ในที่สุดคดีประวัติศาสตร์การยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ผ่านพ้นไปท่ามกลางความลุ้นระทึกของทุกฝ่าย เมื่อองค์คณะผู้พิพากษา 7 ต่อ 2 ตัดสินให้ทรัพย์สิน 76,000 กว่าล้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดเป็นของแผ่นดิน 46,373,687,454.70 บาท ส่วนที่เหลืออีก 30,247,915,606.35 บาท ให้คืนแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากเห็นว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาก่อนดำรงตำแหน่งทางการเมือง
หลายสำนักข่าวฟันธงเหมือนกันว่า แม้คำตัดสินจะออกมาแล้ว แต่เรื่องนี้ยังไม่จบ ความวุ่นวายทางการเมืองจะยังคงคุกรุ่นและน่าหวาดหวั่นต่อไป โดยเฉพาะการประกาศชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 14 มีนาคม 2553 นี้
แต่เพราะไม่อยากเพิ่มความหนักหน่วงและวิตกกังวลให้มากไปกว่านี้ จึงอยากจะชวนมาลองดูกันว่า ตัวเลขทรัพย์สินที่ถูกยึดและถูกส่งคืนนี้ในทางเลขพยากรณ์สามารถบอกอะไรแก่เราได้บ้าง
เพราะมีนักปรัชญากรีกยุคโบราณคนหนึ่ง เขาเชื่อถึงขนาดว่าโลกนี้ถูกกำหนดด้วยตัวเลขกันเลยทีเดียว ไม่แน่ว่าเราอาจเห็นอนาคตบ้านเมืองผ่านตัวเลขเหล่านี้ก็ได้
ตัวเลขกับบ้านเมือง
ก่อนหน้าที่ศาลฎีกาฯ จะมีคำพิพากษา หมอดูบางคนพยากรณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดทรัพย์แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น จันทร์มหาจักร, หมอนิด-กิจจา ทวีกุลกิจ และ อ.สะพานเดินเรือ แต่จะไม่ถูกยึดทรัพย์ทั้งหมด
ยกตัวอย่างคำทำนายของ อ.สะพานเดินเรือ ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งดวงดาวและตัวเลข ซึ่งเคยตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ระบุว่า เกณฑ์ชะตาดวงในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นั้นจะมีดาวโคจรดังนี้ ดาว 7 ทับลัคน์ในราศีกันย์ซึ่งมาจากเรือนวินาสเดิม และอยู่ในเรือนของดาว 4 ซึ่งขณะนี้พึ่งยกเข้ามาราศีกุมภ์เป็นอริกับลัคนาและมีดาว 1, 5, 6 ก็โคจรไปรออยู่ก่อนแล้ว บวกกับดาว 8 โคจรไปอยู่เรือนปุตตะราศีธนูอันเป็นเรือนของดาว 5 ซึ่งกำลังโคจรไปอยู่เรือน 8 เช่นกัน ได้ตำแหน่งอนุเกษตร บวกกับดวงอดีตนายกฯ อายุย่าง 61 ทักษาจรตก 1 มนตรีเดิม ทำให้ดาว 6 เป็นกาลีจรในปีนี้ ซึ่งดาว 6 เป็นเจ้าเรือนกรรมะและกดุมภะ (การเงิน) เลยทำให้มีปัญหาเรื่องการงาน การเงิน และโคจรไปอยู่เรือนอริเข้าร่วมกับเจ้าเรือนตนุลัคน์ และดาว 15
“เรียกว่าได้คู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล คู่วิชาการ ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากดาวพระเคราะห์ดังกล่าวทำให้การตัดสินมีการได้รับการพิจารณาแบบรอบคอบและรัดกุม ด้วยดาวดังกล่าวที่ส่งกระแสสัมพันธ์กันทำให้การตัดสินนั้นมีการยึดทรัพย์ในบางส่วนแต่ไม่ทั้งหมด และมีโอกาสได้รับการผ่อนผันหรือคืนในบางส่วน ทำให้เจ้าชะตามีโอกาสได้รับการคืนทรัพย์สิน”
แต่สิ่งที่น่าวิตกก็คือ หมอดูหลายคนพยากรณ์ไปในทำนองเดียวกันว่า ช่วงเดือนมีนาคมหลังวันที่ 12 เป็นต้นไป จะเกิดความวุ่นวายใหญ่โตตามมา
ส่วนตัวเลขจำนวนทรัพย์ที่ถูกยึดและคืนนั้นจะบ่งบอกอะไรได้หรือไม่?
