การกลับมาชุมนุมอีกครั้ง ณ ท้องสนามหลวง แม้จะเรียกว่ามี พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง แต่ก็แตกต่างไปจากครั้งที่ผ่านๆ มา เพราะครั้งนี้ไม่ได้มาไล่ใคร และที่สำคัญไม่จำกัดสีเสื้อ
หลังจากสังคมไทยได้เห็นพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่จับมือกับประเทศเพื่อนบ้านย่ำยีศักดิ์ศรีประเทศไทย บวกกับคำสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในไทม์ออนไลน์ที่เหยียบย่ำหัวใจคนไทยอีกคำรบหนึ่ง ก็เพียงพอแล้วที่คนไทยไม่อาจอยู่เฉยได้อีก
เราจึงขอทำหน้าที่เป็นสะพานบอกเล่าความรู้สึกของผู้คนจำนวนหนึ่งอีกครั้ง
ชุมนุมปลอดสีเสื้อ
สำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงการจัดงานชุมนุมครั้งนี้ว่า เป็นการสำแดงพลังแผ่นดินตามชื่องาน เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้
“เรื่องของชาติคือเราถูกย่ำยีมากจากทั้งฮุนเซนและอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อย่างที่ทราบกันอยู่ ส่วนเรื่องสถาบัน วันนี้ พ.ศ.นี้ก็เป็นที่พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่พันธมิตรฯ พูดมาสี่ซ้าห้าปีนี้มันเป็นเรื่องจริงจากกรณีที่ทักษิณให้สัมภาษณ์ไทมส์ออนไลน์ เหมือนเป็นใบเสร็จเลย วันนี้จึงได้เวลาที่พี่น้องคนไทยจะต้องสำแดงพลัง
“ในเนื้องาน ที่น่าสนใจคือท่าน ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน จะพูดถึงประเด็นฮุนเซนโมเดล โดยคร่าวๆ คือฮุนเซนใช้กองกำลังต่างชาติมาทำร้ายชาติของตัวเอง แล้วขึ้นมามีอำนาจและสถาปนาตัวเองให้มีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ สุดท้ายก็คือการล้มสถาบัน ทุกวันนี้ ฮุนเซนก็ตั้งตัวเองเป็นสมเด็จฯ เอาพระโอรสของสีหนุขึ้นเป็นประมุข แต่ฮุนเซนก็ทำให้เป็นแค่ประมุขหุ่นเชิด เป็นแค่สัญลักษณ์ ก็มีคำถามว่าทักษิณ ชินวัตร เขาจะใช้โมเดลนี้กับประเทศไทยหรือไม่
“การชุมนุมนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองใหม่ ผม-ในฐานะโฆษกพรรคพูดได้เต็มปากว่าเราไม่เคยเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นเกมทางการเมือง บ้านเมืองเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ สถาบันเป็นเรื่องที่สำคัญของบ้านเมือง ใครที่คิดจะเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นเกมการเมือง ผมว่ามันจะเป็นบาปกับตัวเอง”
เช่นเดียวกันกับ อนุชา ประธาน หัวหน้าวงแฮมเมอร์ ที่บอกว่า การชุมนุมในครั้งนี้ แตกต่างจากการชุมนุมทางการเมืองของพันธมิตรฯ ทุกครั้งที่ผ่านมา
“ครั้งนี้เราไม่ได้มาไล่ใคร ผมว่าคนไทยยามนี้รู้และเข้าใจปัญหาดี วันนี้จะเป็นวันที่คนไทยมาเพื่อแสดงออกว่าเรารักในหลวง เรารักแผ่นดินนะ ตอนนี้ปัญหาหนักสุดคือทักษิณกับกัมพูชาและปัญหาเรื่องสถาบัน วันนี้เราจึงมาแสดงพลังให้โลกรู้ เพราะวันนี้ทั่วโลกจับตามองอยู่ ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างก็เหมือนกับว่าคนไทยไม่ได้สะท้อนอะไร เขาก็จะได้ข้อมูลที่ผิด”
แน่นอนว่า เมื่อจัดขึ้นโดยแกนนำฝ่ายพันธมิตรฯ ทำให้มีคนกังขาว่า งานนี้เฉพาะคนเสื้อเหลืองหรือเปล่า?
