รัฐบาลญี่ปุ่นประเมินว่า หากภูเขาฟูจิเกิดการปะทุครั้งใหญ่ อาจทำให้มีเถ้าภูเขาไฟปกคลุมทั่วกรุงโตเกียวและพื้นที่ปริมณฑล และอาจทำให้การจ่ายไฟฟ้า และการจราจรเป็นอัมพาตได้
นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำต่างออกมาเตือนว่า ภาวะโลกร้อนจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และภูเขาไฟระเบิด เนื่องจากอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้นทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย เมื่อน้ำแข็งละลายก็ไร้หมุดยึดทับแผ่นเปลือกโลก แผ่นโลกขยับทำให้แผ่นดินไหวมากขึ้น และแมกม่าใต้ดินไหลเคลื่อนรวมตัว จนรอแรงดันระเบิดออกที่ใดที่หนึ่ง
ภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ที่นิ่งมานาน 300 ปี จึงไม่ได้สงบอย่างที่ใครเห็น แต่ยังคงเป็นภูเขาไฟที่มีพลัง (Active volcano) ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นระบุว่า ภูเขาฟูจิจะปะทุอีกแน่นอน แต่ยังไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ตาม
คณะทำงานหนึ่งของรัฐบาลญี่ปุ่นประมาณการณ์ว่า หากภูเขาฟูจิเกิดการปะทุครั้งใหญ่ ก็อาจมีเถ้าภูเขาไฟตกสะสมชั่วโมงละ 1-2 เซนติเมตรในเมืองโกเต็มบะของจังหวัดชิซูโอกะซึ่งอยู่ใกล้เชิงเขา และเถ้าภูเขาไฟทับถมทั้งหมดที่นั่น อาจสูงถึง 1.2 เมตร
ในเขตชินจูกุของกรุงโตเกียว ซึ่งห่างจากภูเขาฟูจิราว 90 กิโลเมตร ถึงแม้จะไม่มีเถ้าภูเขาไฟทับถมในทันที แต่จะปลิวมาถึงในวันที่ 13 หลังการปะทุ และอาจมีเถ้าภูเขาไฟทับถมรวม 1.3 เซนติเมตร
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากเถ้าภูเขาไฟตกในกรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ ผู้คนจำนวนมากอาจไม่สามารถกลับบ้านได้ นอกจากนี้การขนส่งอาหารและของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันอื่น ๆ อาจหยุดชะงักลง โดยหากมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นด้วย อาจมีผู้เสียชีวิตหลายพันคน เป็น "มหาภัยพิบัติ" ครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนอาทิตย์อุทัย
ในอดีตบรรดาเทศบาลต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบภูเขาฟูจิ หลีกเลี่ยงการหารือเรื่องแผนการป้องกันภัยพิบัติ เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกกับชุมชนที่อยู่โดยรอบ แต่หลังจากภูเขาฟูจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก เมื่อปี 2556 นักท่องเที่ยวและนักปีนเขาที่มาเยือนภูเขาฟูจิมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หน่วยงานต่าง ๆ จึงต้องร่างมาตรการด้านความปลอดภัยขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นกล่าวว่า ภูเขาไฟสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากหากเกิดปะทุขึ้นมา แต่เมื่อดูในระยะยาวแล้ว ภูเขาไฟสร้างคุณประโยชน์ให้มากมาย เช่น ทัศนียภาพอันงดงามตระการตา, น้ำใต้ดินที่มีอย่างบริบูรณ์ และพื้นที่เชิงเขาขนาดใหญ่ ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย
ช่วงที่ภูเขาไฟปะทุนั้นเป็นช่วงที่สั้นมากเมื่อเทียบกับช่วงที่สงบ ถ้ามีการเตรียมพร้อมและดำเนินมาตรการรับมือที่เพียงพอ บรรดานักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัยในบริเวณรอบภูเขาก็จะเพลิดเพลินไปกับความงดงามภูเขาไฟได้อย่างปลอดภัย
ความกังวลเรื่องภูเขาไฟฟูจิจะปะทุอีกครั้งนั้น สามารถรับมือได้ด้วยการเตรียมพร้อมแผนภัยพิบัติ และการทำให้ผู้คนตระหนักถึงอันตรายของภูเขาไฟ แต่ ไม่ตระหนก ประชาชนควรเตรียมพร้อมต่อการปะทุที่อาจเกิดขึ้น แต่ก็ยังคงชื่นชมทัศนียภาพ และใช้ประโยชน์จากภูเขาไฟได้.
