นั่งเครื่องบินไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีก็อยากเที่ยวให้คุ้มที่สุด ซึ่งนิยามคำว่า “คุ้มที่สุด” ของแต่ละคนก็ต่างกันออกไป บ้างก็เป็นการชิมของอร่อยให้หลากหลาย บ้างก็เป็นการเที่ยวชมวิวและสถานที่สวยๆ และบ้างก็เป็นการตระเวนเที่ยวจังหวัดในญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุด แต่จะดีแค่ไหน? ถ้าเราจัดทริปเที่ยวญี่ปุ่นที่ครบทุกความคุ้มที่สุดไว้ได้ในทริปเดียว!
แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน
ในบทความนี้เราจะขอแนะนำแพลนทริปเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ (東北地方, Tohoku) ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นที่ประกอบด้วย 6 จังหวัดได้แก่อาโอโมริ อาคิตะ อิวาเตะ ยามากาตะ ฟุกุชิมะ และมิยางิ ซึ่งแต่ละจังหวัดล้วนเต็มไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงาม วัฒนธรรมที่เปี่ยมมนต์ขลัง ของอร่อยท้องถิ่นเลิศรส และเสน่ห์ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลจนสามารถเที่ยวได้ทั้งปีไม่มีเบื่อ
แพลนทริปนี้จะเป็นแพลนทริปที่สามารถเที่ยวโทโฮคุได้สนุกเต็มที่อย่างไม่เกี่ยงฤดูกาล โดยมีตัวช่วยพิเศษคือตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) ตั๋วพาสของ JR East ที่สามารถใช้นั่งรถไฟรอบโทโฮคุได้อย่างไม่จำกัดภายในเวลา 5 วันติดกัน ทั้งยังสามารถใช้จองที่นั่งและขึ้นรถไฟธีมพิเศษ Joyful Train ได้ฟรีอีกด้วย!
ทั้งนี้ ทริปนี้เป็นทริปแนวผจญภัยที่เราจะเที่ยวรอบ 6 จังหวัดของโทโฮคุใน 5 วันและจะมีการเช็คอินและเช็คเอ้าท์โรงแรมในทุกวัน ดังนั้นเราขอแนะนำให้เพื่อนๆ แพ๊คกระเป๋าให้คล่องตัวที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้สามารถสนุกกับทริปนี้ได้อย่างเต็มที่
ทริปนี้เหมาะกับใคร?
ทริปนี้เหมาะกับคนที่อยากจัดทริปนั่งรถไฟเที่ยวญี่ปุ่นแทนการเช่ารถขับ และเหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบเก็บไฮไลท์และจังหวัดในญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุดในเวลาและงบที่จำกัด
ทั้งนี้ ทริปนี้เหมาะกับการเที่ยวเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่มีความคล่องตัว และอาจไม่เหมาะกับการเดินทางในกลุ่มที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ
ถ้าพร้อมแล้ว มาดูแพลนทริปเที่ยวโทโฮคุแบบสนุกคุ้มสุดๆ ตลอด 5 วันกันเลยค่ะ!
วันที่ 3: เที่ยวเมืองฮิโรซากิและสัมผัสอีกระดับของการนั่งรถไฟกับ Resort Shirakami
ก่อนที่จะไปเริ่มลุยเที่ยวเมืองฮิโรซากิในวันนี้ ถ้าเพื่อนๆ อยากชิมของอร่อยประจำถิ่นและตื่นเช้าไหวล่ะก็ ลองไปชิม “นกเกะด้ง (のっけ丼, Nokkedon)” ที่ Aomori Gyosai Center กันได้!
