ความวิตกเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 ลุกลามทั่วโลก ในญี่ปุ่นไม่เพียงแค่หน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ขาดแคลน แต่ยังรวมถึงกระดาษชำระ กระดาษเช็ดมือ ผ้าอ้อมเด็ก จนถึงผ้าอนามัย ก็ถูกแห่ซื้อกักตุน มาตรการทั้งไม้แข็งและไม้อ่อนของรัฐบาลก็ไม่อาจหยุดยั้งความตระหนกของชาวญี่ปุ่น
ชั้นสินค้าในร้านต่างๆ ในญี่ปุ่นว่างเปล่า หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ขาดแคลนนานกว่า 2 เดือนแล้ว ขณะนี้ผ้าก็อช ปรอทวัดไข้ สบู่ล้างมือ รวมถึงยาฆ่าเชื้อทุกประเภทก็เริ่มหาไม่ได้ ต้องใช้น้ำยาซักผ้าขาวไฮเตอร์ผสมน้ำเพื่อฆ่าเชื้อโรคแทน ส่วนกระดาษชำระ ทิชชู จนถึงผ้าอ้อมเด็กและผ้าอนามัยก็เริ่มถูกกว้านซื้อเช่นกัน จนต้องจำกัดจำนวนซื้อ ทั้งๆ ที่เชื้อไวรัสไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับประจำเดือนและปัสสาวะเด็กเลย
นอกจากนี้ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้โรงเรียนทั่วประเทศหยุดเรียนล่วงหน้า 3 สัปดาห์ ทำให้บรรดาผู้ปกครองต้องเตรียมอาหารไว้ให้ลูกๆ ที่อยู่บ้าน ทำให้อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋องก็ถูกกว้านซื้อเช่นกัน
การขาดแคลนสินค้าหลายอย่างในญี่ปุ่นหลายอย่าง เช่น หน้ากากอนามัย และยาฆ่าเชื้อ เข้าใจได้ว่าเกี่ยวข้องกับการระบาดของเชื้อไวรัส แต่หลายกรณีก็เกิดจากข่าวลือ เช่น กระดาษทิชชู ที่มีผู้เผยแพร่ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ว่า “ทิชชูจะขาดแคลนเพราะเยื่อกระดาษนำเข้าจากจีน” ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเยื่อกระดาษกว่าร้อยละ 98 ผลิตในญี่ปุ่น
นายกฯ ชินโซ อาเบะ ถึงกับประกาศเองว่าอย่าเชื่อข่าวลือ ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับต้นตอผู้ปล่อยข่าวลือ สื่อมวลชนต่างๆ พากันนำเสนอว่ามีสินค้าเต็มโกดัง ไม่ขาดแคลนแน่นอน! แต่จนถึงทุกวันนี้ชาวญี่ปุ่นก็ยังพากันกักตุนของต่างๆ อยู่ จนร้านค้าต่างๆ ต้องจำกัดการซื้อคนละ 1 ชิ้นเท่านั้น
แม้แต่นายกฯ และสื่อมวลชน ก็ไม่อาจหยุดยั้งความตระหนกของชาวญี่ปุ่นได้?
ภัยพิบัติทำคนญี่ปุ่นเตรียมพร้อมตลอดเวลา
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ประสบภัยพิบัติบ่อย ทั้งแผ่นดินไหว คลื่นสึนามิ ภูเขาไฟปะทุ และพายุไต้ฝุ่น ชาวญี่ปุ่นจึงอ่อนไหวกับภัยพิบัติอย่างยิ่ง และตระหนักว่าต้องเตรียมพร้อมเสมอ คำว่า “โบไซ” 防災หรือ “ป้องกันภัย” อยู่ในวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นทั้งแต่โรงเรียนชั้นประถม มัธยม จนถึงสถานที่ทำงาน หน่วยราชการทุกท้องถิ่น ต่างมีการซ้อมรับมือภัยพิบัติอยู่เป็นประจำ
บริษัทของญี่ปุ่นและหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชน ล้วนต้องจัดตั้ง “แผนกป้องกันภัยพิบัติ” มีงบประมาณสำหรับจัดซื้ออุปกรณ์ และสำรองอาหารและสิ่งของต่างๆ เตรียมเอาไว้เสมอ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่เตรียมไว้ก็ต้องมีการตรวจสอบตามกำหนดเวลา นี่เป็นลักษณะพิเศษของญี่ปุ่นที่ประเทศอื่นแทบไม่มี
ในปี 1973 ซึ่งเกิดวิกฤตการณ์น้ำมันโลก ชาวญี่ปุ่นก็พากันกักตุนสิ่งของต่างๆ แบบเดียวกัน หรือในช่วงเหตุสึนามิถล่มและนิวเคลียร์รั่วไหลที่ฟูกูชิมะ ปี 2011 สินค้าในญี่ปุ่นก็ถูกกวาดซื้อจนเกลี้ยง ในครั้งนั้นภัยพิบัติทำให้การคมนาคมถูกตัดขาด ไฟฟ้าดับจนโรงงานทำการผลิตไม่ได้
แต่ครั้งนี้เป็นภัยพิบัติจากสิ่งที่มองไม่เห็นอย่าง “เชื้อโรค” เป็นภัยที่ชาวญี่ปุ่นไม่เคยเผชิญมาก่อน ยิ่งเมื่อมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลแทบจะไม่ประจักษ์ผลอันใด หน้ากากอนามัยยังขาดแคลนมานานกว่า 2 เดือน ชาวญี่ปุ่นจึงยิ่งเชื่อว่า สิ่งของต่างๆ จะยิ่งขาดแคลนแน่นอน ตามการระบาดของไวรัสทั่วโลก
การกักตุนสินค้าของชาวญี่ปุ่น บางครั้งไม่ใช่เพราะว่าขาดแคลนสินค้าจริงๆ แต่เพราะความคิดเรื่อง “รับมือภัยพิบัติ” ฝังในจิตสำนึกของชาวญี่ปุ่น หรือในบางกรณีสินค้าบางอย่างขาดแคลนอยู่บ้าง แต่ด้วยความตื่นตัวของชาวญี่ปุ่นก็ยิ่งขยายสถานการณ์ไปกว่าความเป็นจริงทำให้มีการกักตุนสินค้าหนักข้อขึ้น
ความอ่อนไหวต่อภัยพิบัติของชาวญี่ปุ่น ทำให้มีการเตรียมพร้อมเพื่อลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด และไม่เกิดความวุ่นวายจนเป็นจลาจลเหมือนหลายประเทศ แต่บางครั้งก็อ่อนไหวเกินควรจนกลายเป็นตระหนก เชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิด เชื่อในข่าวปล่อย มากยิ่งกว่าสิ่งที่รัฐบาลหรือสื่อมวลชนประกาศ ทำให้การกักตุนสินค้าสารพัดอย่างในญี่ปุ่นยังไม่ยุติลงจนถึงขณะนี้