ทำไมคนไทยถึงแตกแยก แบ่งเป็นสองสี เหลืองและแดง...
เหตุไฉนการเมืองไทย เหมือน “ผีซ้ำด้ำพลอย” ไร้ทางใหม่ รัฐนาวาล่มสลายตลอดมาและนายกรัฐมนตรีอยู่ไม่ครบวาระ...
คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่นี่คือ ชะตาฟ้าลิขิต ปริศนาแห่งศาสตร์ฮวงจุ้ยที่ได้วิเคราะห์ออกมาอย่างน่าติดตาม โดย อ.มาศ เคหาสน์ธรรม ซินแสชื่อดัง ผู้ให้คำตอบอีกแง่มุมหนึ่งของศาสตร์การทำนายของจีน ชี้ชัดถึงพลังงานบางอย่างของพลังจักรวาล ซึ่งไหลเวียนมาบรรจบครบ 60 ปี และตำแหน่งของศูนย์กลางในการบัญชาการบริหารราชการแผ่นดิน ที่เรียกว่าเป็น “จุดเสื่อม”
จุดเปลี่ยนการเมืองไทย
อ.มาศ เคหาสน์ธรรม วิเคราะห์ว่า การเมืองไทยกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ หากอยากรู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ให้ย้อนกลับไปดู 60 ปีที่แล้ว จะมีเหตุการณ์ที่คล้ายๆ กัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการวิเคราะห์โชคชะตาในวิชาดวงจีน ซึ่งจะมีพลังงานที่ไหลเวียนกลับมาครบรอบเป็นชุดพลังทุก ๆ 60 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อ 60 ปีที่แล้ว หรือเมื่อปี พ.ศ. 2491 ก่อนหน้านั้น 1 ปีเกิดการรัฐประหารรัฐบาล พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 ต่อมามีการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์นำโดย นายควง อภัยวงศ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 6 เดือนแล้วก็มีกลุ่มบุคคลบุกเข้าไปในทำเนียบ บังคับให้ลาออก นายควง โทรไปหา 3 เหล่าทัพให้ช่วยเหลือ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ สุดท้ายโดนบีบให้ออกจริงๆ โดยการรัฐประหารเงียบ
จากนั้น จอมพล ป. พิบูลสงคราม ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างมากมาย สิ่งหนึ่งคือเปลี่ยนชื่อจากสยามเป็นประเทศไทย
เมื่อพลังงานได้มาบรรจบจุดเดิม เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็จะมีลักษณะคล้าย ๆ เมื่อ 60 ปีที่แล้ว ซึ่งก็เริ่มมีปรากฏให้เห็นแล้วในปีนี้คือ คุณสมัคร สุนทรเวช ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี สุดท้ายต้องพ้นจากตำแหน่งหลังจากอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 6 เดือนเศษ แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ก็จะคล้าย ๆ กัน เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางการปกครองฉากใหม่ คนที่ขึ้นมามีอำนาจครั้งใหม่จะอยู่ยาว เหมือนกับตอนนั้นที่จอมพล ป. ขึ้นมาแล้วก็อยู่ยาวเลยเป็น 10 ปี
โดยปี 2551 จะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่าน เป็นปีที่มีพลังงานแบบวิชาการ เป็นการระดมภูมิปัญญา คิดค้นรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนแปลงการปกครองแบบใหม่ๆ ในระดับคล้าย ๆ กับเปลี่ยนชื่อประเทศเหมือนคราวที่แล้ว
อาจวิเคราะห์ได้ว่า การเมืองไทยนับจากนี้ หมายถึง การเมืองไทยในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และจะมีผู้นำคนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แทนคนเก่า
กระแสน้ำผ่าเมือง...คนไทยแตกแยก