“ไม่แบ่งสีครับ ครั้งนี้ผมถือว่าคนไทยน่าจะได้แสดงออกถึงความสามัคคีด้วยซ้ำไป เพราะถ้าเรามีศึกอยู่ข้างนอก แล้วเราจะมารบกันอยู่ทำไม ศึกนอกผมถือว่าสำคัญกว่า และผมรู้สึกว่าวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นสีใด เข้าใจปัญหาของประเทศไทยในทิศทางเดียวกันแล้ว
“ผมขอประณามด้วยว่า ถ้าคุณเป็นคนไทย แต่ไปเห็นต่างชาติดีกว่าหรือไปใช้ฐานต่างชาติโจมตีเมืองไทย ผมถือว่าคุณต้องลาออกจากการเป็นคนไทย ประเทศไทยแข็งแกร่งมาด้วยประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ถ้าคุณทำแบบนี้ ผมก็ยืนยันคำเดิมว่าคุณไม่ใช่คนไทย แต่คุณคือศัตรูของคนไทย” อนุชากล่าว
พวกเขามาทำไม?
ท่ามกลางอากาศที่อุณหภูมิร้อนจัด แต่ประชาชนเสื้อหลากสี ทั้งเหลือง ชมพู ส้ม แสด ฟ้า เขียว ฯลฯ ยังคงหลั่งไหลมุ่งหน้ามาที่ท้องสนามหลวงไม่ขาดสาย บางคนเดินทัพมาจากต่างจังหวัดไกลนับร้อยๆ กิโลเมตร บ้างก็มาจากชานเมืองรอยต่อกรุงเทพฯ แต่ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ก็คือแสดงพลังเพื่อในหลวง
เพชรรัตน์ พุ่มสวรรค์ คนเชียงใหม่ที่มาอยู่ไกลถึงนนทบุรี และอนัญญา หงษ์ประทานพร ชาวบางแค สองเพื่อนรักที่ตั้งใจมาจากที่ทำงานที่พัทยา เล่าว่าจุดประสงค์ในการมาวันนี้ ตั้งใจมาเพื่อเทิดทูนสถาบันโดยเฉพาะ
“วอนให้คนไทยทุกคนออกมาแสดงว่า เป็นประชาชนชาวไทยต้องรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยกย่องสถาบัน เรารักในหลวง”
ส่วนคุณป้าที่มาพร้อมลูกหลานจากลพบุรีผู้หนึ่งบอกว่า “เรารักในหลวง เรารักประเทศชาติ อยู่แบบพอเพียงแบบที่ในหลวงท่านสอนประชาชนให้อยู่อย่างพอเพียง ไม่ให้แตกแยกกัน วันนี้เรามากันทั้งครอบครัว 3 รถตู้ เรามาเพื่อในหลวง เพื่อประเทศชาติ มาเพื่อให้คนไทยสามัคคีกัน ส่วนคนอื่นที่ไม่คิดแบบนี้ก็อยากจะฝากไปบอกว่า อย่าดูถูกคนไทย”
ทางด้านหญิงชาวไทยเลือดรักชาติเข้มข้น ที่ใช้ชื่อว่า ‘คนสู้เพื่อในหลวง’ กล่าวว่า “ฝากบอกประชาชนชาวไทยว่าเราต้องรักในหลวงและสถาบันของเรานะคะ อย่าให้ใครผู้ใดมาเอาเปรียบประชาชนเพื่อผลประโยชน์ของเขาคนใดคนหนึ่ง เพราะประเทศไทยเราเป็นชาติไทยมานานแล้ว ไม่ควรจะให้ใครมาฉกฉวยผลประโยชน์เพื่อส่วนตัว”
ขณะที่มาริสา เหลืองสิรพรชัย ก็ให้สัมภาษณ์ไปด้วยน้ำตาที่นองหน้า เปี่ยมล้นความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นขององค์พ่อหลวงแห่งสยามประเทศ
“เรามาเพื่อแสดงพลังเพื่อพ่อหลวงของเรา แสดงพลังว่าเราจะไม่ยอมให้ใครมาจาบจ้วงสถาบัน เราเป็นคนไทย เราต้องจงรักภักดีต่อพ่อหลวงของเรา เพราะพ่อหลวงของเราที่สุดแล้ว คือท่านสละเพื่อประชาชนชาวไทย อยากให้ประชาชนชาวไทยมีจิตสำนึกในคุณของแผ่นดินตรงนี้ เพราะว่าพ่อหลวงของเราท่านลำบากมาก และท่านก็ไม่เคยพูดหรือว่าบ่นสักคำ ท่านทำเพื่อประชาชนชาวไทยตลอดชีวิตของท่าน แล้วตอนนี้พ่อหลวงของเราท่านป่วยอยู่มากๆ แล้วคนไทยบางส่วนกลับมาทำร้ายท่านถึงขนาดนี้”
