xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นซุกโควิด ไม่ตรวจเชื้อ ไม่คุมเข้ม ส่อระเบิดเหมือนอิตาลี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฝันร้ายกำลังจะมาเยือนแดนอาทิตย์อุทัย เบื้องหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เหมือน “เอาอยู่” คือ ไม่มีการตรวจอย่างกว้างขวาง ผู้ติดเชื้อแอบแฝงจำนวนมากยังใช้ชีวิตตามปกติ ถึงแม้รัฐบาลเตรียมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ยังทำได้แค่ “ขอความร่วมมือ” จนอาจนำไปสู่การล่มสลายของระบบสาธารณสุข

รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไวรัสโควิด-19 ในวันนี้ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งกว่า 300 คนต่อวัน จำนวนผู้ติดเชื้อรวมทั่วประเทศมีมากกว่า 4,100 คน มากยิ่งกว่าประเทศไทย!! แต่รัฐบาลญี่ปุ่นยังใช้มาตรการที่อ่อนกว่าไทยอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นก็ยังใช้ชีวิตไม่ต่างจากเดิม รถไฟหนาแน่น การทำงานที่บ้านยังน้อยมาก

ความน่าสะพรึงที่แท้จริงเห็นได้จากที่ สถานทูตสหรัฐฯประจำโตเกียว ออกคำเตือนในวันที่ 3 เมษายน ระบุว่า “ การตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ไม่ตรวจการติดเชื้ออย่างครอบคลุม ทำให้ยากที่จะรับรู้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19...ทุกวันนี้ เรามั่นใจในระบบสาธารณสุขของญี่ปุ่น แต่เราเชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ยากที่จะประเมินว่า ระบบของญี่ปุ่นจะยังทำงานได้ในหลายสัปดาห์ข้างหน้า”

สถานทูตสหรัฐฯยังเตือนให้พลเมืองอเมริกันรีบตัดสินใจกลับประเทศ ทั้งๆ ที่สถานการณ์ในสหรัฐฯขณะนี้แย่กว่าในญี่ปุ่น น่าจะชี้ว่า สหรัฐฯประเมินว่าญี่ปุ่นจะแย่ยิ่งกว่าในไม่ช้า !!

สถานทูตสหรัฐประจำโตเกียวเตือนสถานการณ์โควิด-19 ในญี่ปุ่น
ตรวจเฉพาะที่จำเป็น ห่วงโรงพยาบาลล้น

ญี่ปุ่นใช้มาตรการที่ต่างไปจากหลายประเทศ คือ ไม่ตรวจหาผู้ติดเชื้อเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังจำกัดตรวจเฉพาะคนที่ “อยู่ในเกณฑ์” ดังต่อไปนี้ คือ 1) มีไข้สูงตั้งแต่ 37.5 องศาขึ้นไป ติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 4 วัน 2) ร่างกายอ่อนเพลีย 3) หายใจลำบาก และสำหรับสตรีมีครรภ์

ผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว ต้องมีอาการดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 2 วัน

แต่ใช่ว่าเมื่ออยู่ในเกณฑ์แล้วจะได้รับการตรวจหาเชื้อได้เลยในทันที แต่ต้องโทร.ปรึกษาและได้รับอนุมัติจาก “ศูนย์ให้คำปรึกษาผู้ติดเชื้อ” ก่อน ศูนย์ฯ จึงจะส่งเรื่องต่อไปยังสถานพยาบาลเฉพาะให้ นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้มีการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาหากผู้ต้องการตรวจไม่แสดงอาการ อีกด้วย

หมายความว่า ตัวเลข “ผู้ติดเชื้อ” ในญี่ปุ่นที่ทางการประกาศออกมานั้น ล้วนแต่เป็นผู้ป่วยที่แสดงอาการค่อนข้างมากแล้วเท่านั้น ไม่ได้รวมคนที่อาการน้อยกว่าในเกณฑ์หรือไม่แสดงอาการ ซึ่งนี่น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นต่ำ

รัฐบาลญี่ปุ่นให้เหตุผลว่า การจำกัดการตรวจหาเชื้อเป็นไปเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โรงพยาบาลล้น เพราะคนจะแห่กันไปตรวจหาเชื้อ บุคลากรทางการแพทย์จะรับมือไม่ไหว

แต่เมื่อตัวเลขดูต่ำทำให้ประชาชนรู้สึกว่า สถานการณ์ไวรัสโคโรนาในญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องน่าหวั่นวิตก ประชาชนจำนวนมากยังคงใช้ชีวิตค่อนข้างปกติ รถไฟแออัด ไปรับประทานอาหารที่ร้าน ไปร้านกาแฟ หรือไปชอปปิ้ง ไปคาราโอเกะได้อย่างเสรี จนทำให้ถึงวันนี้ที่รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มตระหนักว่า “เอาไม่อยู่”!!


อนามัยโลกย้ำ “ต้องตรวจแล้วตรวจอีก”

การเลือกไม่ตรวจหาผู้ติดเชื้ออย่างครอบคลุมของญี่ปุ่น สวนทางกับที่ผู้อำนวยการองค์อนามัยโลก ย้ำว่า ทุกประเทศต้องตรวจเชื้อ กักกัน รักษา ทุกกรณี ซึ่งเป็นแนวทางที่เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอีกหลายประเทศทำเพื่อสกัดโรค

ญี่ปุ่นตัดสินใจ “เดิมพัน” ด้วยการตรวจหาเชื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะรู้ดีว่าระบบสาธารณสุขของตน รองรับไม่ไหว

ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ระบุว่า ญี่ปุ่นต้องการแพทย์ที่มีทักษะเฉพาะทางเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน เพื่อรักษาผู้ป่วยไวรัสโคโรนาที่มีอาการรุนแรง


สมาคมแพทย์ด้านผู้ป่วยภาวะวิกฤตแห่งญี่ปุ่น ได้ออกแถลงการณ์ เปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยไวรัสโคโรนา ที่แตกต่างกันระหว่างเยอรมนีกับอิตาลี

อัตราการเสียชีวิตของเยอรมนีอยู่ที่ร้อยละ 1.1 เมื่อสิ้นเดือนมีนาคม ส่วนอิตาลีที่มีอัตราการเสียชีวิตที่ร้อยละ 11.7 ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะระบบอภิบาลผู้ป่วยภาวะวิกฤต หรือ ไอซียู ของเยอรมนีที่มีคุณภาพสูงกว่า

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม อิตาลียังมีจำนวนเตียงไอซียูต่อประชากร มากกว่าญี่ปุ่นกว่า 2 เท่าตัว

แถลงการณ์เตือนว่า เตียงไอซียูที่โรงพยาบาลในญี่ปุ่นจะเต็มล้นอย่างรวดเร็ว จากผู้ป่วยอาการรุนแรงที่เพิ่มขึ้นราวระเบิดปะทุ

สมาคมแพทย์ยังระบุว่า ต้องมีพยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าตัว สำหรับดูแลผู้ป่วยภาวะวิกฤต และมีแพทย์จำนวนไม่มากนัก ที่สามารถใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด หรือ ECMO

เตียงผู้ป่วยไอซียูในญี่ปุ่นทั้งหมดประมาณ 6,500 เตียง ในจำนวนนี้มีเพียงแค่ราว 1,000 เตียงที่รองรับผู้ป่วยไวรัสโคโรนาได้ และการมีอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้นก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา เพราะเตียงไม่พอ หมอและพยาบาลไม่พอ.


กำลังโหลดความคิดเห็น