การจะอร่อยกับนกเกะด้งของที่นี่มีความสนุกอยู่อย่างหนึ่งคือเราสามารถเลือกซื้อสารพัดวัตถุดิบอาหารทะเลทั้งเนื้อปลา กุ้ง และอื่นๆ ได้ตามชอบจนได้นกเกะด้งในฉบับของตัวเอง โดยจะต้องซื้อคูปองแทนเงินสดสำหรับแลกซื้อของจากร้านค้าก่อน จากนั้นเราก็สามารถสนุกกับการตระเวนตามร้านต่างๆ และแลกซื้อวัตถุดิบให้ชามข้าวเปล่าของเราค่อยๆ มีปลาและอาหารทะเลสดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มชาม! Aomori Gyosai Center จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้า ดังนั้นถ้าตื่นเช้าไหวเราก็จะมีเวลาอร่อยกับนกเกะด้งได้สบายๆ เลย
พออิ่มท้องด้วยของอร่อยแล้ว เราจะออกเดินทางจากสถานี Aomori ไปยังสถานี Hirosaki เพื่อไปเที่ยวเมืองฮิโรซากิ เมืองท่องเที่ยวแห่งจังหวัดอาโอโมริที่ถ้าไม่มาเที่ยวก็อาจเรียกได้ว่ามาไม่ถึงจังหวัดอาโอโมริก็ว่าได้
สำหรับแพลนเที่ยวรอบเมืองนั้น วันนี้จะเป็นการเดินเล่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองฮิโรซากิที่มีปราสาทฮิโรซากิที่เป็นสัญลักษ์ของเมืองเป็นตัวเอก และมีอาคารทรงยุโรปและญี่ปุ่นปะปนกันให้ชม นับเป็นเมืองที่มีทั้งความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตกมารวมกันอย่างสวยงามลงตัว
SPOT 13: ปราสาทฮิโรซากิ
ปราสาทฮิโรซากิ (弘前城, Hirosaki Castle) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะฮิโรซากิ (弘前公園, Hirosaki Park) ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1611 โดยตระกูลสึการุ ผู้ปกครองแคว้นในเวลานั้น ปราสาทฮิโรซากินับเป็นปราสาทเพียงหลังเดียวในภูมิภาคโทโฮคุที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันนับจากยุคเอโดะ โดยถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิโรซากิ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ. 1952 นอกจากนี้ปราสาทฮิโรซากิยังเป็นจุดชมซากุระและจุดชมใบไม้แดงที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอาโอโมริอีกด้วย ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วงพอดีล่ะก็มาเที่ยวที่ปราสาทฮิโรซากิแห่งนี้ให้ได้เลยนะ!
ปราสาทฮิโรซากิ (弘前城)
ที่ตั้ง: 1 Shimoshiroganechō, Hirosaki, Aomori
เวลาทำการ: 9.00-17.00 น. *ช่วงเทศกาลซากุระเปิด 7.00-21.00 น.
วันหยุด: 24 พ.ย. – 31 มี.ค.
ค่าเข้า: (สวนสาธารณะและปราสาท) ผู้ใหญ่ 310 เยน, เด็ก 100 เยน
Website: hirosakipark.jp (ภาษาอังกฤษ)
SPOT 14: Catholic Hirosaki Church
Catholic Hirosaki Church (カトリック弘前教会) เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สามารถย้อนประวัติไปได้ถึงปีค.ศ. 1872 โดยเป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยไม้ตามแบบ Romanesque ด้วยฝีมือของโยโคยามะ สึเนะคิจิ ยกเว้นแท่นบูชาสไตล์ Gothic ที่เป็นแท่นบูชาซึ่งได้รับบริจาคจาก St. Thomas Church ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเมื่อเข้าไปในโบสถ์ เราจะเห็นกระจกสีสวยงามซึ่งได้รับบริจาคมาจากบาทหลวงคาร์รอน (Father Carron) ประเทศแคนาดา โดยกระจกสีถูกจัดให้เป็นภาพสวยงามเช่นภาพภูเขาอิวากิและแอปเปิ้ลซึ่งสื่อถึงเมืองฮิโรซากิ
Catholic Hirosaki Church (カトリック弘前教会)
ที่ตั้ง: 20 Hyakkokumachi Koji, Hirosaki, Aomori 036-8351, Japan
เวลาทำการ: ฤดูร้อน 7.00-19.00 น. , ฤดูหนาว 7.00 น. จนถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน
วันหยุด: โบสถ์จะปิดทำการเมื่อมีการจัดงานพิธี
ค่าเข้า: เข้าฟรี
Website: sendai.catholic.jp
SPOT 15: To-o Gijuku Missionary Residence
To-o Gijuku Missionary Residence (旧東奧義塾 外人教師館) เป็นอาคารทางประวัติศาสตร์ของเมืองฮิโรซากิที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1903 เพื่อเป็นที่พักอาศัยของกลุ่มมิชชันนารีในเมืองและปัจจุบันตัวอาคารถือเป็นหนึ่งในสมบัติของจังหวัดอาโอโมริ
ภายในอาคารจะได้เห็นข้าวของเครื่องใช้ที่ยังถูกเก็บรักษาไว้และจัดเพื่อจำลองการใช้ชีวิตในยุคเมจิของกลุ่มมิชชันนารีให้เราได้ชมกัน และถ้าหากอยากใช้เวลาซึมซับบรรยากาศย้อนยุคแบบเต็มอิ่ม ที่ชั้น 1 ของอาคารจะมี Salon de Cafe Ange คาเฟ่สวยย้อนยุคที่เสิร์ฟแกงกะหรี่แอปเปิ้ล พายแอปเปิ้ล และกาแฟหอมอร่อยให้เราได้เพลิดเพลินไปพร้อมๆ กับบรรยากาศ
To-o Gijuku Missionary Residence (旧東奧義塾 外人教師館)
ที่ตั้ง: 2-1 Shimoshiroganecho, Hirosaki, Aomori 036-8356 Japan
เวลาทำการ: 9.00-18.00 น.
