สถานทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่นชี้รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างจริงจัง ทำให้ไม่สามารถประเมินจำนวนมีผู้ติดเชื้อที่ถูกต้องได้ พร้อมเตือนให้พลเมืองอเมริกันรีบตัดสินใจกลับประเทศ โดยคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นจะพุ่งสูง จนโรงพยาบาลต่าง ๆ รองรับไม่ไหว
สถานทูตสหรัฐประจำโตเกียวออกคำเตือนด้านสุขภาพในวันที่ 3 เมษายน ระบุว่า “ การตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ไม่ตรวจการติดเชื้ออย่างครอบคุลม ทำให้ยากที่จะรับรู้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19...ทุกวันนี้ เรามั่นใจในระบบสาธารณสุขของญี่ปุ่น แต่เราเชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ยากที่จะประเมินว่า ระบบดังกล่าวจะยังทำงานได้ในหลายสัปดาห์ข้างหน้า”
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในญี่ปุ่นถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับสหรัฐและยุโรป แต่เบื้องหลังคือ รัฐบาลญี่ปุ่น ตรวจหาเชื้อเฉพาะผู้ที่มีอาการรุนแรงแล้วเท่านั้น เช่นต้องมีไข้สูง 37.5 องศาขึ้นไป ติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 4 วัน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก เพราะผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย ไม่ได้รับการตรวจยืนยัน
สถานการณ์เริ่ม “ปิดไม่อยู่” เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากหลักหน่วยเป็นหลักสิบ และล่าสุดมีผู้ติดเชื้อใหม่มากกว่า 300 คนต่อวัน
สถานทูตสหรัฐประเมินว่า ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ญี่ปุ่นจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนระบบสาธารณสุขรับไม่ไหว จึงเรียกร้องให้ชาวอเมริกันที่อยุ่ในญี่ปุ่น “ตัดสินใจกลับประเทศในทันที” ไม่เช่นนั้นอาจต้องติดอยู่ในต่างประเทศอย่างไม่มีกำหนด พร้อมระบุว่า ชาวอเมริกันที่มีโรคประจำตัวอาจไม่ได้รับการรักษาพยาบาลได้เหมือนที่เคยเป็นมา เนื่องจากโรงพยาบาลในญี่ปุ่นอาจเต็มล้นไปด้วยผู้ป่วยโควิด-19
สถานทูตสหรัฐประจำโตเกียวเตือนว่า ณ วันที่ 3 เมษายน เที่ยวบินระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐ ยังเหลืออยู่แค่ร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงปกตคิ และไม่อาจจะคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และสันนิษฐานว่าญี่ปุ่นจะจำกัดการเข้าประเทศ และเที่ยวบินจะลดลงอย่างมาก จนทำให้ชาวอเมริกันไม่สามารถกลับประเทศได้
การที่สถานทูตสหรัฐออกแถลงการณ์เช่นนี้ ถือว่า “ไม่ปกติอย่างยิ่ง” และ “ไม่ไว้หน้า” ชาติพันธมิตรสำคัญอย่างญี่ปุ่น แต่ก็สะท้อนถึงการประเมินสถานการณ์ของสหรัฐ ที่ไม่เชื่อในแนวทางของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่ไม่ยอมตรวจหาผู้ติดเชื้ออย่างกว้างขวางเหมือนในหลายประเทศ จนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไม่สะท้อนความเป็นจริง ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ในญี่ปุ่นหนักหนาสาหัสกว่าที่เห็นมากมากนัก.