ส่วนสามพี่น้อง 'ล้ออัศจรรย์' ก็เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่พร้อมใจกันมาแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง บอกว่าตั้งใจมาแสดงความรักชาติให้คนอื่นได้เห็นว่า คนไทยเราเข้มแข็ง เมื่อทราบข่าวว่าจะมีการชุมนุมเพื่อแสดงพลังกันในวันนี้ ก็นัดหมายพี่น้องทุกคนมาพร้อมกัน ทั้งพี่สาวคนโตที่เป็นนางพยาบาล น้องชายคนเล็ก และพี่ชายคนกลางอย่าง สราวุธ ล้ออัศจรรย์ ที่รับข้าราชการได้อธิบายถึงสาเหตุที่มาร่วมงานว่า ทุกวันนี้มีกลุ่มที่ไม่จงรักภักดีเกิดขึ้นมา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการแสดงออกส่งสารไปยังกลุ่มคนเหล่านี้
“วันนี้เรามากัน 3 พี่น้องครับ มาต่อสู้เพื่อในหลวง ต่อต้านพวกไม่จงรักภักดี จะได้ให้เขารู้ไว้เลยว่า เราจะไม่ยอมทำอะไรที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทอีกต่อไป ไม่ว่าวิธีการไหน เราจะต่อต้านทุกวิธี”
เช่นเดียวกับครอบครัว 'ชำนาญยนตร์' พันธมิตรฯ คริสเตียน จากโบสถ์เซเว่นเดย์ อาว์เวอร์ติสต์ กล่าวว่า ที่มาวันนี้ก็เพื่อแสดงให้ทุกคนทราบว่า รักในหลวงและจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายในหลวงได้
“พ่อแม่พี่น้องคนไทยทุกคนครับ เราต้องรักชาติ เราต้องรักในหลวง คนที่ไม่จงรักภักดี ในสามัญสำนึกที่เป็นคนไทย เขาต้องซาบซึ้ง ถ้าไม่จงรักภักดี ก็ไม่ต้องเป็นคนไทย”
สุภรณ์ สัมทอง พสกนิกรจากลำนารายณ์ ลพบุรี เอ่ยถึงความรู้สึกที่มาร่วมครั้งนี้ว่า ต้องการปกป้องพระมหากษัตริย์ของไทยจากน้ำมือของผู้ไม่หวังดีทั้งหลาย
“ผมมาด้วยใจรักล้วนๆ ไม่อยากให้พยายามลบหลู่พระเกียรติของในหลวง และก็อยากให้คนไทยรักสามัคคี ไม่แตกแยก ไม่ถือเป็นพวกนั้นพวกนี้ เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน”
ปิดท้ายด้วย ประเสริฐ แก้วกระโทก ที่ได้รับบาดเจ็บจากระเบิดเอ็ม 79 ที่ทำเนียบรัฐบาลจนต้องพิการ บอกว่าพวกเขากลุ่มพันธมิตรฯ จากโคราช เหมารถกันมาเองในวันนี้ด้วยใจทั้งหมด 15 คัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงความจงรักภักดี
“เรามาแสดงพลังให้องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของเรา ท่านจะได้สบายใจว่าประชาชนคนไทยยังรักท่านอยู่ ท่านจะได้หายจากประชวรเร็วๆ นี่พวกผมเพิ่งไปถวายพระพรพระองค์ท่านที่ศิริราชมา คือมาไม่มีเจตนาใด เพียงแต่มาแสดงพลังว่าเรายังรักในหลวงอยู่
“ผมอยากให้พี่น้องประชาชนคนไทย เราไม่ต้องฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ว่าเหลืองว่าแดงนะครับ เรามาแสดงพลังมาแสดงจิตใจให้องค์ในหลวง ตอนนี้ท่านประชวรอยู่ อยากจะให้องค์ในหลวงท่านรู้ว่าประชาชนคนไทยยังรักท่าน ยังส่งใจถึงท่าน เราไม่ใช่ทักษิณ เราไม่ใช่คนขายชาติ เราคนไทยคนหนึ่ง เราอยู่ในผืนแผ่นดินไทย เรารักในหลวง เรามีองค์ในหลวงคนเดียวครับ”
..........
ถึงแม้ในสังคมไทยจะมีความแตกต่าง แตกแยกทางความเชื่อ ความคิดกันมากมาย หากแต่มีสิ่งหนึ่งที่หลอมรวมใจพวกเราเข้าไว้ด้วยกัน นั่นก็คือ พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การแสดงพลังของมหาชนครั้งนี้ก็เช่นกัน ความตั้งใจหาใช่เรื่องการเมืองไม่ แต่สิ่งที่ทุกคนไม่ว่าจะสีไหน ศาสนาไหนต่างออกมาอย่างเนืองแน่น นั่นมาจากเรื่องเดียวเท่านั้น คือทุกคนต่างก็ยอมไม่ได้ที่จะเห็นผู้ที่ไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดิน กระทำการเหิมเกริม ด้วยการจงใจลบหลู่สถาบันพระมหากษัตริย์ของพวกเราทุกคนเช่นทุกวันนี้
……….
เรื่อง : ทีมข่าว Click
ภาพ : ทีมภาพ Click