การระบาดของไวรัสโควิดกดดันให้สังคมอนุรักษ์นิยมอย่าง ญี่ปุ่น ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด ทั้งรูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิต ธุรกิจหลายอย่างในญี่ปุ่นเผชิญกับการดิสรับชั่น และหลายธุรกิจสบโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็ว
การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์
ญี่ปุ่นถือ “เงินสดเป็นพระเจ้า” ถึงแม้ระบบการเงินผ่านแอพลิเคชันจะแพร่หลายในหลายประเทศ แต่ร้านค้าจำนวนมากในญี่ปุ่นยังรับเฉพาะเงินสด บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง 7-11 เคยนำระบบชำระเงินผ่านแอพลิเคชันมาใช้ แต่เมื่อเผชิญกับปัญหาข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล ก็ตัดสินใจยุติระบบ
การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในญี่ปุ่นเริ่มแพร่หลายอย่างช้า ๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและเกาหลีใต้ ที่ต่างจ่ายเงินผ่านแอพลิเคชัน แต่ก็ยังถือเป็นสัดส่วนน้อยมาก ในปี 2561 การใช้จ่ายแบบ “ไร้เงินสด” ในญี่ปุ่นมีสัดส่วนเพียงแค่ 24%
แต่ไวรัสโควิดทำให้หลายคนหวาดหวั่นเชื้อโรคที่อาจแพร่ผ่านเงินสด การชำระเงินอิเล็คทรอนิกส์จึงแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ประกอบกับหลังจากขึ้นภาษีผู้บริโภคเมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้เงินอุดหนุนธุรกิจต่างๆ ติดตั้งระบบชำระเงินแบบไร้เงินสด และให้ส่วนลด 2% และ 5% กับลูกค้าที่จ่ายค่าสินค้าผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ นอกจากนี้ ผู้พัฒนาแอพลิเคชั่นชำระเงินบางรายก็บวกส่วนลดให้เพิ่มอีกต่อหนึ่ง วิกฤตโควิดผลักดันให้ญี่ปุ่นเข้าสู่สังคมไร้เงินสดได้อย่างรวดเร็ว
เกม และธุรกิจออนไลน์
เมื่อผู้คนอย่บ้านหยุดเชื้อ กิจกรรมส่วนใหญ่จึงอยู่บนโลกออนไลน์ ทั้งการช็อปปิ้ง เรียนหนังสือผ่านหน้าจอ ดูหนังฟังเพลง จนถึงบทเรียนทำอาหาร ออกกำลังกายที่นำเสนอในเว็บไซต์ ชาวญี่ปุ่นที่เคยสังสรรค์ดื่มกินหลังเลิกงาน ก็กันมา “นัดสังสรรค์ออนไลน์” ด้วยเช่นกัน
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่น ระบุว่า จำนวนปริมาณการใช้ข้อมูลเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จนบริษัทต้องเพิ่มความเร็วและเสถียรภาพของการรับส่งข้อมูลเพื่อรองรับ มหาวิทยาลัยหลายแห่งให้เงินสนับสนุนกับนักศึกษา 50,000-100,000 เยนเพื่อเป็นค่าอินเทอร์เน็ตในการเรียนผ่านระบบออนไลน์
เว็บไซต์จำหน่ายสิินค้าออนไลน์อย่าง Amazon Japan, Rakuten, mercari ต่างมียอดสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่ร้านค้าต่าง ๆ ที่ต้องปิดร้านจากการประกาศภาวะฉุกเฉิน ก็หันมาจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์เช่นกัน
เครื่องเล่นเกมอย่าง nintendo switch ขายดิบขายดี จนสินค้าขายตลาด เนื่องจากผู้คนซื้อหาไปเล่นในช่วงเก็บตัวอยู่บ้าน
คอมพิวเตอร์
วิกฤตโควิดทำให้ชาวญี่ปุ่นต้องทำงานและเรียนหนังสือที่บ้าน แต่หลายคนไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน เพราะท่องโลกออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเบล็ต ผู้คนจึงหาซื้อคอมพิวเตอร์กันมากขึ้นด้วยความจำเป็นในการใช้งาน ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ต่างระบุว่า คอมพิวเตอร์ขายดีจนขาดตลาด เนื่องจากมีความต้องการซื้อจำนวนมาก แต่สินค้าผลิตไม่ทันเพราะขาดแคลนชิ้นส่วนจากประเทศจีน ที่ห่วงโซ่อุปทานติดขัดจากการระบาดของไวรัสโควิด
ขณะเดียวกัน ธุรกิจซ่อมและทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ก็มีลูกค้าไม่ขาดสายเช่นกัน มีทั้งลูกค้าที่นำคอมพิวเตอร์มาฆ่าเชื้อ และนำคอมพิวเตอร์เก่ามาอัพเกรด เพราะหาซื้อเครื่องใหม่ไม่ได้
ร้านหนังสือ
ไม่เพียงแต่โลกออนไลน์คึกคักยามโควิด แต่ชาวญี่ปุ่นที่เก็บตัวอยู่บ้านก็ใช้เวลาอ่านหนังสือมากขึ้น ร้านหนังสือหลายแห่งไม่สามารถเปิดบริการได้ แต่กาารขายหนังสือทางออนไลน์คึกคักอย่างมาก หลายร้านบอกว่ายอดขายหนังสือดีกว่าช่วงเวลาปกติด้วยซ้ำ
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสะเทือนชีวิตของผู้คนและธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตหรือโอกาส เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้าง “ความปกติใหม่” หรือ New normal ที่ชาวญี่ปุ่นมองว่าอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่.
อ่าน: สำรวจธุรกิจญี่ปุ่น แปรโควิดเป็นโอกาส (1)