อลงกรณ์ รัชวงษ์ นักโหราศาสตร์ แสดงทัศนะเกี่ยวกับตัวเลขยึดทรัพย์ครั้งนี้ในเชิงเลขศาสตร์ว่า 46,373,687,454.70 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่คุณทักษิณถูกยึดไปนั้น เมื่อบวกกันแล้วได้ตกที่เลข 14 ซึ่งหากมองตามตัวเลขที่ออกมาสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ตัวคุณทักษิณไม่พอใจกับการตัดสินทั้งหมด และอาจจะมีการโทษไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ รวมถึงบุคคลภายในด้วย
“ตัวเขาเองคิดว่าเขาได้พบเจอคนโกหกหลอกลวง ที่แกล้งทำดี พูดดี ช่วยเหลือ เหมือนว่าถูกโกหกหลอก 4+1 เป็น 5 ตกดาวพฤหัสฯ พวกนี้ก็คือพวกนักวิชาการ พวกทนายความ ผู้พิพากษา เป็นความไม่พอใจผลการตัดสินที่เป็นศัตรูของเขา”
ถ้าถามว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับประเทศไทยหรือ โดยส่วนตัวอลงกรณ์แล้ว เขาบอกว่า
“ถ้าให้ทำนายคุณทักษิณเฉยๆ แล้ว แทบจะไม่ยินดียินร้ายอะไรทั้งสิ้นแล้ว ในตอนนั้นเลยนะ อยากอยู่นิ่งๆ โดยตัวเขาและดวงเขาด้วย ผมทำนายไว้ก่อนที่จะมีการยึดทรัพย์ด้วย และหลังจากการยึดทรัพย์ก็จะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ท่านก็คิดอย่างนี้แล้ว ไม่เอาแล้วจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรทั้งสิ้นแล้ว และแน่นอนเขาไม่พอใจ ตอนนี้เขาก็ทำตัวเป็นกลางไม่อยากยึดถืออะไรแล้ว อะไรจะเกิดก็เกิดให้มันเป็นไป
“ผมกลัวอยู่อย่างหนึ่งคือกลัวบุคคลทั้งหลายที่เคยร่วมงานกับคุณทักษิณ อาจจะมีการยุยงให้เกิดการไปยื่นอุทธรณ์ จะทำให้ได้ทรัพย์สินกลับคืนมา ซึ่งมีโอกาสเหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาจะเฉยๆ ดูทีท่าก่อน”
หากพูดถึงดวงบ้านเมือง กับเรื่องการยึดทรัพย์ เขาบอกว่า ให้มีความระวังในเรื่องไฟ อาจจะเป็นเรื่องระเบิด ข้าราชการ ทหารตำรวจ นักเลง หรือคนที่สนับสนุนคุณทักษิณอาจจะมีการยุยงให้ยืนอุทธรณ์ต่อไป หรือฟ้องศาลโลก แต่ตัวคุณทักษิณเอง เขาคิดเรื่องของบุญกรรม แล้วแต่ว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ก็แล้วแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์
“เขาวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มาถึงกับสาบานตัวเองว่า ถ้าเขามีการโกงกินจริง ขอให้มีอันเป็นไปภายใน 7 วัน เรื่องนี้จะไปสิ้นสุดก็วันที่ 5 ผมก็จะคอยดูเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร ว่าสิ่งที่เขาสาบานจะเป็นไปจริงไหม ถ้าไม่เป็นไรเลย ก็มีส่วนที่จะบริสุทธิ์เหมือนกัน ตอนนี้เขาอยู่เฉยๆ คิดว่าเป็นเรื่องของบุญกรรม”
ในส่วนของเงินที่ไม่ถูกยึดไปจำนวน 30,247,915,606.35 บาท บวกกันแล้วตกที่เลข 16 ในศาสตร์ทางตัวเลข อลงกรณ์บอกว่า ตอนนี้คุณทักษิณเขามีท่าทีนิ่งๆ และขอทำใจ ตามดวงของเขา เขาคิดว่าเป็นเรื่องของกรรม ซึ่งตัวเขาอยู่ที่ไหนก็ไม่มีความสุข จำนวนเงินที่ไม่ถูกยึดทรัพย์นั้นอาจจะมีการนำไปลงทุนในเรื่องการทำเครื่องประดับ ซื้อหุ้นต่างประเทศ ทำเทคโนโลยี เครื่องตกแต่ง ซึ่งหากมองตามดวงตอนนี้เขาจะอยู่นิ่งๆ มากกว่า
“เขาจะมีเกณฑ์เอาเงินไปลงทุนธุรกิจต่างประเทศเกี่ยวกับของสวยงาม เทคโนโลยี ที่ดิน อสังหาฯ บางอย่าง รวมถึงเรื่องคมนาคมด้วย ดวงของคุณทักษิณอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ก็ยังโยกย้ายอยู่ไม่เป็นที่เหมือนเดิม เขามองไปทางจีน เกาหลี ญี่ปุ่นมีเกณฑ์ที่จะลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ด้วย และยังมีเกณฑ์ว่าเขาจะทำบุญเหมือนกัน”
