xs
xsm
sm
md
lg

สนทนาเรื่องธุรกิจ กับ คนหัวกะทิ ... “พีรพล นนทสูติ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กบ พีรพล นนทสูติ GM ด้านการสื่อสารระหว่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์เปอเรชั่น จำกัด
ในชีวิตของแต่ละคน ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมายและความสำเร็จที่แตกต่างกันออกไป อยู่ที่ว่าเรามีไม้บรรทัดวัดส่วนไหน และมาตรฐานจากใครเท่านั้นเอง M-open มีโอกาสได้พูดคุยกับ “กบ พีรพล นนทสูติ” ผู้จัดการทั่วไปด้านการสื่อสารระหว่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งสื่อบ้านเราอาจไม่คุ้นเคยกับเขาเท่าใดนัก แต่สำหรับสื่อต่างชาติที่ต้องมาร่วมทำข่าว หรือหาแหล่งชอปปิ้ง พักผ่อนหย่อนใจ คงจะรู้จักเขาเป็นอย่างดี เพราะหน้าที่ของเขาคือติดต่อให้สื่อต่างชาติมารู้จักเมืองไทยนั่นเอง

ด้วยบุคลิกและวัย 33 ยังดูมีไฟในการทำงาน มาดที่ดูสุขุมและฉะฉานทั้งภาษาไทย  อังกฤษ และจีนของเขา ไม่แปลกใจเลยว่าในชีวิตที่ผ่านมาของเขาจึงได้ทุนจากการเรียนสารพัดทุนไปหมด ก่อนที่เขาจะเล่าชีวิตของเขาว่าอยู่กับการเรียนที่เขาเอง ไม่เอ่ยเยินยอตัวเองสักคำว่า “เก่ง” แต่หากเมื่อเทียบกับคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันนั้น เขาคือหัวกะทิทีเดียว

“ผมเรียนที่เชียงใหม่ โตที่กรุงเทพแต่คุณพ่อไปรับราชการที่เชียงใหม่ ตอนเด็กๆซนไม่ตั้งใจเรียนเท่าไหร่ แล้วได้ไปเรียนที่อเมริกา ช่วงนั้นลำบาก เพราะว่าไม่ได้กลับประเทศไทย อยู่ที่อเมริกาตลอด ตั้งแต่แอลเอ เข้ามหาวิทยาลัยที่จอร์จ วอชิงตัน อยู่อเมริกาประมาณ 7 ปี ช่วงนั้นคือช่วงวิกฤต เราเร่งเรียน เงินบาทกลายเป็น50 กว่าบาทต่อดอลลาร์ เรารู้แล้วว่าจะทำอย่างไร แต่ได้มหาวิทยาลัยที่ดีที่นั่นแล้วนะ แต่ไม่ได้บอกที่บ้าน เราก็ตัดสินใจกลับมา เพราะพี่ชายก็กำลังจะไปที่นั่น”

“พอกลับมาเมืองไทยก็ไปเรียนไต้หวัน ไปเรียนภาษาจีน ก็จะมาเรียนจุฬาฯ สอบที่ศศินทร์ฯ เขาบอกว่าไม่มีประสบการณ์ ยังไม่รับ คุณต้องไปหางานทำสักปีหนึ่งก่อนแล้วกลับมาเรียน ซึ่งผมว่าจริงนะ ดีมากที่เขาไม่รับผมเข้าไป คือถ้ารับไปชีวิตผมอาจจะเปลี่ยน เพราะเราก็มาทางแนวนั้นพอดี ปริญญาโท เรียนปีเดียว จบด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ”

นอกจากนี้ยังได้ทุนของฝรั่งเศสและอังกฤษอีกด้วย …“จากนั้นเรียนแล้วก็ได้ทุนไปที่ฝรั่งเศส เป็นทุนของจุฬาฯกับสหภาพยุโรป แล้วไปเรียนอยู่ซัมเมอร์หนึ่ง พอกลับมาก็ทำงานที่แรกที่ได้เงินเดือนเลยคือลอรีอัล ประเทศไทย ปี 1995 เราได้ทำงานที่ยูเอ็นหลังจากนั้นเสร็จก็ไปอยู่ที่ยูนิลีเวอร์ แล้วจากนั้นก็ไปเรียนต่ออีกใบหนึ่งเพราะได้ทุนของอังกฤษ ที่เคมบริดจ์ เรียนเอ็มบีเอ ไปอังกฤษเนี่ยอายุค่อนข้างน้อย 26 เอง สำหรับเอ็มบีเอ ตอนนั้นเฉลี่ยมันอยู่ที่ 32 เราเองนี่เด็ก แต่เรามีประสบการณ์มาบ้างแล้วเพราะที่ศศินทร์ฯให้เราไปทำงานก่อน ตรงนั้นก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี”

