นางแบบสาววัย 25 ปีถูกดำเนินคดีข้อหาวางยาพิษปลิดชีวิตสามีวัย 77 ปี เศรษฐีใหญ่เจ้าของฉายา “ดอนฮวนผู้พิชิตหญิงสาว 4,000 คน” คาดหวังมรดกก้อนโตกว่า 1,300 ล้านเยน
ตำรวจญี่ปุ่นจับกุมตัวนาง “ซากิ ซูโด” หลังพบหลักฐานว่า เมื่อ 3 ปีก่อน เธอใช้ยากระตุ้นประสาททำให้นาย “โคซูเกะ โนซากิ” สามีที่เพิ่งแต่งงานกันได้เพียง 3 เดือน เสียชีวิตในคฤหาสน์หรูที่จังหวัดวากายามะ
นายโคซูเกะ โนซากิ ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจหลายอย่าง เริ่มต้นจากการเก็บขยะเศษเหล็กจากเครื่องบินของกองทัพอเมริกา และค่อยๆ เก็บสะสมเงินมาเรื่อยๆ จากนั้นริเริ่มทำธุรกิจขายถุงยางอนามัย จนเปิดบริษัทค้าขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ สถาบันการเงิน บริษัทซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ มีทรัพย์สินรวมเป็นเงินหลายพันล้านเยน แถมเป็นคนกว้างขวางและเป็นสายเปย์ตัวจริง นายโนซากิมีชื่อเสียงด้านความเข้าชู้ คบหากับผู้หญิงสวยมากหน้าหลายตา จนได้รับฉายาว่า “ดอนฮวนแห่งแคว้นคิชู”
อ่านประวัติชีวิตที่: ดอน ฮวน แห่งคิชูเคยมีสัมพันธ์กับสาวสวยกว่า 4,000คน ?!
นายโนซากิถูกพบว่าเสียชีวิตในบ้านพักเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 โดยเกิดจากได้รับสารกระตุ้นประสาทเกินขนาด และผู้ที่ต้องสงสัยมากที่สุดก็คือ ภรรยาสาวที่ขณะนั้นอายุ 22 ปี และเพิ่งแต่งงานกันได้เพียง 3 เดือน และเป็นคนเดียวที่อยู่กับผู้ตายในช่วงเวลาเกิดเหตุ
ตำรวจตัดความเป็นไปได้เรื่องการฆ่าตัวตายเพราะ นายโนซากิมีกำหนดการจะไปงานศพของสุนัขตัวโปรดในวันที่เสียชีวิต และใช้เวลาทำคดีนานถึง 3 ปีจนรวบรวมหลักฐานได้ว่า ภรรยาวัยสาวได้ค้นหาข้อมูลและสั่งซื้อยากระตุ้นประสาททางอินเทอร์เน็ต จนนำไปสู่การจับกุมตัวเธอเมื่อวานนี้ (28 เม.ย)
“ซากิ ซูโด” เป็นภรรยาคนที่ 3 ของมหาเศรษฐีผู้เจ้าชู้รายนี้ เธอเป็นชาวฮอกไกโด เคยเป็นดาราภาพยนตร์วาบหวิว และตกถังข้าวสารได้แต่งงานกับนายโนซากิที่อายุต่างกันถึง 55 ปี โดยสามีเศรษฐีให้เงินไว้ใช้จ่ายส่วนตัวเดือนละ 1 ล้านเยน (ราว 300,000 บาท)
ญาติของเศรษฐีชราบอกว่า หลังจากแต่งงานสุขภาพของเขาทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นคนแก่ที่ต้องใช้ผ้าอ้อมเพราะมีอาการปัสสาวะเล็ด ทั้ง ๆ ที่หลังจากล้มป่วยเมื่ออายุ 50 ปี นายโนซากิได้เอาใจใส่สุขภาพเป็นอย่างดี ญาติ ๆ จึงตั้งข้อสงสัยว่า ภรรยาวัยสาวอาจวางยานายโนซากิมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สุขภาพถดถอยลงอย่างรวดเร็วจนเสียชีวิต
นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า ทั้งคู่ความสัมพันธ์ไม่ดี ถึงขั้นมีแผนจะหย่าร้าง เพราะภรรยาสาวอ้างว่ามีงานนางแบบที่กรุงโตเกียว แทบจะไม่ค่อยกลับมาอยู่กับสามีที่จังหวัดวากายามะ
หลังงานศพ นางซูโดได้ย้ายไปพักในคอนโดมิเนียมหรู ใจกลางกรุงโตเกียว ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา และมีข่าวว่าเธอมีแผนจะไปทำศัลยกรรมแปลงโฉมที่เกาหลี จากนั้นจะย้ายไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ หรือหาสามีเศรษฐีคนใหม่
สาเหตุในการวางยาฆ่าผัวคาดว่าเป็นเพราะนายโนซากิมีทรัพย์สินมากกว่า 1,320 ล้านเยน อย่างไรก็ตาม นายโนซากิได้ทำพินัยกรรมไว้ว่าขอบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดในกับทางการเมืองทานาเบะ ที่ซึ่งเขาพำนักมาเกือบตลอดชีวิต แต่ว่าตามกฎหมายของญี่ปุ่น ภรรยาจะยังคงได้สิทธิ์ในมรดกครึ่งหนึ่ง ซึ่งทางการเมืองทานาเบะกำลังอยู่ในระหว่างเจรจากับนางซูโด แต่หากศาลพิพากษาว่าเธอมีความผิดฐานฆาตกรรมสามี เธอจะเสียสิทธิ์ในการรับมรดก
นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้ว พี่น้อง 4 คนของนายโนซากิยังได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้เพิกถอนพินัยกรรม โดยอ้างว่าพินัยกรรมที่ระบุว่ามอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับเมืองทานาเบะนั้น ไม่ได้ทำขึ้นตามเจตนารมย์ของเจ้าตัว ขณะนี้คำร้องยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี.
