หุ้นไทยปิดร่วง 13.75 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หลังผิดหวังยารักษาโควิด สัปดาห์หน้าทิศทางตลาดขึ้นกับผลผ่อนคลายล็อกดาวน์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างติดลบ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ติดลบราว 1.5-1.7% แม้แต่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สและราคาน้ำมันฟิวเจอร์สในช่วงบ่ายนี้ต่างก็ติดลบกัน หลังจากที่ผิดหวังยา remdesivir ของ Gilead Sciences ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราก็ยังมีความเสี่ยงจากการลุ้นการผ่อนคลายล็อกดาวน์ด้วย ซึ่งอะไรที่จะยังไม่ผ่อนปรนก็จะถูกขายก่อน และในแง่ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิคของตลาดถือว่าไม่ถูกแล้ว ซึ่งเป็นผลจากแรงซื้อเข้าต่อเนื่องจากนักลงทุนรายย่อยและกองทุนในประเทศที่เป็นผู้ซื้อมาโดยตลอดในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี สัปดาห์หน้าให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งสัปดาห์หน้าก็จะมี SCC, PTTEP เป็นต้น ส่วนปัจจัยนอกประเทศก็ให้ติดตามตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงติดตามการประชุมของหลายธนาคารกลาง ทั้งธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,258.78 จุด ลดลง 13.75 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.08% มูลค่าการซื้อขาย 68,704.56 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 683.96 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 275.70 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,156.04 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 4,115.70 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ทิศทางตลาดขึ้นอยู่กับการผ่อนคลายล็อกดาวน์จะเป็นไปอย่างที่คาดไว้หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ผิดจากที่คิดไว้ตลาดก็มีโอกาสไปต่อ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ปรับลง พร้อมให้แนวรับ 1,220-1,240 จุด ส่วนแนวต้าน 1,300-1,316 จุด