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
ค่าเข้า: เข้าฟรี
Website: city.hirosaki.aomori.jp
SPOT 16: Fujita Memorial Garden
Fujita Memorial Garden (藤田記念庭園) เป็นสวนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ โดยเป็นสวนญี่ปุ่นสไตล์เอโดะที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1991 เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของการตั้งเมืองฮิโรซากิขึ้น นอกจากนี้ สวนแห่งนี้ยังเคยเป็นที่พักอาศัยของฟุจิตะ เคนอิจิ (藤田 謙一, Fujita Kenichi) ประธานคนแรกของ Japan Chamber of Commerce and Industry อีกด้วย โดยภายในสวนญี่ปุ่นจะมีทั้งอาคารที่พักอาศัยแบบญี่ปุ่นและยุโรปให้ได้ชมกัน รวมแล้วเป็นบรรยากาศที่สวยงามอย่างลงตัวชนิดที่ต้องมาเดินถ่ายรูปให้ได้สักครั้ง และถ้าหากอยากหาที่พัก ภายในสวนก็มีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ รวมถึงห้องน้ำชาให้ได้พักเติมพลังกัน
เมนูขึ้นชื่อของที่นี่มันข้าวแกงกะหรี่หน่อไม้ที่หอมเครื่องและเฮลตี้สุดๆ หรือถ้าต้องการเมนูเบาๆ อิ่มท้องแต่กินแล้วสดชื่น ที่นี่ก็มีพาสต้าปลาซาบะที่ราดซอสเลมอนสดหอมสดชื่น! สำหรับของหวานนั้นก็มีเมนูขนมอบมากมาย แต่ที่ขึ้นชื่อต้องยกให้น้ำแข็งไสชามโตที่คนชอบน้ำแข็งไสและบิงซูต้องลอง!
Fujita Memorial Garden (藤田記念庭園)
ที่ตั้ง: 8-1 Kamishiroganecho, Hirosaki, Aomori 036-8207, Japan
เวลาทำการ: 9.00-17.00 น. (จำหน่ายตั๋วเข้าจนถึงเวลา 16.30 น.) ,
ช่วงค่ำเปิดให้ชมสวนได้ถึง 20.00 น. (จำหน่ายตั๋วเข้าจนถึงเวลา 19.30 น.)
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
ค่าเข้า: เข้าฟรี
Website: hirosakipark.or.jp/hujita
SPOT 17: นั่งรถไฟ Joyful Train “Resort Shirakami” ไปอาคิตะ
หลังจากเที่ยวชมเมืองฮิโรซากิกันอย่างจุใจแล้ว เราก็มุ่งหน้ากันไปยังจังหวัดอาคิตะที่เป็นจุดหมายปลายทางต่อไป
แต่ในการเดินทางไปจังหวัดอาคิตะนั้น เราจะนั่งรถไฟท่องเที่ยวธีมพิเศษ (Joyful Train) ที่ชื่อ “Resort Shirakami (リゾートしらかみ)” กันเพื่อเพิ่มสีสันให้กับการเดินทางของเรา!
