xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นเผชิญแรงขายกลุ่มโรงไฟฟ้า-สื่อสาร หลังสับสนประสิทธิภาพของยารักษาโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นปิดเช้าลบ 2.99 จุด ตามตลาดภูมิภาคหลังสับสนประสิทธิภาพของยารักษาโควิด-19 เผชิญแรงขายกลุ่มโรงไฟฟ้า-สื่อสาร แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดมีโอกาสที่จะพักตัวบ้างจากแรงขายทำกำไรสลับออกมา

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในลักษณะทรงตัว โดยได้แรงหนุนกลุ่มท่องเที่ยว และโรงแรม เนื่องจากคาดว่าสายการบินจะเริ่มกลับมาบินในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ซึ่งมองว่าเป็นการเทรดบนความคาดหวังไปมากแล้ว ทำให้ upside ค่อนข้างจำกัด อีกทั้งให้ระวังหุ้นที่ถูกผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากผลประกอบการที่คาดว่าจะออกมาไม่ดี และยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่เริ่มเห็นแรงขายทำกำไรจากหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มสื่อสาร

นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไทยรักษาระดับได้ค่อนข้างดี แต่สถานการณ์ยังไม่นิ่งจึงต้องระวังด้วย และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมหลายธนาคารกลาง ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งทำให้อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาก่อนเพื่อรอดูผลประชุมของธนาคารกลางต่างๆ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ทรงตัวในแดนลบ หล้งจากที่สับสนต่อข่าวที่ออกมาว่ายา remdesivir ของ Gilead Sciences ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุในเว็บไซต์เสร็จไม่นานก็มีการลบข้อความนี้ออกไป แต่ตลาดภูมิภาคก็ลดช่วงลบลงได้บ้างหลังจากที่จีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (targeted medium-term lending facility - TMLF) อายุ 1 ปี ลง 0.20% สู่ระดับ 2.95% จากระดับ 3.15% พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องวงเงิน 5.61 หมื่นล้านหยวน (7.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ด้วย

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,269.54 จุด ลดลง 2.99 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.23% มูลค่าซื้อขายราว 35,266 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพลกล่าวว่า ตลาดฯ มีโอกาสที่จะพักตัวบ้างจากแรงขายทำกำไรสลับออกมาเพื่อรอดูการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมด้วยในสัปดาห์หน้าประเด็นการปลดล็อกดาวน์ และรอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่ม Real Sector ด้วย แม้คาดว่างบฯ จะออกมาไม่ดี

พร้อมให้แนวรับ 1,265-1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,280 ถัดไป 1,290-1,300 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น