วันที่ 19 กันยายน 2552 ที่ผ่านมาเป็นวันครบ 3 ปีของการยึดอำนาจจากรัฐบาลทักษิณโดยคณะรัฐประหาร ซึ่งมีพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้า บรรดาลิ่วล้อของทักษิณได้เรียกชุมนุมครั้งใหญ่กันอีกครั้งที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ว่ากันว่าจะมีผู้มาชุมนุมกันมืดฟ้ามัวดิน 3 แสนคน เป็นอย่างน้อย
เอาเข้าจริงก็ประมาณ 3-4 หมื่นคนเป็นอย่างมาก และก็เหมือนทุกครั้งที่มีการชุมนุม นั่นก็คือ จะมีการโฟนอินหรือไม่ก็วิดีโอลิงก์ของทักษิณโอดครวญขอความเห็นอกเห็นใจที่ต้องพลัดที่พลัดทาง ต้องหมดอำนาจและก็อดที่จะโอ่ไม่ได้ว่า หากเขายังอยู่บริหารบ้านเมือง บ้านเมืองก็จะเจริญก้าวหน้าวัฒนาสถาพร
ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ศักดิ์ศรีของทหาร ตำรวจ หมด การทำงานสองมาตรฐานอย่างชัดเจน ไม่สามารถแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ 3 ปีที่ผ่านมา อยากเชิญชวนคนที่รักตน เกลียดตน หลับตาแล้วคิดอย่างใจเป็นกลางว่า 3 ปีที่ผ่านมามีอะไรดีขึ้นบ้าง เศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ สิทธิเสรีภาพประชาชนเหลือเท่าไร การปกครองข้าราชการมีความเป็นธรรมหรือไม่ เงินในกระเป๋ามีหรือไม่ ของที่เคยขายได้เป็นอย่างไร แท็กซี่เป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่น้ำมันถูกลง สังคมมีความแตกแยกอย่างเห็นได้ชัด องค์กรอิสระไม่มีความเป็นอิสระ กระบวนการยุติธรรม ยุติความยุติธรรม ฯลฯ
การโฟนอินก็ดี การใช้วิดีโอลิงก์ก็ดี การจัดการให้มีคนมาชุมนุมเป็นพันเป็นหมื่นก็ดี เนื้อหาสาระที่ทักษิณพูดออกมาก็ดี มีเงินอย่างเดียวทำไม่ได้ มีลิ่วล้อที่จงรักภักดี ตั้งอกตั้งใจ สู้แล้วรวยเพื่อทักษิณอย่างเดียวทำไม่ได้ ต้องหน้าด้านด้วย จึงจะทำได้
เกือบปีที่ทักษิณใช้เทคโนโลยีสื่อสารกับบรรดาลิ่วล้อที่สนับสนุนเขา จงรักภักดีต่อเขา และประชาชนคนไทยอื่นๆ เพื่อให้คล้อยเคลิ้มไปตามคำพูดของเขานั้น ทักษิณจะพูดอยู่อย่างเดียวว่า เขาถูกรังแก ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย อำนาจประชาชนถูกลิดรอนโดยอำนาจเผด็จการของคณะรัฐประหาร กระบวนการยุติธรรมไม่ให้ความยุติธรรมต่อเขา ประเทศไทยมีสองมาตรฐาน ฯลฯ เขาจะพูดอยู่อย่างนี้เหมือนแผ่นเสียงตกร่อง คดีที่ถูกศาลตัดสินไปแล้วให้จำคุก 2 ปี เขาก็จะพร่ำพูดแต่ว่า เมียซื้อที่ดิน แต่ผัวกลับติดคุก ฯลฯ
3 ปีของรัฐประหารได้อะไรบ้าง?
ไม่ต้องหลับตา ลืมตา ใครก็จะตอบได้เหมือนกันหมดว่า ตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 ที่เกิดรัฐประหาร ได้ทำให้ทักษิณหมดไปจากอำนาจ ซึ่งถ้าหากไม่มีรัฐประหาร ก็ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า อำนาจของทักษิณจะหมดไปเมื่อไร เพราะเมื่อเขาชนะการเลือกตั้งเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยทั้งประเทศก็ตกอยู่ในอำนาจของเขา โดยอาศัยคำว่า ประชาธิปไตยที่พรรคไทยรักไทยได้เสียงข้างมากในสภาฯ โดยที่พรรคไทยรักไทยนั้น รวบรวมเอานักการเมืองจากพรรคการเมืองต่างๆ มาอยู่ภายใต้ชายคาพรรคไทยรักไทย จะซื้อ จะดูด จะเทคโอเวอร์หรือจะมีวิธีการอื่นใดทักษิณไม่สนใจ
ได้เป็นรัฐบาลแล้ว ทักษิณที่พร่ำพูดถึงประชาธิปไตยอยู่ตลอดเวลาในขณะนี้ไม่เคยสนใจสภาผู้แทนราษฎรเลย เคยตอบกระทู้ในสภาฯ ไม่กี่ครั้ง (ถามนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาฯ ดูก็ได้)
หากไม่มีการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 ระบอบทักษิณจะเข้มแข็งขึ้น ทักษิณจะมีเวลากอบโกยผลประโยชน์ไปจากประเทศไทยมากขึ้นไปอีก โคตรเหง้าของทักษิณจะเป็นใหญ่ในวงราชการ ไม่ว่าทหาร ตำรวจ และพลเรือน
กระบวนการยุติธรรม ยุติความเป็นธรรมหรือ?