Resort Shirakami เป็นรถไฟ Joyful Train รุ่นบุกเบิกที่ช่วยเปลี่ยนนิยามของการเดินทางให้เป็นความสนุกได้ ไม่ว่าจะด้วยวิวทิวทัศน์สวยงามของทะเลและธรรมชาติระดับมรดกโลก การแสดงดนตรีพื้นบ้าน เอกิเบ็น (ข้าวกล่องรถไฟ) และอีกมากมายที่ทำให้การนั่งรถไฟกลายเป็นไฮไลท์หนึ่งของการเที่ยวได้ โดยระหว่างทางจะมี 2 สถานีซึ่งมีกิจกรรมให้เราร่วมสนุกได้เพลินๆ ระหว่างทาง
สำหรับ Resort Shirakami ที่เราจะขึ้นในรอบนี้จะเป็นรอบ 14.30 น. ดังนั้นจะมีช่วงที่รถไฟแวะจอดที่สถานี Senjojiki (千畳敷駅) เป็นเวลา 15 นาทีให้เราเดินข้ามถนนไปชมวิวทะเลได้ใกล้ๆ และถ้าหากหิวขึ้นมาก็รองท้องด้วยปลาหมึกย่างของอร่อยประจำถิ่นได้ แต่ต้องรีบหน่อยนะเพราะมีจำนวนจำกัด (ทั้งนี้ถ้าเป็นรอบ 16.00 น. รถไฟจะวิ่งผ่านสถานีนี้ไปโดยไม่แวะจอด)
คืนนี้ค้างที่นี่: สถานี JR Akita
หลังจากสนุกกับการนั่งรถไฟ Resort Shirakami แล้ว เราจะมาถึงที่อาคิตะกันในเวลา 19.00 น. ซึ่งเป็นเวลามื้อเย็นพอดี เมื่อมาถึงอาคิตะแล้ว เมนูที่จะพลาดไม่ได้เลยคือคิริทัมโปะ (きりたんぽ, Kiritanpo) อาหารที่ทำจากข้าวที่ถูกตำให้เป็นแป้งแล้วพันรอบไม้ซีดาร์ก่อนจะนำไปย่าง และในบรรดาร้านคิริทัมโปะทั้งหมด ขอแนะนำร้าน Akita Kiritanpoya ร้านอาหารติดสถานี JR Akitaที่เสิร์ฟทุกเมนูพื้นเมืองของอาคิตะ ภายในร้าน Akita Kiritanpoya ถูกตกแต่งให้บรรยากาศเหมือนบ้านนายพรานทำให้รู้สึกเหมือนได้ร่วมวงอาหารกับบรรดานายพรานที่ท่องป่าในอดีตของญี่ปุ่นก็ไม่ปาน
Akita Kiritanpoya
ที่ตั้ง: 2 Chome−7−6 Nakadori, Akita 010-0001 Japan
เวลาทำการ: 17.00-24.00 น.
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
Website: marutomisuisan.jpn.com/kiritanpoya
สำหรับโรงแรมที่ขอแนะนำคือโรงแรม Hotel Metropolitan Akita โรงแรมติดสถานี JR Akita ที่มีห้องพักสะดวกครบครันในราคา 9,000 เยน (2,700 บาท) ต่อคืนต่อคน โดยราคานี้รวมบริการอาหารเช้าด้วย
ให้ทริปโทโฮคุง่ายขึ้น! ด้วย JR EAST PASS (Tohoku Area)
JR EAST PASS (Tohoku Area) เป็นตั๋วประเภท Pass จาก JR East ที่จะมาปลดล็อคให้การเดินทางในโทโฮคุง่ายขึ้นในราคาเพียง 20,000 เยน เพียงจองตั๋วออนไลน์แล้วมารับตั๋วที่ญี่ปุ่น เพื่อนๆ ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวสถานที่ไฮไลท์ต่างๆ ในโทโฮคุได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการซื้อตั๋วอื่นเพิ่ม และยังนั่งรถไฟและบัสในเครือ JR East ได้ไม่จำกัดรอบตลอดระยะเวลาอายุตั๋ว 5 วัน รวมถึงยังสามารถนั่งชินกันเซนและรถไฟ Joyful Train อย่าง Toreiyu Tsubasa เพื่อเพิ่มสีสันให้กับทริปได้อีกด้วย!
นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ JR EAST PASS จองที่นั่งแบบระบุที่นั่งบนชินกันเซนหรือ Joyful Train แบบออนไลน์ได้ฟรี! โดยมีเงื่อนไขเพียงต้องจองล่วงหน้า 1 เดือนเท่านั้น!