หลักฮวงจุ้ย บอกอีกว่า ปัญหาความแตกแยกในสังคมไทยนั้น ยังแก้ไขยากยิ่ง เพราะหากพิจารณาจากลักษณะพิเศษของฮวงจุ้ยของประเทศไทย ก็จะพบคำตอบ ประเทศไทยมีกระแสของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลจากเหนือสุดลงสู่ล่างสุด แล้วขยายบานออกไหลลงสู่ทะเล ตรงบริเวณปากน้ำ ช่วงระหว่างบางปูใหม่และแหลมฟ้าผ่า จังหวัดสมุทรปราการ
กระแสน้ำนี้มีข้อเสียตรงที่ดันไหลผ่าประเทศไทยจากบนสุดลงถึงล่างสุด ออกเป็น 2 ส่วน ซ้ายขวาอย่างชัดเจน จึงทำให้วิธีคิดของคนในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน แบ่งเป็นสองฝักสองฝ่ายตลอดเวลา ขัดแย้งกันอย่างไม่ยอมลดราวาศอกให้กันและกัน แต่วิธีการแก้ก็มีอยู่ ถ้าเมื่อไหร่ยอมสร้างสะพานครอบปากแม่น้ำที่ไหลลงสู่เจ้าพระยา ก็จะดีขึ้น
ทำเนียบ จุดเสื่อมรัฐนาวาล่ม
อย่างไรก็ดี เมื่อพูดกันเรื่องการเมือง จุดสำคัญจุดหนึ่งที่เราจะละเลยไม่พูดถึงไม่ได้ คือ “ทำเนียบรัฐบาล” ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการบัญชาการบริหารราชการแผ่นดิน
อ.มาศ บอกว่า ฮวงจุ้ยทำเนียบอยู่ในขั้นแย่มาก ที่ผ่านมารัฐบาลแต่ละสมัยเชิญซินแสหลายคนไปแก้ แต่แก้กันไม่ตรงจุด ที่ตรงนั้นไม่ควรนำมาใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลเลย รัฐสภาก็เช่นกัน แย่มากๆ เช่นกัน แต่รัฐสภาก็ยังพอแก้ไขได้
“ทำเนียบไม่ควรแก้ ทำเนียบควรย้าย ไปอยู่ดอนเมืองดีกว่า เพียงแต่ว่า นายกฯ (สมชาย วงศ์สวัสดิ์) ไม่รู้ฤกษ์ยาม เดือนที่ย้ายเข้าไป ที่เข้าไปอยู่ดอนเมืองกลับเป็นเดือนที่เลวร้ายที่สุด จึงช่วยอะไรไม่ได้”
ถ้าจะดูกันที่ทำงาน “ตึกไทยคู่ฟ้า” ภายในทำเนียบรัฐบาล พบว่าอาคารดังกล่าวมีลักษณะเป็นรูปตัวยู ก้นของตัวยูเว้าแหว่งไปทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตามตำราฮวงจุ้ยอาคารที่เกี่ยวอำนาจทั้งหลาย หัวใจที่สำคัญที่สุด ห้ามมีฐานเว้าแหว่ง เพราะว่าฐานที่เว้าแหว่งมันหมายถึงความไม่มั่นคง ที่ผ่านมา นายกฯ ของประเทศไทย ถึงได้อยู่กันไม่ครบเทอม
นอกจากนี้ องศาทิศทางอยู่ในองศาที่ทำมุมไม่ดีกับแม่เหล็กโลกอีกด้วย โดยเฉพาะในยุคที่ 8 นี้ คือ พ.ศ. 2547-2567 เป็นยุคที่แย่เป็นพิเศษ เลวร้ายเป็นพิเศษ แถมวงกลมข้างหน้าก็เป็นวงกลมที่ถ่ายเทพลังงาน เพราะยุคที่ 8 เป็นธาตุดิน การจัดสวนเป็นวงกลมเป็นธาตุทอง ดินถ่ายเทพลังงานไปหาทอง ทำให้พลังงานอ่อนจึงต้องออกแรงเหน็ดเหนื่อย พลังงานไม่สะสมตัว เมื่อตัวเองไม่มั่นคงก็ไม่สามารถบริหารที่ดีได้
“ในยุคที่ 8 นี้ ดอนเมืองเป็นฮวงจุ้ยที่ดีมาก เสียแต่เข้าผิดเดือนเท่านั้น เข้าไปอย่างนั้นดูอาการ นายกฯ จะอยู่ไม่ครบ 4 เดือน” อ.มาศ ฟันธง อนาคตรัฐบาลสมชายล่วงหน้า
จริง ๆ แล้วถ้าจะแก้ต้องทำให้ตรง แต่มันก็อาจจะเสียในเชิงสถาปัตย์ หรือถ้าจะแก้ไขกันในระยะยาว อ.มาศ แนะนำว่า ควรย้ายทำเนียบจะดีที่สุด
อ.มาศ ทิ้งท้ายว่า อย่างไรก็ดี การเมืองไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 2552 มีทางออกมากขึ้น แต่ดวงชะตาจะเป็นเช่นใด ต้องขอให้คนไทยร่วมมือกัน สมัครสมานสามัคคี เพื่อนำประเทศพ้นภัย
ประวัติอาจารย์มาศ เคหาสน์ธรรม
ถือเป็นซินแสฮวงจุ้ยยุคไฮเทค ดีกรีปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ที่นำทั้งภูมิปัญญาจีนโบราณ, ปรัชญา, นรลักษณวิทยา (โหงวเฮ้ง), ฮวงจุ้ย และโหราศาสตร์, การแพทย์แผนจีน, ระบบสุขภาพแบบองค์รวมและพลังชี่กง มาศึกษาและประยุกต์ใช้ในการตรวจสอบฮวงจุ้ย โดยได้เปิดเป็นสถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุ้ยแห่งประเทศไทย