เมียทักษิณถูกศาลสั่งจำคุกคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ตัวทักษิณเองศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินสั่งจำคุกทักษิณ 2 ปี ส่วนเมียซึ่งเป็นคนซื้อที่ดินศาลไม่เอาผิด เพราะเมียทักษิณไม่ใช่นักการเมือง ไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ทักษิณซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรู้เห็นเป็นใจให้เมียซื้อ ทั้งยังใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้เมียซื้อที่ดินแปลงนี้ (ที่ดินรัชดาฯ) ศาลเห็นว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.ที่ห้ามเอาไว้
แต่ทักษิณก็ยังหน้าด้านพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า เมียซื้อ แต่ผัวติดคุก
ที่มันต้องติดคุกก็เพราะเป็นการขัดกันในผลประโยชน์ เป็นนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลหน่วยงานที่ขายที่ดิน เอาบัตรประจำตัวนายกรัฐมนตรีแนบไปกับเอกสารที่ซื้อ เป็นห่วงว่า เมียจะโอนที่ดินไม่ทัน ยังประกาศให้วันที่ 31 ธันวาคม เป็นวันทำงาน
ก่อนซื้อที่ดินที่ว่านี้จำกัดความสูงของอาคาร ก็ทำให้ราคาที่ดินไม่สูง แต่พอซื้อเสร็จ ยกเลิกข้อจำกัดดังกล่าว
เรื่องอย่างนี้ทักษิณและบรรดาลิ่วล้อของทักษิณ ไม่เคยตอบ ไม่เคยชี้แจงต่อสังคมเลย สื่อวิทยุ โทรทัศน์ที่บอกว่า มีความเป็นอิสระ อยากจะทำงานสื่อที่เป็นอิสระ เมื่อมีโอกาสถามก็ไม่เคยถาม
นอกจากตั้งคำถาม เพื่อให้ทักษิณมันแก้ตัวเท่านั้นเอง!
สังคมทุกวันนี้มีแต่ความแตกแยก?
อันนี้จริงอย่างที่ทักษิณพูด คนที่ทำให้แตกแยกก็คือ ทักษิณนั่นเองไม่ใช่ใครอื่น
เมื่อหมดอำนาจไปกับการปฏิวัติ ทักษิณก็ถูกตรวจสอบจากการที่เขาบริหารบ้านเมืองมาเป็นเวลา 5-6 ปี ซึ่งทักษิณก็บอกอยู่ประโยคเดียวว่า ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นธรรม แต่ไม่เคยพูดว่า ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการตรวจสอบตรวจพบนั้นจริงหรือไม่จริง
ทักษิณเอาเงินหวย 2 ตัว 3 ตัว ใช้จ่ายเองโดยที่ไม่เอาเข้าคลังอย่างที่เขาตรวจสอบพบจริงหรือไม่จริง ทักษิณไม่เคยชี้แจง มีการแสวงหาประโยชน์จากการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ มีการหาประโยชน์จากการซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ฯลฯ ทักษิณไม่เคยตอบ
มันจะท่องอยู่ประโยคเดียวว่า กระบวนการยุติธรรมไม่ยุติธรรมเท่านั้นเอง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้
โลกประสบปัญหาเศรษฐกิจ ประเทศไทยก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน แต่รัฐบาลต้องเอางบประมาณส่วนหนึ่งมาแก้ปัญหาคนเผาบ้านเผาเมืองเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หรือต้องระมัดระวังทุกครั้งที่มีการชุมนุม
คนที่เขารักชาติ รักบ้านรักเมืองเขาไม่ทำเหมือนทักษิณหรอกครับ
จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายควง อภัยวงศ์ นายปรีดี พนมยงค์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายธานินทร์ กรัยวิเชียร พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ฯลฯ ต่างก็เคยถูกปฏิวัติรัฐประหารหรือหมดอำนาจไปโดยไม่เป็นธรรม ท่านเหล่านั้นไม่เคยโอดครวญ ไม่เคยสร้างสถานการณ์ป่วนบ้านป่วนเมืองเหมือนทักษิณ
เพราะท่านเหล่านั้น หน้าไม่ด้านเหมือนทักษิณที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัว
เอาเข้าจริงก็ประมาณ 3-4 หมื่นคนเป็นอย่างมาก และก็เหมือนทุกครั้งที่มีการชุมนุม นั่นก็คือ จะมีการโฟนอินหรือไม่ก็วิดีโอลิงก์ของทักษิณโอดครวญขอความเห็นอกเห็นใจที่ต้องพลัดที่พลัดทาง ต้องหมดอำนาจและก็อดที่จะโอ่ไม่ได้ว่า หากเขายังอยู่บริหารบ้านเมือง บ้านเมืองก็จะเจริญก้าวหน้าวัฒนาสถาพร
ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ศักดิ์ศรีของทหาร ตำรวจ หมด การทำงานสองมาตรฐานอย่างชัดเจน ไม่สามารถแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ 3 ปีที่ผ่านมา อยากเชิญชวนคนที่รักตน เกลียดตน หลับตาแล้วคิดอย่างใจเป็นกลางว่า 3 ปีที่ผ่านมามีอะไรดีขึ้นบ้าง เศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ สิทธิเสรีภาพประชาชนเหลือเท่าไร การปกครองข้าราชการมีความเป็นธรรมหรือไม่ เงินในกระเป๋ามีหรือไม่ ของที่เคยขายได้เป็นอย่างไร แท็กซี่เป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่น้ำมันถูกลง สังคมมีความแตกแยกอย่างเห็นได้ชัด องค์กรอิสระไม่มีความเป็นอิสระ กระบวนการยุติธรรม ยุติความยุติธรรม ฯลฯ
การโฟนอินก็ดี การใช้วิดีโอลิงก์ก็ดี การจัดการให้มีคนมาชุมนุมเป็นพันเป็นหมื่นก็ดี เนื้อหาสาระที่ทักษิณพูดออกมาก็ดี มีเงินอย่างเดียวทำไม่ได้ มีลิ่วล้อที่จงรักภักดี ตั้งอกตั้งใจ สู้แล้วรวยเพื่อทักษิณอย่างเดียวทำไม่ได้ ต้องหน้าด้านด้วย จึงจะทำได้
เกือบปีที่ทักษิณใช้เทคโนโลยีสื่อสารกับบรรดาลิ่วล้อที่สนับสนุนเขา จงรักภักดีต่อเขา และประชาชนคนไทยอื่นๆ เพื่อให้คล้อยเคลิ้มไปตามคำพูดของเขานั้น ทักษิณจะพูดอยู่อย่างเดียวว่า เขาถูกรังแก ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย อำนาจประชาชนถูกลิดรอนโดยอำนาจเผด็จการของคณะรัฐประหาร กระบวนการยุติธรรมไม่ให้ความยุติธรรมต่อเขา ประเทศไทยมีสองมาตรฐาน ฯลฯ เขาจะพูดอยู่อย่างนี้เหมือนแผ่นเสียงตกร่อง คดีที่ถูกศาลตัดสินไปแล้วให้จำคุก 2 ปี เขาก็จะพร่ำพูดแต่ว่า เมียซื้อที่ดิน แต่ผัวกลับติดคุก ฯลฯ
3 ปีของรัฐประหารได้อะไรบ้าง?
ไม่ต้องหลับตา ลืมตา ใครก็จะตอบได้เหมือนกันหมดว่า ตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 ที่เกิดรัฐประหาร ได้ทำให้ทักษิณหมดไปจากอำนาจ ซึ่งถ้าหากไม่มีรัฐประหาร ก็ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า อำนาจของทักษิณจะหมดไปเมื่อไร เพราะเมื่อเขาชนะการเลือกตั้งเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยทั้งประเทศก็ตกอยู่ในอำนาจของเขา โดยอาศัยคำว่า ประชาธิปไตยที่พรรคไทยรักไทยได้เสียงข้างมากในสภาฯ โดยที่พรรคไทยรักไทยนั้น รวบรวมเอานักการเมืองจากพรรคการเมืองต่างๆ มาอยู่ภายใต้ชายคาพรรคไทยรักไทย จะซื้อ จะดูด จะเทคโอเวอร์หรือจะมีวิธีการอื่นใดทักษิณไม่สนใจ
ได้เป็นรัฐบาลแล้ว ทักษิณที่พร่ำพูดถึงประชาธิปไตยอยู่ตลอดเวลาในขณะนี้ไม่เคยสนใจสภาผู้แทนราษฎรเลย เคยตอบกระทู้ในสภาฯ ไม่กี่ครั้ง (ถามนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาฯ ดูก็ได้)
หากไม่มีการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 ระบอบทักษิณจะเข้มแข็งขึ้น ทักษิณจะมีเวลากอบโกยผลประโยชน์ไปจากประเทศไทยมากขึ้นไปอีก โคตรเหง้าของทักษิณจะเป็นใหญ่ในวงราชการ ไม่ว่าทหาร ตำรวจ และพลเรือน
กระบวนการยุติธรรม ยุติความเป็นธรรมหรือ?