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง JR EAST PASS (Tohoku Area)
เกี่ยวกับ JR EAST PASS: jreast.com
จองตั๋ว JR EAST PASS: eki-net.com
Special Thanks : JR EAST
ข้อมูลจาก : Anngle Thailand
ครั้งหนึ่งในชีวิต! แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน (Day 1)
ครั้งหนึ่งในชีวิต! แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน (Day 2)
ครั้งหนึ่งในชีวิต! แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน (Day 3)
ครั้งหนึ่งในชีวิต! แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน (Day 4)
ครั้งหนึ่งในชีวิต! แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน (Day 5)
แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน
ในบทความนี้เราจะขอแนะนำแพลนทริปเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ (東北地方, Tohoku) ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นที่ประกอบด้วย 6 จังหวัดได้แก่อาโอโมริ อาคิตะ อิวาเตะ ยามากาตะ ฟุกุชิมะ และมิยางิ ซึ่งแต่ละจังหวัดล้วนเต็มไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงาม วัฒนธรรมที่เปี่ยมมนต์ขลัง ของอร่อยท้องถิ่นเลิศรส และเสน่ห์ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลจนสามารถเที่ยวได้ทั้งปีไม่มีเบื่อ
แพลนทริปนี้จะเป็นแพลนทริปที่สามารถเที่ยวโทโฮคุได้สนุกเต็มที่อย่างไม่เกี่ยงฤดูกาล โดยมีตัวช่วยพิเศษคือตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) ตั๋วพาสของ JR East ที่สามารถใช้นั่งรถไฟรอบโทโฮคุได้อย่างไม่จำกัดภายในเวลา 5 วันติดกัน ทั้งยังสามารถใช้จองที่นั่งและขึ้นรถไฟธีมพิเศษ Joyful Train ได้ฟรีอีกด้วย!
ทั้งนี้ ทริปนี้เป็นทริปแนวผจญภัยที่เราจะเที่ยวรอบ 6 จังหวัดของโทโฮคุใน 5 วันและจะมีการเช็คอินและเช็คเอ้าท์โรงแรมในทุกวัน ดังนั้นเราขอแนะนำให้เพื่อนๆ แพ๊คกระเป๋าให้คล่องตัวที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้สามารถสนุกกับทริปนี้ได้อย่างเต็มที่
ทริปนี้เหมาะกับใคร?
ทริปนี้เหมาะกับคนที่อยากจัดทริปนั่งรถไฟเที่ยวญี่ปุ่นแทนการเช่ารถขับ และเหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบเก็บไฮไลท์และจังหวัดในญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุดในเวลาและงบที่จำกัด
ทั้งนี้ ทริปนี้เหมาะกับการเที่ยวเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่มีความคล่องตัว และอาจไม่เหมาะกับการเดินทางในกลุ่มที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ
ถ้าพร้อมแล้ว มาดูแพลนทริปเที่ยวโทโฮคุแบบสนุกคุ้มสุดๆ ตลอด 5 วันกันเลยค่ะ!
วันที่ 3: เที่ยวเมืองฮิโรซากิและสัมผัสอีกระดับของการนั่งรถไฟกับ Resort Shirakami
ก่อนที่จะไปเริ่มลุยเที่ยวเมืองฮิโรซากิในวันนี้ ถ้าเพื่อนๆ อยากชิมของอร่อยประจำถิ่นและตื่นเช้าไหวล่ะก็ ลองไปชิม “นกเกะด้ง (のっけ丼, Nokkedon)” ที่ Aomori Gyosai Center กันได้!
