รอยเตอร์/MGR Online - สื่อยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นเผย เอ็มยูเอฟจี กรุ๊ป หุ้นใหญ่แบงก์กรุงศรีฯ เตรียมปรับลดพนักงานรวม 8,000 ตำแหน่งภายในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยถือว่าเพิ่มจากเดิมอีก 2,000 ตำแหน่ง เพื่อรักษาผลกำไรจากธุรกิจการปล่อยเงินกู้ที่ถดถอยลง
วันนี้ (26 เม.ย.) มีรายงานจากหนังสือพิมพ์โยมิอุริของญี่ปุ่นว่า มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป หรือ เอ็มยูเอฟจี (MUFG) เตรียมประกาศแผนลดพนักงานอีก 2,000 ตำแหน่งในปีงบประมาณ 2566 (ค.ศ.2023) เพื่อที่จะรักษาระดับกำไรเอาไว้ ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
จากตัวเลขในปี 2560 เอ็มยูเอฟจีถือเป็นผู้ปล่อยกู้รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นหากคิดตามสินทรัพย์ โดยก่อนหน้านี้จากรายงานคาดการณ์ว่าบริษัทจะลดขนาดองค์กรลง 6,000 ตำแหน่ง และจะลดลงอีก 2,000 ตำแหน่งตามปริมาณการจ้างงานใหม่ที่ลดลง
"เป็นเรื่องจริงที่ว่าการตัดลดจำนวนพนักงานนั้นคืบหน้ามากกว่าแผนที่เคยวางเอาไว้" คานะ นากามิตสุ โฆษกหญิงของเอ็มยูเอฟจีระบุ แต่ปฏิเสธว่าการลดจำนวนพนักงานลงมากกว่าที่ประกาศนั้นเป็นแผนของบริษัท
ธนาคารญี่ปุ่นต้องพยายามอย่างหนักในการเพิ่มกำไรภายใต้นโยบายทางการเงินของภาครัฐที่พยายามเสริมสภาพคล่องทางเศรษฐกิจอย่างหนัก โดยอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นของธนาคารกลางญี่ปุ่นนั้นลดต่ำลงเหลือ -0.1% ขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีนั้นก็ลดลงเหลือ 0% แล้ว
ขณะที่ธุรกิจการกู้ยืมเงินตามปกตินั้นกำลังย่ำแย่ รายได้สุทธิของเอ็มยูเอฟจีที่มาจากดอกเบี้ยในช่วง 9 เดือนแรก นับถึงเดือนธันวาคม 2562 นั้นอยู่ที่ 1.38 ล้านล้านเยน ลดลง 4.7% จากปีก่อนหน้า
ด้านคู่แข่งของเอ็มยูเอฟจีอย่าง มิตซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ก่อนหน้านี้ในปี 2560 ระบุว่าจะตัดลดตำแหน่งงานลง 19,000 ตำแหน่งในช่วง 10 ปีข้างหน้า ส่วนซูมิโตโม มิตซุย ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ก็ยืนยันเช่นกันว่าจะปรับลดพนักงานลง 5,000 ตำแหน่งภายในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
อนึ่ง เอ็มยูเอฟจี (MUFG) ปัจจุบันเป็นเจ้าของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY โดยถือหุ้นอยู่มากถึง 76.88%