หลังจากร่ำเรียนและเสาะหาความรู้และประสบการณ์มาไม่น้อย กบเล่าว่าโชคชะตาก็ซัดเขามาที่ช่อง 9 ให้ได้ทำงานด้านสื่อและประสานงานกับชาวต่างชาติก่อนที่จะเข้ามาทำงานที่เซ็นทรัล
“ชะตาชีวิตพาไปอยู่ที่ช่อง 9 เสียก่อน ตอนสึนามิเราก็ไปนะ เราบอกเจ้านายเราอยากทำตรงนี้ ช่วงนั้นกำลังจะเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เราช่วยเรื่องโรดโชว์ต่างประเทศ อยู่สักพักหนึ่งเราก็ย้ายมาอยู่กับองค์กรการท่องเที่ยวของอังกฤษ จากนั้นก็มีตำแหน่งนี้ของเซ็นทรัล เขาหาคนดีลกับสำนักข่าวต่างประเทศพอดี”

“หน้าที่หลักๆขององค์กรบริษัทเราเป็นองค์กรใหญ่อยู่แล้ว มีธุรกิจเยอะ ทั้งเซ็นทรัล โรบินสัน พาวเวอร์บาย ซุปเปอร์สปอต เยอะเลย ผมเองก็มีหน้าที่โปรโมตองค์กร ดึงนักท่องเที่ยวมาเมืองไทยมากขึ้น มาชอปที่ประเทศไทย พาสื่อมวลชนของแต่ละประเทศนั้นๆมา นักเขียน ทีวี เว็บไซต์ หลายสื่อหลายช่องที่เราต้องดึงมา เช่นกันจะจับตลาดคนไทยก็ต้องดูว่าจะลงสื่อไหน เราไปเจาะผ่านสื่อเขาหลายๆสื่อ”

แม้ว่าในช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจหลายคนอาจมองว่าฟื้นตัวยาก แต่สำหรับกับ เขาเชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ด้วยเสน่ห์หลายๆอย่างของเมืองไทย
“ผมคิดว่าตอนนี้มันมีสัญญาณที่ดีขึ้นนะในเรื่องของการท่องเที่ยว ตอนนี้ในองค์กรต่างๆเรื่องของโรงแรมในปลายปี มันบวกขึ้นมานิดหนึ่ง ติดลบน้อยลง ผมว่าคนยังโอเคกับเมืองไทยอยู่ ประเทศอื่นก็ไม่มีแบบนี้ ไม่มีแบบเรา นักท่องเที่ยวคนไทยก็น่ารัก อาหารไทยก็อร่อย สยามเมืองยิ้มยังใช้ได้อยู่”

“ตอนนั้นผมอยู่ที่สมาคมท่องเที่ยวอังกฤษ คนอังกฤษชื่นชมคนไทยคือการต้อนรับของคนไทยเวลามาบ้านเรา แต่ไปอังกฤษ รอนานมาก บางทีเหมือนไม่อยากให้เข้าประเทศ ขอวีซ่าก็นาน แบบนี้คือมาเมืองไทยแทบจะกอดเขาเลย อยากให้เขามาอีก ฝรั่งเขาก็คิดว่าคนไทยน่ารัก”

ส่วนความก้าวหน้าในเศรษฐกิจไทยนั้น กบเชื่อว่ายังเดินต่อไปได้ หากสภาวะการเมืองนิ่งเหมือนที่ผ่านมา ด้วยบุคลิกที่ดูไฟแรงในการทำงาน เขาบอกว่าในการทำงานต้องมีการวางแผน และเตรียมตัวไว้ตลอดเวลา
“งานไม่ใช่ต้อนรับสื่ออย่างเดียว บางทีก็ไปหาเขาด้วย ช่วงนี้เราไปคุยกับสายการบิน ช่วงนี้ไปคุยกับ ททท. มีหลายองค์กรที่เราต้องไปทำ มีรองรับเอาไว้ ปีใหม่จะมาแล้วนะ สามเดือนสุดท้ายจะทำอย่างไร ที่จีนเซ็นทรัลก็กำลังจะเปิดปีหน้า ที่หางโจว ที่แรก ก็มีนักข่าวจีนมาเยอะ เราเองก็ต้องประสานงาน เราต้องสร้างกระแสให้คนจีนเขาเห็นโปรเจกต์ของเรา แพลนถึงปี 2010 แล้ว เราจะลงมีเดียแบบไหน มีตุ๊กตาวางไว้แล้ว” กบเล่าถึงแผนงานให้เราฟังคร่าวๆ

ก่อนที่เขาจะเผยว่าในการทำงานของเขา ต้องเจอคนหลายประเภท และรวมไปถึงต่างชาติ วัฒนธรรมในการทำงานจึงต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา

“ผมว่าได้อยู่กับคนแล้วได้การบริหารคนหลายแบบ สื่อก็เป็นแบบหนึ่ง พาร์ตเนอร์ก็อีกแบบหนึ่ง สวมหมวกคนละใบ ในองค์กรก็ต้องคุยกัน ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรโดดๆ ต้องเรียนรู้ที่จะจูนกัน เราก็ต้องเรียนรู้วัฒนธรรมเขานิดหนึ่ง บางทีโหมดคนไทย คนจีน ญี่ปุ่นก็ไม่เหมือนกัน ผมคิดว่าชีวิตคือการเรียนรู้ ทุกอย่างที่ผมทำมันก็คือบทเรียนของชีวิต”

ในวันนี้เขายอมรับว่าเขายังอยากเรียนต่อปริญญาเอก และเรียนต่อด้านภาษาจีน แต่ด้วยหน้าที่การงานที่เขารัก และความท้าทายในองค์กรใหญ่ที่พร้อมเติบโต และเขาพร้อมที่จะสวมหมวกหลายใบในเวลาเดียวกัน
“ผมไม่ปฏิเสธที่จะได้รับโอกาส โอกาสที่ดีก็ลองทำ ผมตั้งใจในการเรียนรู้ ใจตอนนี้ก็อยากเรียนนะครับ แต่มันทำไม่ได้แล้ว การงานอีก ครอบครัวอีก จะไปเป็นนักเรียนก็ยากแล้ว สิ่งที่เราทำได้คือไปหาวิธีอื่นเอาไปเรียนเอาในเมืองไทยมันต้องบาลานซ์กัน ในชีวิตคนเราคนหนึ่งเนี่ย สวมหมวกหลายใบได้ สวมหมวกเป็นอาจารย์ เป็นที่ปรึกษา ตอนเย็นผมเป็นนักเรียนก็ได้ เสาร์-อาทิตย์ ผมก็ไปตีกอล์ฟ อยู่กับครอบครัว พ่อแม่เขาอยากให้เรียนปริญญาเอก แต่เราต้องชั่งแล้วเพราะเราทำหน้าที่หลายอย่าง”

ก่อนจะทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าการทำงานใดๆก็แล้วแต่หากรักและเชื่อในแบรนด์ที่ทำ และอยู่ในองค์กรที่เติบโต ชีวิตก็จะโตตาม นั่นคือสิ่งที่กบทิ้งไว้ให้แก่ทุกคน
“ผมว่าศักยภาพขององค์กรนี้โอเค ถ้าคุณอยู่กับบริษัทไหนที่ไม่โตคุณก็ไม่สามารถโตได้ ผมชอบการคิดของที่นี่ เราคือจีเอ็มด้านต่างประเทศก็สามารถบริการลูกค้าได้ ใครโทรมาบ่นก็ช่วยเหลือตรงนี้ได้ ส่วนนี้แหละครับที่ทำให้ภูมิใจ” ...คนรุ่นใหม่ไฟแรง นักเรียนสารพัดทุนคนนี้ทิ้งท้ายกับอาชีพที่เขารัก และประสบการณ์ที่เขาได้จากการทำงาน “ในห้าง” และ “นอกห้าง” ได้อย่างลงตัว...

ประวัติการศึกษา

- ปริญญาตรีเกียรตินิยม สาขา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการศึกษาเอเชียตะวันออก จากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์และการเงินระหว่างประเทศ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- สอบชิงและได้รับทุน Chevening Scholarship อันทรงเกียรติจากรัฐบาลอังกฤษ ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ (MBA) ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ และยังมีธนาคาร HSBC (Hong Kong Shanghai Bank) และ มูลนิธิเคมบริดจ์ (ไทย) ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (Cambridge Thai Foundation) เข้าร่วมสนับสนุนทุน
- ได้รับทุนอันทรงเกียรติจาก สหภาพยุโรป (European Union) เพื่อศึกษาในประเทศฝรั่งเศส ที่สถาบัน Institut D'Etudes Politiques de Paris และยังได้รับทุนเพื่อศึกษาต่อในประเทศไต้หวัน


ประวัติการทำงาน

- พ.ศ. 2542 กับลอริอัล ในตำแหน่งผู้จัดการฝึกหัด
- พ.ศ. 2543 ดูแลจัดการบริหารตราสินค้า (Brand Management) ให้แก่ยูนิลีเวอร์
- พ.ศ. 2547 ร่วมงานกับ อสมท ในตำแหน่ง ผู้สื่อข่าว และบรรณาธิการ โดยผลิตบทความ และสารคดีพิเศษให้แก่ “CNN World Report” ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรองประธานของ MCOT TV และได้มีส่วนร่วมในการทำ MCOT IPO Roadshow
- เข้ารับตำแหน่งตัวแทนองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย โดยรับผิดชอบด้านการสร้างสหราชอาณาจักรให้เป็นที่รู้จัก
- 2550 -ปัจจุบัน ผู้จัดการทั่วไปด้านการสื่อสารระหว่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์เปอเรชั่น จำกัด


ภาพโดย ศิวกร เสนสอน




กำลังโหลดความคิดเห็น