การจะอร่อยกับนกเกะด้งของที่นี่มีความสนุกอยู่อย่างหนึ่งคือเราสามารถเลือกซื้อสารพัดวัตถุดิบอาหารทะเลทั้งเนื้อปลา กุ้ง และอื่นๆ ได้ตามชอบจนได้นกเกะด้งในฉบับของตัวเอง โดยจะต้องซื้อคูปองแทนเงินสดสำหรับแลกซื้อของจากร้านค้าก่อน จากนั้นเราก็สามารถสนุกกับการตระเวนตามร้านต่างๆ และแลกซื้อวัตถุดิบให้ชามข้าวเปล่าของเราค่อยๆ มีปลาและอาหารทะเลสดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มชาม! Aomori Gyosai Center จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้า ดังนั้นถ้าตื่นเช้าไหวเราก็จะมีเวลาอร่อยกับนกเกะด้งได้สบายๆ เลย
พออิ่มท้องด้วยของอร่อยแล้ว เราจะออกเดินทางจากสถานี Aomori ไปยังสถานี Hirosaki เพื่อไปเที่ยวเมืองฮิโรซากิ เมืองท่องเที่ยวแห่งจังหวัดอาโอโมริที่ถ้าไม่มาเที่ยวก็อาจเรียกได้ว่ามาไม่ถึงจังหวัดอาโอโมริก็ว่าได้
สำหรับแพลนเที่ยวรอบเมืองนั้น วันนี้จะเป็นการเดินเล่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองฮิโรซากิที่มีปราสาทฮิโรซากิที่เป็นสัญลักษ์ของเมืองเป็นตัวเอก และมีอาคารทรงยุโรปและญี่ปุ่นปะปนกันให้ชม นับเป็นเมืองที่มีทั้งความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตกมารวมกันอย่างสวยงามลงตัว
SPOT 13: ปราสาทฮิโรซากิ
ปราสาทฮิโรซากิ (弘前城, Hirosaki Castle) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะฮิโรซากิ (弘前公園, Hirosaki Park) ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1611 โดยตระกูลสึการุ ผู้ปกครองแคว้นในเวลานั้น ปราสาทฮิโรซากินับเป็นปราสาทเพียงหลังเดียวในภูมิภาคโทโฮคุที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันนับจากยุคเอโดะ โดยถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิโรซากิ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ. 1952 นอกจากนี้ปราสาทฮิโรซากิยังเป็นจุดชมซากุระและจุดชมใบไม้แดงที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอาโอโมริอีกด้วย ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วงพอดีล่ะก็มาเที่ยวที่ปราสาทฮิโรซากิแห่งนี้ให้ได้เลยนะ!
ปราสาทฮิโรซากิ (弘前城)
ที่ตั้ง: 1 Shimoshiroganechō, Hirosaki, Aomori
เวลาทำการ: 9.00-17.00 น. *ช่วงเทศกาลซากุระเปิด 7.00-21.00 น.
วันหยุด: 24 พ.ย. – 31 มี.ค.
ค่าเข้า: (สวนสาธารณะและปราสาท) ผู้ใหญ่ 310 เยน, เด็ก 100 เยน
Website: hirosakipark.jp (ภาษาอังกฤษ)
SPOT 14: Catholic Hirosaki Church
Catholic Hirosaki Church (カトリック弘前教会) เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สามารถย้อนประวัติไปได้ถึงปีค.ศ. 1872 โดยเป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยไม้ตามแบบ Romanesque ด้วยฝีมือของโยโคยามะ สึเนะคิจิ ยกเว้นแท่นบูชาสไตล์ Gothic ที่เป็นแท่นบูชาซึ่งได้รับบริจาคจาก St. Thomas Church ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเมื่อเข้าไปในโบสถ์ เราจะเห็นกระจกสีสวยงามซึ่งได้รับบริจาคมาจากบาทหลวงคาร์รอน (Father Carron) ประเทศแคนาดา โดยกระจกสีถูกจัดให้เป็นภาพสวยงามเช่นภาพภูเขาอิวากิและแอปเปิ้ลซึ่งสื่อถึงเมืองฮิโรซากิ
Catholic Hirosaki Church (カトリック弘前教会)
ที่ตั้ง: 20 Hyakkokumachi Koji, Hirosaki, Aomori 036-8351, Japan
เวลาทำการ: ฤดูร้อน 7.00-19.00 น. , ฤดูหนาว 7.00 น. จนถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน
วันหยุด: โบสถ์จะปิดทำการเมื่อมีการจัดงานพิธี
ค่าเข้า: เข้าฟรี
Website: sendai.catholic.jp
SPOT 15: To-o Gijuku Missionary Residence
To-o Gijuku Missionary Residence (旧東奧義塾 外人教師館) เป็นอาคารทางประวัติศาสตร์ของเมืองฮิโรซากิที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1903 เพื่อเป็นที่พักอาศัยของกลุ่มมิชชันนารีในเมืองและปัจจุบันตัวอาคารถือเป็นหนึ่งในสมบัติของจังหวัดอาโอโมริ
ภายในอาคารจะได้เห็นข้าวของเครื่องใช้ที่ยังถูกเก็บรักษาไว้และจัดเพื่อจำลองการใช้ชีวิตในยุคเมจิของกลุ่มมิชชันนารีให้เราได้ชมกัน และถ้าหากอยากใช้เวลาซึมซับบรรยากาศย้อนยุคแบบเต็มอิ่ม ที่ชั้น 1 ของอาคารจะมี Salon de Cafe Ange คาเฟ่สวยย้อนยุคที่เสิร์ฟแกงกะหรี่แอปเปิ้ล พายแอปเปิ้ล และกาแฟหอมอร่อยให้เราได้เพลิดเพลินไปพร้อมๆ กับบรรยากาศ
To-o Gijuku Missionary Residence (旧東奧義塾 外人教師館)
ที่ตั้ง: 2-1 Shimoshiroganecho, Hirosaki, Aomori 036-8356 Japan
เวลาทำการ: 9.00-18.00 น.
