู้ที่ทำให้ได้รถคืนอยู่ที่แสนบาท ตอนนี้ยังต้องเจรจาเรียกร้องค่าเสียหายจากทางร้านอยู่ แต่ถ้าเขาไม่รับผิดชอบใดๆ ทางเราจะแจ้งให้ทราบเพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับลูกค้าที่จะไปใช้บริการว่าควรจะรัดกุมมากกว่านี้ในเรื่องเอกสารเมมเบอร์หรือเคร่งครัดสำหรับใบรับรถมากๆ เพราะรถเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง ควรตรวจสอบฐานข้อมูลลูกค้าให้ดีๆ ไม่ใช่ใครมารับรถก็ได้แบบนี้” คุณขวัญชนก แฉความหละหลวมของคาร์แคร์ชื่อดังแห่งหนึ่งเอาไว้บนโลกออนไลน์
  

นอกจากความผิดพลาดเรื่องใหญ่ๆ อย่าง “รถหาย” แล้ว ยังมีปัญหาของหายอีกประปรายที่บรรดาคนมีรถเจอมานักต่อนัก เล่ากันปากต่อปาก จนเป็นที่รู้กันว่า “อย่าวางใจ” ทิ้งสิ่งของมีค่าไว้ในรถเป็นอันขาด เพราะของแบบนี้จับมือใครดมไม่ได้ หายแล้วหายเลย หรือในบางกรณี ต่อให้เจ้าของรถจะพยายามระมัดระวังแค่ไหนแล้วก็ตามขณะฝากรถไว้ในคาร์แคร์ แต่ขบวนการมิจฉาชีพสมัยนี้ล้ำหน้ากว่านั้นเยอะ
เหล่าโจรมืออาชีพอาจไม่จำเป็นต้องมาคอยจ้องขโมยรถระหว่างอยู่ในร้านบริการอีกต่อไป แค่ฉกฉวยกุญแจรถเอามาไว้ในมือได้แล้วนำไปก๊อบปี้ไว้ พอเหยื่อขับรถออกจากคาร์แคร์ก็ขับรถตามไปไม่ให้คลาดสายตา ประจวบเหมาะจอดรถไว้ข้างทางเมื่อไหร่ กุญแจผีที่ก๊อบปี้ไว้ก็พร้อมทำหน้าที่ สตาร์ทรถคันสวยของเหยื่อออกไปอย่างไร้ร่องรอย
 

จะเห็นได้ว่า ปัญหาสำคัญของปัญหามิจฉาชีพขโมยรถในคาร์แคร์อยู่ที่เรื่อง “กุญแจ” เป็นหลัก ถ้าศูนย์บริการมีระบบการจัดการที่ดี เก็บรักษากุญแจรถของลูกค้าในโซนปลอดภัย ชายปริศนาคนนั้นก็ไม่มีวันจะตีเนียนเข้ามาหยิบกุญแจรถของ ออม-สุชาร์ ไปได้ รถของเธอก็จะไม่หาย หรือแม้แต่เคสอื่นๆ ก็จะไม่ถูกมือมืดฉวยไปปั๊มกุญแจเก็บไว้ให้เสียวสันหลังเล่น แต่เนื่องจากคาร์แคร์ส่วนใหญ่ในประเทศไทยไม่ได้มาตรฐานและไม่ใส่ใจเรื่องนี้เท่าที่ควร จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
 

“คงไม่มีคาร์แคร์ที่ไหนอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอกครับ แต่ระบบการจัดการของพวกเขาไม่รัดกุมพอ มันเลยเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่เสียบกุญแจ เท่าที่เห็นมา ทุกที่เลยไม่ได้เสียบกุญแจไว้ในเซฟที่มีการล็อกเรียบร้อย ถามว่าทำไมเขาไม่ล็อกมัน ก็เพราะรถที่จอดในคาร์แคร์ต้องเลื่อนเข้า-ออกบ่อยมากครับ แทบจะเลื่อนกันตลอดเวลาเลย พนักงานก็เลยขี้เกียจล็อคตู้ใส่กุญแจ
แล้วถามว่าทำไมต้องเลื่อนรถบ่อย มันก็เป็นเพราะเขามีพื้นที่ไม่พอครับ พอมีรถมาใช้บริการเยอะๆ เข้า ก็เลยต้องเลื่อนรถคันเก่าออก เอาคันใหม่เข้ามา บางทีถึงกับเสียบกุญแจคาไว้ที่รถเลยก็มี ถ้าลองไปนั่งดูจะเห็นเลยครับว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ” อนันต์ ยาชะรัด เจ้าของโรงเรียนบริหารธุรกิจคาร์แคร์ บริษัท เอ ซี กรุ๊ป ดาล์ลีคลีน (ประเทศไทย) จำกัด วิเคราะห์ปัญหาให้ฟัง




เมื่อคาร์แคร์ ไม่แคร์คุณ
ในเมื่อคาร์แคร์ทุกวันนี้ให้ความใส่ใจต่อลูกค้าของพวกเขาได้ไม่ดีพอ ก็ถึงเวลาที่พวกเราต้องรู้จักแคร์ตัวเองเสียที ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดที่จะสกัดปัญหา “รถหายในคาร์แคร์” ไม่ให้เกิดขึ้นก็คือการหัดรู้จักสังเกตสถานประกอบการก่อนเข้าใช้ แต่เนื่องจากศูนย์บริการรถยนต์ทั้งหลายไม่มีระบบแบ่งมาตรฐานด้วยจำนวนดาวอย่างโรงแรม คนรักรถจึงต้องพิจารณา “ความน่าเชื่อถือ” ด้วยตัวเอง ตามคุณสมบัติ 3 ข้อ ดังต่อไปนี้ 1.ลักษณะสถานประกอบการ 2.ระบบวางแผน-จัดการงาน และ 3.บุคลากร
 

“ลักษณะสถานประกอบการ” ตัดสินคร่าวๆ ผ่านสายตาด้วยสถานที่ตั้งของคาร์แคร์แห่งนั้น หากตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านจะทำให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยได้รัดกุมน้อยกว่า คาร์แคร์ที่ตั้งขึ้นบนพื้นที่ของตนเองโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่าเป็นคาร์แคร์ประเภทสแตนด์อะโลน (Stand Alone) นั่นเอง ทั้งยังสามารถพิจารณาความน่าเชื่อถือเพิ่มเติมจากป้ายร้านได้อีกด้วย หากมีชื่อแบรนด์ติดตลาด เป็นเฟรนไชส์มาจากต่างประเทศก็ย่อมมีมาตรฐานการจัดการที่น่าเชื่อถือมากกว่า
 

การสังเกตเรื่องความกว้างขวางของสถานที่ก็ช่วยได้มาก เพราะเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ระบบทำงานรวนก็เป็นเพราะสถานประกอบการมีพื้นที่ไม่เพียงพอนั่นเอง อย่างที่ได้อธิบายไปตอนต้นแล้วว่าเมื่อมีพื้นที่ในการจอดรถน้อยในขณะที่รถที่เข้ามาใช้บริการมีจำนวนมาก จะทำให้พนักงานต้องเลื่อนรถเข้า-ออกบ่อยๆ เป็นเหตุให้ต้องเปิดตู้ล็อกกุญแจรถบ่อยครั้งกระทั่งเกิดความสะเพร่าขึ้น แต่ถ้ามีพื้นที่ที่กว้างขวางเพียงพอ จัดโซนพื้นที่ออกเป็น รถที่กำลังรอเข้าใช้บริการ, รถที่ใช้บริการอยู่ และ รถที่ให้บริการเสร็จสิ้นแล้ว การตรวจสอบทุกอย่างก็จะทำได้ง่ายยิ่งขึ้น
 

