สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว อาทิตย์ที่แล้วผมเล่าข่าวนางเอก AV ชื่อยูริอะ โดนบุกปล้นเงินสด 6 ล้านเยน (ประมาณ 2 ล้านบาท) ที่ห้องพักคอนโดหรูโดยมิจฉาชีพยังเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปีเลย เธอเป็นนักแสดงเอวีสาวในฐานะนักแสดงหญิงสุดเซ็กซี่ที่มีประสบการณ์ในวงการเกือบ 20 ปี เมื่อเดือนมิถุนายน 2014 สำนักงานจัดเก็บภาษีแห่งชาติโตเกียวชี้ว่ารายได้เธอถูกซ่อนไว้กว่า 245 ล้านเยนและให้จ่ายภาษีเพิ่มเติมอีก 170 ล้านเยน คนร้ายคิดว่าเธอยังมีเงินซ่อนอยู่ที่ไหนอีก 150 ล้านเยน จึงคิดมาปล้นเอาตามข่าวครับ
ซึ่งหลังจากที่เพื่อนๆ อ่านข่าวแล้วอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสาวเซ็กซี่ญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วคนญี่ปุ่นหลายคนไม่ได้คิดแนวนี้นัก กลับสนใจประเด็นอื่นมากกว่า เพราะข่าวมีจุดที่น่าสงสัย มีประเด็นแปลกๆ มากหลายจุด แค่ตัวเลขที่บอกว่าโจรคิดว่าเธอมีเงินเท่าไหร่ ก็ดูจะไม่ตรงกับข้อมูลก่อนนี้นัก หรือที่บอกว่าเธอเอาเงินเยอะแยะขนาดนั้นมาจากไหน หรือมีการทำงานอะไรบังหน้า หรือมีขบวนการทุจริตอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า เป็นต้น ตามปกติแล้วถ้ามีข่าวแนวนี้เกิดขึ้นสื่อต่างๆ ของญี่ปุ่นจะค่อนข้างระวังตัว มีการนำเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง และบางครั้งบางสื่อก็จะนำเสนอแนวปกป้องด้วยความที่เป็นสุภาพสตรี นอกจากสื่อทั่วไปแล้ว ทางโซเซี่ยลเน็ตเวิร์คต่างๆ ก็ไม่ค่อยออกมาพูดแนวขุดคุ้ยและโจมตีเท่าไหร่นัก กลับกันถ้าคนในข่าวนี้เป็นผู้ชายจะโดนยำจากสังคมมากกว่า
หลายคนมองว่าน่าจะมีการวางแผนและรู้กันมาก่อน เพราะว่าผู้ร้ายก็ยังเป็นเยาวชน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งบทลงโทษก็จะเบากว่าปกติ และไม่มีแหล่งข่าวไหนเปิดเผยชื่อของผู้ร้ายเลย และน่าจะมีคนที่มีความรู้และเชี่ยวชาญเรื่องภาษี,การเงินและกฎหมายคอยให้คำปรึกษาและแนะนำอยู่เบื้องหลังด้วย เคสนี้แม้ไม่รู้ว่าความเป็นจริงเธอรู้เห็นกับโจรหรือไม่ แต่ก็สามารถคิดได้ทั้งสองแบบ ถ้ากรณีที่ไม่รู้กันก็เป็นเรื่องที่จะเป็นประเด็นเหมือนกันเพราะว่าที่พักหรูอยู่ในพื้นที่ที่ควรจะมีการรักษาความปลอดภัยระดับสูง แต่ปล่อยให้ผู้ร้ายขึ้นไปได้อย่างไร แล้วมีคนที่รู้ว่าเธอมีเงินอยู่ในห้องนี้ได้อย่างไร มันไม่ปลอดภัย
ประเด็นอื่นๆ เรื่องเงินที่มีการพูดคุยกันในโซเซี่ยลโดยเทียบกับความเป็นอยู่ของคนทั่วไปในสังคมญี่ปุ่น คือ