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
ค่าเข้า: เข้าฟรี
Website: city.hirosaki.aomori.jp
SPOT 16: Fujita Memorial Garden
Fujita Memorial Garden (藤田記念庭園) เป็นสวนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ โดยเป็นสวนญี่ปุ่นสไตล์เอโดะที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1991 เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของการตั้งเมืองฮิโรซากิขึ้น นอกจากนี้ สวนแห่งนี้ยังเคยเป็นที่พักอาศัยของฟุจิตะ เคนอิจิ (藤田 謙一, Fujita Kenichi) ประธานคนแรกของ Japan Chamber of Commerce and Industry อีกด้วย โดยภายในสวนญี่ปุ่นจะมีทั้งอาคารที่พักอาศัยแบบญี่ปุ่นและยุโรปให้ได้ชมกัน รวมแล้วเป็นบรรยากาศที่สวยงามอย่างลงตัวชนิดที่ต้องมาเดินถ่ายรูปให้ได้สักครั้ง และถ้าหากอยากหาที่พัก ภายในสวนก็มีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ รวมถึงห้องน้ำชาให้ได้พักเติมพลังกัน
เมนูขึ้นชื่อของที่นี่มันข้าวแกงกะหรี่หน่อไม้ที่หอมเครื่องและเฮลตี้สุดๆ หรือถ้าต้องการเมนูเบาๆ อิ่มท้องแต่กินแล้วสดชื่น ที่นี่ก็มีพาสต้าปลาซาบะที่ราดซอสเลมอนสดหอมสดชื่น! สำหรับของหวานนั้นก็มีเมนูขนมอบมากมาย แต่ที่ขึ้นชื่อต้องยกให้น้ำแข็งไสชามโตที่คนชอบน้ำแข็งไสและบิงซูต้องลอง!
Fujita Memorial Garden (藤田記念庭園)
ที่ตั้ง: 8-1 Kamishiroganecho, Hirosaki, Aomori 036-8207, Japan
เวลาทำการ: 9.00-17.00 น. (จำหน่ายตั๋วเข้าจนถึงเวลา 16.30 น.) ,
ช่วงค่ำเปิดให้ชมสวนได้ถึง 20.00 น. (จำหน่ายตั๋วเข้าจนถึงเวลา 19.30 น.)
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
ค่าเข้า: เข้าฟรี
Website: hirosakipark.or.jp/hujita
SPOT 17: นั่งรถไฟ Joyful Train “Resort Shirakami” ไปอาคิตะ
หลังจากเที่ยวชมเมืองฮิโรซากิกันอย่างจุใจแล้ว เราก็มุ่งหน้ากันไปยังจังหวัดอาคิตะที่เป็นจุดหมายปลายทางต่อไป
แต่ในการเดินทางไปจังหวัดอาคิตะนั้น เราจะนั่งรถไฟท่องเที่ยวธีมพิเศษ (Joyful Train) ที่ชื่อ “Resort Shirakami (リゾートしらかみ)” กันเพื่อเพิ่มสีสันให้กับการเดินทางของเรา!