ส่วนดวงบ้านดวงเมืองอลงกรณ์แสดงทัศนะทิ้งท้ายว่า ยังมีเรื่องการวิวาทะอยู่ต่อไป โดยเฉพาะในกลุ่มของบุคคลที่เป็นทหาร และจะมีการปล่อยข่าวลืออกมาค่อนข้างบ่อย เขาจึงเตือนว่า อย่าไปเชื่อข่าวลือ
ด้าน ธนกร สินเกษม นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทยฯ ให้ความเห็นเรื่องตัวเลขทรัพย์สินในคดียึดทรัพย์ว่า ไม่น่าจะใช้ตรวจสอบดวงชะตาได้มากนัก
“ส่วนเรื่องตัวเลข ผมไม่รู้จะดูอะไร เพราะ 46,000 ล้าน ผมมองไม่เห็นอะไร ถ้าจะมีก็คงจะเป็นตัวเลขข้างหน้า 2 ตัวคือ 4 กับ 6 ซึ่งเป็นคู่ธาตุน้ำ ไม่ใช่เป็นคู่ศัตรู ตามหลักเลขศาสตร์ถือเป็นเลขที่ดี จึงทำให้คนพอใจเยอะเหมือนกัน และแม้แต่คุณทักษิณเอง ผมว่าลึกๆ เขาก็คงจะพอใจนะ เพราะมันก็ยังบอกว่าอย่างน้อยสิ่งที่เขาหามาตลอดชีวิตก็ยังอยู่
“ส่วนเลข 30 ที่เป็นเงินคืนนั้นอาจจะแรงไปนิดหนึ่ง เพราะเป็นเลขที่มีขัดแย้งในดาว 3 ดวงคือ ดาวเสาร์ ดาวอังคาร ดาวมฤตยู ดังนั้น คนก็เลยไม่เคยพูดถึง สังเกตดูก็ได้ เวลาพาดหัวข่าว ตัวเลขที่คนพูดถึงก็มีแต่ 46,000 ล้าน”
แต่เขาบอกว่าหากจะพิจารณาอนาคตบ้านเมือง ก็ควรจะดูที่ดวงเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่ดูที่ตัวเลขที่มีการยึดทรัพย์ ซึ่งเขาก็บอกว่าต้องระวังสถานการณ์ให้ดี เพราะอาจมีการเล่นการเมืองแบบสกปรก
“สิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้คงต้องอิงดวงเมืองเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนมันก็คงจะยังไม่สงบจนกระทั่งผ่านช่วง 21 เมษายนไปแล้ว เพราะตอนนี้ดาวอาทิตย์ที่กุมลัคนาดวงเมืองอยู่นั้นเป็นกาลี แล้วดาวอาทิตย์ก็คือการเมือง ดังนั้น การเมืองก็ต้องร้อน แล้วนักการเมืองก็ต้องเล่นการเมืองด้วยวิธีที่ไม่ปกติ ส่อให้เห็นว่าคงต้องเป็นวิธีการที่สกปรกอย่างแน่นอน”
กลับไปถาม อ.สะพานเดินเรือ อีกครั้งหนึ่ง เขาบอกว่าวันที่ 12 มีนาคม ต้องระวัง เนื่องจากดวงอาทิตย์โคจรเข้าสู่ราศีมีน เจอราหูยึดเมือง เล็งดาวเสาร์ หมายความว่าราหูเจอเพื่อน และดาวสองดวงนี้ไม่ถูกกับดวงอาทิตย์ ขณะที่ราศีมีนเป็นธาตุน้ำ ตรงนี้คือปัญหา ความวุ่นวายจะเกิดขึ้น
“ผู้ใหญ่ในแผ่นดินจะมีการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต รวมไปถึงพระภิกษุด้วย ในช่วงของปีนี้ บ้านเมืองเรายังคงสับสนวุ่นวาย เนื่องจากดาวเสาร์เข้าราศีเป็นอริกับดวงเมือง
“อีกตัวหนึ่งทีสำคัญคือดาวอังคาร เพราะโคจรทับองศาอยู่ในราศีกรกฎ แสดงว่าจะเกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น ข้าวยากหมากแพง โรคระบาด อีกอย่าง ดาวอังคารคือทหารกับตำรวจ จึงเกิดความขัดแย้ง และยังต้องระวังปัญหาการกระทบกระทั่งกับเพื่อนบ้าน”
อ.สะพานเดินเรือเตือนว่าให้ระวังกัมพูชาก่อนเป็นอันดับแรก และพม่าเป็นอันดับสอง
แล้วจะแก้ไขได้หรือไม่
ในทางโหราศาสตร์ อ.สะพานเดินเรือ บอกว่าควรจะต้องมีการทำบุญประเทศ ทำการสะเดาะเคราะห์ให้แก่ประเทศและเสาหลักเมือง ซึ่งน่าจะผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้
ทั้งหมดนี้ก็เรื่องของการทำนายทายทักตามหลักโหราศาสตร์ แต่จากสถานการณ์ขณะนี้ การขว้างระเบิดใส่ธนาคารกรุงเทพฯ ก็คงพอมองเห็นได้ว่า ความวุ่นวายและความรุนแรงจะยังไม่จบเพียงเท่านี้ เราคงต้องช่วยกันประคับประคองประเทศให้ผ่านพ้นไปให้ได้
(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
..........
เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
ภาพ : ทีมภาพ CLICK