หากวัดกันเป็นตัวเลขแล้ว คาร์แคร์ที่ได้มาตรฐานนั้นควรมีพื้นที่ใช้สอยอย่างน้อย 200-250 ตร.ม. เพราะต้องแบ่งช่องใช้บริการออกเป็นโซนล้างรถ, ทำสี, ช่องแห้ง, ช่องเปียก ฯลฯ รวมพื้นที่จอดรถแล้วคือต้องมี 600 ตร.ม. แต่คาร์แคร์ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ มีพื้นที่โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 150 ตร.ม. เท่านั้น จึงไม่แปลกที่ปัญหาวุ่นวายต่างๆ จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ในคาร์แคร์
 

ปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กันอีกข้อหนึ่งก็คือ “ระบบวางแผน-จัดการงาน” ก่อนจะตัดสินใจใช้บริการคาร์แคร์แห่งใดก็ตาม ต้องดูให้ดีก่อนว่ามีการจัดการที่รัดกุมเพียงพอ สามารถดูแลรถยนต์สุดรักของผู้เข้าใช้บริการได้ โดยเฉพาะ “ระบบเช็กรถ” พนักงานผู้รับรถกับพนักงานผู้ส่งรถคืนให้แก่ลูกค้า ควรเป็นคนเดียวกัน เพื่อให้จดจำได้ว่าคนมารับรถทีหลังจะไม่ใช่มิจฉาชีพปลอมตัวมา
นอกจากนี้ “ระบบเอกสาร” ก็เป็นเรื่องห้ามมองข้ามเด็ดขาด คาร์แคร์แห่งนั้นต้องให้เอกสารรับรถแก่ลูกค้า ขอบัตรประชาชนเพื่อกรอกรายละเอียดให้ชัดเจน และต้องไม่ลืมขอตรวจสอบด้วยวิธีเดียวกันนี้ในตอนลูกค้ามารับรถคืนด้วย หากรู้จักรักษาความปลอดภัยในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด ปัญหาการโจรกรรมที่จะเกิดขึ้นคงเป็นไปได้ยากมากทีเดียว
 

สุดท้ายคือเรื่องของ “บุคลากร” ผู้เข้าใช้บริการ สามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือคร่าวๆ ได้จากลักษณะภายนอกอย่างแบบฟอร์มและการแต่งตัวของพนักงาน ส่วนทางสถานประกอบการเองก็มีหน้าที่ตรวจสอบประวัติบุคคลก่อนรับเข้าทำงาน และหมั่นสังเกตพฤติกรรมในระหว่างทำงานสม่ำเสมอว่ามีวี่แววว่าจะเป็นหนอนบ่อนไส้ ฮั้วผลประโยชน์กับโจรด้วยหรือเปล่า เพราะจากประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจคาร์แคร์แล้ว อาจารย์อนันต์ยืนยันชัดเจนว่า
 

โดยธรรมชาติของมิจฉาชีพมืออาชีพ จะทำอะไรก็ต้องมีเป้าหมาย ถ้าเขาคิดจะเข้ามาขโมยรถ ไม่มีหรอกครับที่จู่ๆ จะเข้ามาขโมย อาจจะมีออเดอร์มาว่าต้องเป็นรถรุ่นไหน พอเจอแล้วก็คิดว่าจะฉวยโอกาสได้ยังไง ขโมยได้จากที่ไหนบ้าง พอจะเข้าไปที่ไหน อย่างน้อยต้องมีเส้นสาย เตรียมกัน มีการวางแผนมาอย่างดีแล้วระดับหนึ่ง” เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อ ลูกค้าคาร์แคร์ต้องอย่าชะล่าใจ

แต่หากทำตามทุกขั้นตอนเฝ้าระวังข้างต้นแล้วยังไม่ไว้วางใจ เห็นทีว่าจะต้องอาศัยวิธี “นั่งเฝ้ากุญแจ” กันแบบห้ามละสายตา ตราบใดที่คาร์แคร์ในประเทศนี้ ยังไม่สามารถทำให้เชื่อใจได้ว่า เขาแคร์ลูกค้าจริงๆ

ASTV ผู้จัดการ LIVE




ช่องเสียบกุญแจ ต้นเหตุเรื่องทั้งหมด
ตรวจหลักฐานจากวงจรปิด


ผู้ต้องสงสัย
รถที่หายไป

เสียดายจนต้องประกาศออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น