ผลสำรวจความคิดเห็นของชาวญี่ปุ่น พบว่า มีเพียงร้อยละ 23.9 ที่เห็นว่าควรจะจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกในปีหน้า แต่คณะกรรมการโตเกียวโอลิมปิกยังเปิดเผยแผนการแข่งขันใหม่ที่ใกล้เคียงกับกำหนดการเดิม
การสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของสำนักข่าวเกียวโด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า สาธารณชนชาวญี่ปุ่นร้อยละ 33.7 เห็นว่าควรยกเลิกการจัดงานโตเกียวโอลิมปิก ร้อยละ 36.4 เห็นว่า ควรเลื่อนการจัดงานออกไปอีก โดยมีประชาชนเพียงร้อยละ 23.9 ที่เห็นว่าควรจัดการแข่งขันในปีหน้า
ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่แสดงความกังวลต่อการระบาดของโรคโควิด-19 ว่า จะทำให้การแข่งขันโตเกียวโลอิมปิกไม่สามารถจัดได้อย่างราบรื่น นักกีฬา ผู้ชม และนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ไม่กล้าเดินทางมาญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การจัดงานไม่สมศักดิ์ศรี และเป็นภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนผู้เสียภาษี
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกีฬาโตเกียวโอลิมปิก ได้ประกาศกำหนดการของงานครั้งใหม่ เมื่อวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม ว่า โตเกียวโอลิมปิกจะจัดตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม ปีหน้า เป็นเวลา 17 วัน ซึ่งเร็วขึ้นกว่ากำหนดการเดิมของปีนี้เพียงวันเดียว
คณะกรรมการผู้จัดงานระบุว่า สามารถเตรียมสถานที่ได้ทั้งหมด ทั้งสถานที่แข่งขันเดิม หมู่บ้านนักกีฬา และสถานที่อื่นๆ ที่จะใช้สำหรับโตเกียว โอลิมปิกได้ทันเวลา ทำให้สามารถกำหนดตารางใหม่สำหรับการแข่งขันได้ใกล้เคียงกับตารางเดิม โดยมีการปรับเปลี่ยนเวลาสำหรับการแข่งขันบางรายการเพียงเล็กน้อย
โตเกียวโอลิมปิกที่เดิมมีกำหนดจัดขึ้นในปีนี้ต้องถูกเลื่อนออกไป เพราะการระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบหลายด้าน เช่น ต้องคืนเงินให้แก่ผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันกีฬาไปแล้ว การบำรุงรักษาสนามกีฬาและหมู่บ้านนักกีฬา สัญญาจ้างพนักงาน ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสปอนเซอร์ของการแข่งขัน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเลื่อนการจัดงาน ซึ่งขณะนี้กำลังเจรจากับคณะกรรมการโอลิมปิกสากลอยู่
ถึงแม้ประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นว่า หากยังดึงดันจัดการแข่งขันต่อไปน่าจะ “ได้ไม่คุ้มเสีย” แต่รัฐบาลของนายกฯ ชินโซ อาเบะ, นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว และ นายโยชิโร โมริ ประธานคณะกรรมการโตเกียวโอลิมปิก ต่างยืนยันว่า จะจัดงานในปีหน้าตามแผนที่วางไว้