■กรณีที่เธออาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมสุดหรู ระดับห้องละ 30 ล้านบาทขึ้นไป ถ้าเธอเป็นผู้ชายแล้วมีข่าวแบบเดียวกันนี้ หนุ่มคนนั้นก็จะโดนขุดเละ และโดนนินทาอย่างมากว่าได้เงินทองมาจากไหน อย่างไร เพราะเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อไม่ใช่เรื่องปกติแล้วสำหรับคนทำงานปกติธรรมดาทั่วไป คนญี่ปุ่นธรรมดาทั่วไปน่าจะไม่มีรายได้มากพอที่จะอาศัยอยู่ในสถานที่หรูหราเช่นนี้ เพราะถ้าเทียบกับรายรับของพนักงานบริษัทญี่ปุ่นเฉลี่ยแล้วมีเงินได้รายปี ปีละประมาณไม่มากกว่า 4.5 ล้านเยน ไม่รวมรายจ่ายและภาษีต่างๆ ที่ต้องถูกหักออกไปอีกมาก ทำให้หลายคนพูดว่าบางทีโจรที่ขึ้นห้องเธอนั้นอาจจะเป็นคนที่รู้กันและเตรียมการมาก่อนก็ได้ เป็นความเห็นในกระทู้สนทนาต่างๆ แต่ก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
■ประเด็นต่อมาคือ ปกติแล้วคนญี่ปุ่นทั่วไปในสังคมญี่ปุ่น แทบจะไม่มีใครเก็บเงินสดไว้ที่บ้านมากมายขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะนำเงินไปฝากธนาคารไว้โดยเฉพาะเงินหลักหลายๆ ล้าน ในข่าวเธอบอกว่ามีเงินสดเก็บไว้สำรองใช้จ่ายในห้อง 6 ล้านเยน ซึ่งประเด็นนี้ก็ไม่ปกติเช่นกัน เมื่อมองการใช้ชีวิตของคนทั่วไปหรือแม้แต่พนักงานบริษัทญี่ปุ่นที่ดูเหมือนว่ายิ่งทำงาน ยิ่งอยู่นานกลับยิ่งได้เงินเดือนลดน้อยลง ไม่มีใครมีเงินจำนวนมากมาเก็บสำรองไว้ในบ้านมากขนาดนั้นได้ ก่อนนี้ที่เธอเป็นข่าวว่ามีเงินได้ที่ไม่ได้จ่ายภาษีอีกกว่า 245 ล้านเยน แน่นอนว่าถ้าเป็นเงินที่ได้มาแบบสุจริตจะต้องหลีกเลี่ยงภาษีทำไม และตามปกติแล้วถ้ามีเงินได้มาน่าจะฝากในธนาคารเหมือนๆ กับคนญี่ปุ่นทั่วไป แม้ว่าจะมีคนญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยชอบฝากเงินในธนาคารอยู่เหมือนกัน แต่นั่นคือ
-คนแก่ผู้สูงอายุมากๆ คนญี่ปุ่นสมัยก่อนที่เค้าอาจจะไม่นิยมฝากธนาคารเพราะว่าปู่ย่าตายายบางท่านใช้ระบบดิจิตอลไม่เป็น และไม่รู้จักการกดฝากถอนทางเอทีเอ็ม หรือไม่อยากไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร ลักษณะแบบนี้ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าคนสูงอายุอาจจะมีบ้างที่ไม่อยากใช้บริการธนาคาร ผู้สูงอายุบางคนที่ไม่ได้นำเงินไปฝากธนาคารก็จะเก็บเงินไว้ในกระป๋อง กล่องต่างๆ แล้วซ่อนไว้มุมต่างๆ ในบ้านตัวเอง บางคนลืมว่าเก็บไว้ที่ไหน บางคนบอกข้อมูลกับเพื่อนสนิทแล้วภายหลังมีโจรขึ้นบ้านเพราะรู้ว่ามีเงินสดซ่อนไว้ ข่าวแบบนี้ก็เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ว่าคนรุ่นใหม่ และหนุ่มสาวญี่ปุ่นเป็นไปได้ยากที่จะไม่ใช้บริการฝากเงินที่ธนาคาร
-หรืออีกกรณีหนึ่งสำหรับคนที่เปิดร้าน หรือมีร้านค้าของตัวเองก็อาจจะมีเงินสดสำรองเก็บไว้ที่ร้านหรือที่บ้านตัวเองบ้างเพราะต้องใช้เงินสดหมุนเวียน ไว้ซื้อของหรือสำรองจ่ายต่างๆ แต่คนปกติส่วนใหญ่แล้วไม่มีใครมีเงินสดเก็บไว้ที่ตัวจำนวนมากขนาดนั้นแน่นอน
เมื่อเธอมีเงินสดเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าเยอะขนาดนี้ ก็กลายเป็นประเด็นว่าไม่น่าจะปกตินะเนี่ย แต่บางคนก็มองในแง่ดีอีกบอกว่าบางทีเธออาจจะทำธุรกิจบางอย่างที่ต้องใช้เงินสดก็ได้จึงต้องมีเงินสำรองไว้เยอะขนาดนั้น (´・ω・`)
■ตอนที่เธอชี้แจงที่ที่มาของรายได้ที่เธอไม่ได้นำไปแจ้งเพื่อจ่ายภาษีนั้น เธอแจ้งว่า เงินได้ของเธอนั้นเป็นเงินที่ฝ่ายชายให้เธอมา เป็นเงินจากการให้ด้วยเสน่หา เป็นเงินที่เกิดจากความรักของทั้งสองคน เธอกำหนดไม่ได้ว่าเขาจะให้เธอมาเท่าไหร่เป็นเงินทำขวัญการผิดสัญญาแต่งงานที่ฝ่ายชายมอบให้แก่เธอ มีทั้งหมด 4 คน ในระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งก็ถือว่าจำนวนเงินเยอะมากๆ ทำให้หลายคนมองว่าภายใน 7 ปี เธอรับเงินขนาดนี้ จากการเปลี่ยนหนุ่มๆ 4 คนใครๆ อ่านข้อความที่เธอชี้แจงก็รู้สึกแปลกนะ น่าสงสัยว่ามันใช่หรอ!? ผู้ชายแต่ละคนคงรวยน่าดู ยอมจ่ายเงินสินน้ำใจผิดสัญญาแต่งงานเยอะขนาดนี้ ใครจะเชื่อเธอบ้างเนี่ย
และถ้าสิ่งที่เธอพูดออกมา หรือใครก็ตามที่พูดความเท็จใดๆ น่าจะตรงกับสำนวนสุภาษิตญี่ปุ่นที่ว่า
●嘘つきは泥棒の始まり Usotsuki wa dorobō no hajimari การโกหกคือจุดเริ่มต้นของการเป็นหัวขโมยจากข่าวนี้คือมีหลายประเด็นที่น่าสงสัยและหลายๆ คนแสดงความคิดเห็นว่าตามข้อมูลที่เธอบอกนั้นมีหลายจุดน่าสงสัย มันจะเหมือนสำนวนสุภาษิตนี้ที่ว่าการโกหกคือจุดเริ่มต้นของการเป็นหัวขโมย คนที่พูดโกหกโดยไม่รู้สึกผิดก็คือการเป็นโจรเสียแล้วละมั้ง ที่ญี่ปุ่นก็มีคำสอนเหล่านี้ครับเพื่อนผมบอกว่าที่เมืองไทยก็มีเรื่องศีล 5 สำหรับศีลข้อที่ 4 ให้งดเว้นการพูดเท็จ (มุสาวาทาเวรมณี) การพูดโกหก บิดเบือน เพราะเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ควรทำ
●悪事千里を走る Akuji senri wo hashiru เป็นการเปรียบเปรยว่า การทำสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ชั่วร้ายนั้น จะถูกนินทาจนเรื่องที่ทำนั้นๆ แพร่กระจายไปได้อย่างรวดเร็ว คนญี่ปุ่นเปรียบเปรยว่าข่าวไปไกลได้ถึง 4,000 กิโล เท่าๆ ระยะทางจากโอกินาวาถึงฮอกไกโดเลย คือรู้ทั่วญี่ปุ่นนั่นเอง
●悪銭身につかず Akusen mini tsukazu เปรียบเปรยว่าถ้าทำสิ่งที่ชั่วร้าย ทุจริต หรือการพนัน เงินที่ได้มาจากการทุจริตคอรัปชั่น หรือเงินที่ได้มาจากสิ่งที่ไม่ดีไม่งามทั้งหลายทั้งปวง เงินเหล่านั้นเป็นเงินร้อนไม่สามารถที่จะอยู่กับผู้นั้นได้นาน จะสูญเสียมันไปอย่างรวดเร็ว นี่ก็เป็นเรื่องที่ผู้เฒ่าผู้แก่หรือว่าคนญี่ปุ่นสมัยโบราณพูดสอนเอาไว้ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่าจริง
แต่การที่เธอออกมาพูดในช่องแชลแนลส่วนตัว กรณีที่เธอถูกโจรขึ้นห้องนั้น มีคนให้ความคิดเห็นว่าเธอเก่งที่ทำอาชีพนี้ได้นานมาก แล้วยังใช้ตัวเองสร้างธุรกิจจนมีรายได้มากมาย ถือเป็น Business Model อย่างหนึ่ง สมัยนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปเร็วมากๆ การสร้างมูลค่าตนเองต่างๆ หรือเรื่องการใช้ช่องทางโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ การอัพเดทสเตตัสหรือเรื่องราวตนเองบางทียังทำให้เป็นคนดังได้เพียงแค่ข้ามคืน พอดังแล้วบางทีเป็นนักร้องเปิดคอนเสิร์ต Live ได้อีก แถมขายผลิตภัณฑ์เพื่อโฆษณาได้ด้วย เธอเธอก็เหมือนกัน ทำตัวให้เป็น Business Model ขึ้นมา น่าจะคล้ายกับสำนวนสุภาษิตที่ว่า
●転んでもタダでは起きない Korondemo tada dewa okinai แม้ว่าจะล้มลง แต่ก็จะไม่ล้มฟรี
อย่างกรณีของสาวเอวีที่โดนปล้นนั้น นอกจากเป็นข่าวทางโทรทัศน์แล้ว เธอเองก็ปล่อยคลิปให้ข้อมูลวันที่เธอถูกปล้นด้วยตัวเองอีกด้วย เพราะเธอนำเรื่องนี้ไปเสนอทางช่องแชลแนลของตัวเอง ซึ่งตรงกับสำนวนวลีอย่างที่บอกว่าปกติแล้วคนที่พลาดหรือเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นอาจจะไม่แย่ไปเสียทั้งหมด แม้ว่าจะพลาดล้มลงแต่อาจจะได้พบสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ก็ได้ ซึ่งจากข่าวสาวเอวีถูกปล้น จริงๆ แล้วก็สามารถมองได้อีกแบบหนึ่งว่าไม่ได้เกิดความโศกเศร้าจริงอาจจะเป็นเรื่องที่รู้กันหรือมีเบื้องหลังก็ได้ เพราะเธอได้เงินจากการนำเรื่องมาเล่า
ถ้าเธอทำงานเอวีหรือว่าเซ็กซี่ได้เงินมาเท่าไหร่ก็ไม่มีใครว่าอะไรเพราะว่าเป็นอาชีพเป็นหน้าที่การงานของเธอ แต่ถ้าเธอสร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อนำข่าวมาปล่อยในแชลแนลส่วนตัว เพื่อให้ได้วิวเยอะๆ เพื่อให้ได้เงินเข้ากระเป๋าตัวเองก็ถือว่าหลอกลวง ค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก
วันนี้นำเสนอข่าวเรื่องเดียว ที่สามารถสะท้อนสังคมและแนวคิดหลายๆ อย่างของคนญี่ปุ่นให้เพื่อนๆ ฟัง ซึ่งคนที่มีจิตใจที่ดีฟังข่าวนี้แล้วอาจจะสงสารเธอแต่ว่าในความคิดของคนญี่ปุ่นหลายๆ คนบอกว่าให้มองลึกๆ อาจจะเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดแอบแฝงมากกว่าที่ทุกคนคิดก็ได้ อาจจะมีลับลมคมใน มีเงื่อนงำแอบแฝงมากกว่านี้ ไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร เพราะบางทีภาพที่เราเห็นก็อาจไม่ใช่ความจริง แต่ความจริงที่ทุกคนควรทำคือทำตนเป็นคนดีและซื่อสัตย์สุจริต เพื่อความสุขทั้งปัจจุบันและอนาคตนะครับ วันนี้สวัสดีครับ