Resort Shirakami เป็นรถไฟ Joyful Train รุ่นบุกเบิกที่ช่วยเปลี่ยนนิยามของการเดินทางให้เป็นความสนุกได้ ไม่ว่าจะด้วยวิวทิวทัศน์สวยงามของทะเลและธรรมชาติระดับมรดกโลก การแสดงดนตรีพื้นบ้าน เอกิเบ็น (ข้าวกล่องรถไฟ) และอีกมากมายที่ทำให้การนั่งรถไฟกลายเป็นไฮไลท์หนึ่งของการเที่ยวได้ โดยระหว่างทางจะมี 2 สถานีซึ่งมีกิจกรรมให้เราร่วมสนุกได้เพลินๆ ระหว่างทาง
สำหรับ Resort Shirakami ที่เราจะขึ้นในรอบนี้จะเป็นรอบ 14.30 น. ดังนั้นจะมีช่วงที่รถไฟแวะจอดที่สถานี Senjojiki (千畳敷駅) เป็นเวลา 15 นาทีให้เราเดินข้ามถนนไปชมวิวทะเลได้ใกล้ๆ และถ้าหากหิวขึ้นมาก็รองท้องด้วยปลาหมึกย่างของอร่อยประจำถิ่นได้ แต่ต้องรีบหน่อยนะเพราะมีจำนวนจำกัด (ทั้งนี้ถ้าเป็นรอบ 16.00 น. รถไฟจะวิ่งผ่านสถานีนี้ไปโดยไม่แวะจอด)
คืนนี้ค้างที่นี่: สถานี JR Akita
หลังจากสนุกกับการนั่งรถไฟ Resort Shirakami แล้ว เราจะมาถึงที่อาคิตะกันในเวลา 19.00 น. ซึ่งเป็นเวลามื้อเย็นพอดี เมื่อมาถึงอาคิตะแล้ว เมนูที่จะพลาดไม่ได้เลยคือคิริทัมโปะ (きりたんぽ, Kiritanpo) อาหารที่ทำจากข้าวที่ถูกตำให้เป็นแป้งแล้วพันรอบไม้ซีดาร์ก่อนจะนำไปย่าง และในบรรดาร้านคิริทัมโปะทั้งหมด ขอแนะนำร้าน Akita Kiritanpoya ร้านอาหารติดสถานี JR Akitaที่เสิร์ฟทุกเมนูพื้นเมืองของอาคิตะ ภายในร้าน Akita Kiritanpoya ถูกตกแต่งให้บรรยากาศเหมือนบ้านนายพรานทำให้รู้สึกเหมือนได้ร่วมวงอาหารกับบรรดานายพรานที่ท่องป่าในอดีตของญี่ปุ่นก็ไม่ปาน
Akita Kiritanpoya
ที่ตั้ง: 2 Chome−7−6 Nakadori, Akita 010-0001 Japan
เวลาทำการ: 17.00-24.00 น.
วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
Website: marutomisuisan.jpn.com/kiritanpoya
สำหรับโรงแรมที่ขอแนะนำคือโรงแรม Hotel Metropolitan Akita โรงแรมติดสถานี JR Akita ที่มีห้องพักสะดวกครบครันในราคา 9,000 เยน (2,700 บาท) ต่อคืนต่อคน โดยราคานี้รวมบริการอาหารเช้าด้วย
ให้ทริปโทโฮคุง่ายขึ้น! ด้วย JR EAST PASS (Tohoku Area)
JR EAST PASS (Tohoku Area) เป็นตั๋วประเภท Pass จาก JR East ที่จะมาปลดล็อคให้การเดินทางในโทโฮคุง่ายขึ้นในราคาเพียง 20,000 เยน เพียงจองตั๋วออนไลน์แล้วมารับตั๋วที่ญี่ปุ่น เพื่อนๆ ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวสถานที่ไฮไลท์ต่างๆ ในโทโฮคุได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการซื้อตั๋วอื่นเพิ่ม และยังนั่งรถไฟและบัสในเครือ JR East ได้ไม่จำกัดรอบตลอดระยะเวลาอายุตั๋ว 5 วัน รวมถึงยังสามารถนั่งชินกันเซนและรถไฟ Joyful Train อย่าง Toreiyu Tsubasa เพื่อเพิ่มสีสันให้กับทริปได้อีกด้วย!
นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ JR EAST PASS จองที่นั่งแบบระบุที่นั่งบนชินกันเซนหรือ Joyful Train แบบออนไลน์ได้ฟรี! โดยมีเงื่อนไขเพียงต้องจองล่วงหน้า 1 เดือนเท่านั้น!
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง JR EAST PASS (Tohoku Area)
เกี่ยวกับ JR EAST PASS: jreast.com
จองตั๋ว JR EAST PASS: eki-net.com
Special Thanks : JR EAST
ข้อมูลจาก : Anngle Thailand
ครั้งหนึ่งในชีวิต! แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน (Day 1)
ครั้งหนึ่งในชีวิต! แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน (Day 2)
ครั้งหนึ่งในชีวิต! แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน (Day 3)
ครั้งหนึ่งในชีวิต! แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน (Day 4)
ครั้งหนึ่งในชีวิต! แพลนตะลุยเที่ยวโทโฮคุแบบครบรสทั้ง 6 จังหวัดใน 5 วัน (Day 5)