เมียทักษิณถูกศาลสั่งจำคุกคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ตัวทักษิณเองศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินสั่งจำคุกทักษิณ 2 ปี ส่วนเมียซึ่งเป็นคนซื้อที่ดินศาลไม่เอาผิด เพราะเมียทักษิณไม่ใช่นักการเมือง ไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ทักษิณซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรู้เห็นเป็นใจให้เมียซื้อ ทั้งยังใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้เมียซื้อที่ดินแปลงนี้ (ที่ดินรัชดาฯ) ศาลเห็นว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.ที่ห้ามเอาไว้
แต่ทักษิณก็ยังหน้าด้านพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า เมียซื้อ แต่ผัวติดคุก
ที่มันต้องติดคุกก็เพราะเป็นการขัดกันในผลประโยชน์ เป็นนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลหน่วยงานที่ขายที่ดิน เอาบัตรประจำตัวนายกรัฐมนตรีแนบไปกับเอกสารที่ซื้อ เป็นห่วงว่า เมียจะโอนที่ดินไม่ทัน ยังประกาศให้วันที่ 31 ธันวาคม เป็นวันทำงาน
ก่อนซื้อที่ดินที่ว่านี้จำกัดความสูงของอาคาร ก็ทำให้ราคาที่ดินไม่สูง แต่พอซื้อเสร็จ ยกเลิกข้อจำกัดดังกล่าว
เรื่องอย่างนี้ทักษิณและบรรดาลิ่วล้อของทักษิณ ไม่เคยตอบ ไม่เคยชี้แจงต่อสังคมเลย สื่อวิทยุ โทรทัศน์ที่บอกว่า มีความเป็นอิสระ อยากจะทำงานสื่อที่เป็นอิสระ เมื่อมีโอกาสถามก็ไม่เคยถาม
นอกจากตั้งคำถาม เพื่อให้ทักษิณมันแก้ตัวเท่านั้นเอง!
สังคมทุกวันนี้มีแต่ความแตกแยก?
อันนี้จริงอย่างที่ทักษิณพูด คนที่ทำให้แตกแยกก็คือ ทักษิณนั่นเองไม่ใช่ใครอื่น
เมื่อหมดอำนาจไปกับการปฏิวัติ ทักษิณก็ถูกตรวจสอบจากการที่เขาบริหารบ้านเมืองมาเป็นเวลา 5-6 ปี ซึ่งทักษิณก็บอกอยู่ประโยคเดียวว่า ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นธรรม แต่ไม่เคยพูดว่า ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการตรวจสอบตรวจพบนั้นจริงหรือไม่จริง
ทักษิณเอาเงินหวย 2 ตัว 3 ตัว ใช้จ่ายเองโดยที่ไม่เอาเข้าคลังอย่างที่เขาตรวจสอบพบจริงหรือไม่จริง ทักษิณไม่เคยชี้แจง มีการแสวงหาประโยชน์จากการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ มีการหาประโยชน์จากการซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ฯลฯ ทักษิณไม่เคยตอบ
มันจะท่องอยู่ประโยคเดียวว่า กระบวนการยุติธรรมไม่ยุติธรรมเท่านั้นเอง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้
โลกประสบปัญหาเศรษฐกิจ ประเทศไทยก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน แต่รัฐบาลต้องเอางบประมาณส่วนหนึ่งมาแก้ปัญหาคนเผาบ้านเผาเมืองเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หรือต้องระมัดระวังทุกครั้งที่มีการชุมนุม
คนที่เขารักชาติ รักบ้านรักเมืองเขาไม่ทำเหมือนทักษิณหรอกครับ
จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายควง อภัยวงศ์ นายปรีดี พนมยงค์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายธานินทร์ กรัยวิเชียร พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ฯลฯ ต่างก็เคยถูกปฏิวัติรัฐประหารหรือหมดอำนาจไปโดยไม่เป็นธรรม ท่านเหล่านั้นไม่เคยโอดครวญ ไม่เคยสร้างสถานการณ์ป่วนบ้านป่วนเมืองเหมือนทักษิณ
เพราะท่านเหล่านั้น หน้าไม่ด้านเหมือนทักษิณที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัว