ย่าน Asakusa ,Ueno นั้นนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทุกมุมโลก เพราะอยู่ใกล้สนามบินทั้งสองแห่ง มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งวัด ศาลเจ้า แหล่งช้อปปิ้ง สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ชั้นนำต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวดังๆ ที่ทุกคนต้องรู้จักเป็นอย่างดี เช่น
●วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) หรือวัดโคมแดง วัด Asakusa ที่ทุกคนรู้จักดี เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว สัญลักษณ์ที่โดดเด่นของที่นี่คือ ที่ประตูทางเข้าจะมีโคมแดงยักษ์ เมื่อเดินเข้าไปตามทางถนนนากามิเสะซึ่งจะมีร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย เพลินจนลืมเวลา ในวัดสามารถสักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และเจ้าแม่กวนอิม เมื่อเสร็จแล้วยังแวะไปเดินช้อปปิ้งต่อ รอบๆ วัดได้อีก หรือถ้าสนใจดูละครโบราณก็มีให้เลือกชม หรือสนใจเข้าสวนสนุกย้อนยุค Hanayashiki หรือทำกิจกรรมมากมาย แม้แต่สายชิลจะชวนกันไปนั่งเล่นในสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำซุมิดะก็ได้ สวนแห่งนี้มีความสวยงามมาก และที่สำคัญใกล้กับแลนด์มาร์คอย่าง Tokyo skytree ด้วย นอกจากนั้นยังมีอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ มากมายและมีแหล่งอาบน้ำแร่ออนเซนด้วย พักค้างคืนที่นี่สักหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นนั่งรถไฟไปเที่ยวนิกโกต่อได้เลย
ส่วนการเดินทางไป Asakusa นั้น สะดวกสบายมาก เพราะมีรถไฟและรถไฟใต้ดินหลายสาย รถไฟสายต่างๆ ที่สามารถพามาถึงสถานี Asakusa ได้นั้นในโตเกียวมี 4 เส้นทาง คือ Tokyo Metro Ginza Line, Toei Subway Asakusa Line, Tsukuba Express และ Tobu Railway
●ย่าน Ueno มีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อแนะนำบริเวณอุเอโนะมากมาย เช่น สวนสัตว์อุเอโนะ , สวนสาธารณะอุเอโนะที่ขึ้นชื่อมากสำหรับการชมซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ,ตลาดอะเมโยโกะ ที่มีของขายมากมายให้เลือกสรร และมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารของใช้แบบตลาดสดแบบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย , หรือถ้าใครชอบศิลปะ พิพิธภัณฑ์ ต้องไป พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติโตเกียว หรือพิพิธภัณฑ์ศิลปะมหานครโตเกียว เป็นต้น
●ส่วน Nikko เป็นเมืองมรดกโลก งดงามสถาปัตยกรรม เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดโทจิกิที่ไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียวก็ได้แค่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง จากสถานี Asakusa ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของ Nikko แล้วหล่ะก็ใครๆ ก็คงจะนึกถึง「Nikko Toshogu」ในบริเวณนี้นอกจากศาลเจ้าโทโชกุ ก็มี วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple), สวนญี่ปุ่นโซโยเอ็น (Shoyo-en) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆ กัน สำหรับคนญี่ปุ่น Toshogu Shrine, น้ำตกKazen และทะเลสาป Chuzenji ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดโทชิกิ(นิกโก้) การเดินทางนั้นไม่ยากเลย เมื่อมาถึง Asakusa แล้ว นั่งรถต่อได้เลยง่ายแบบไปเช้าเย็นกลับก็ยังได้ (ซึ่งการเดินทางจาก Asakusa ไปนิกโกโดยใช้รถไฟด่วน spaceia นั้นขึ้นที่ต้นทางจาก Asakusa ได้โดยตรง ปกติแล้วจากโตเกียวไปเที่ยวนิกโกโดยรถไฟนั้นสามารถเดินทางได้ 2 วิธีคือ เดินทางจากต้นทางอาซากุสะและเดินทางจากต้นทางชินจูกุ )
ที่ Nikko มี 2 สถานี คือ สถานี Tobu nikko และสถานี JR Nikko อยู่ใกล้ๆ กัน ด้านหน้าสถานีมีมีร้านค้าและจุดจอดรถโดยสารประจำทาง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่ารถแต่ละสายจะพาไปเที่ยวไหนได้บ้าง แต่ถ้าเป็นขาชิล ชอบเดินชมธรรมชาติและบ้านเมือง สามารถเดินไปเที่ยวแหล่งมรดกโลกอย่าง Nikko toshogu (ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ) จากสถานี Tobu nikko ได้ แค่ประมาณ 15 นาทีเท่านั้น
รถไฟสายที่ไป Nikko จาก Asakusa นั้นชื่อว่า รถไฟด่วนพิเศษ「Tokkyu specia limited express」特急スペーシアเป็นรถด่วนที่เร็วและสะดวกสบายมาก รถไฟ "Express Spaceia" เป็นชื่อเรียกของรถไฟสายโทบุ ที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างโตเกียวกับนิกโก ในเส้นทางที่ผ่านแม่น้ำคินุกาวะ รถไฟ "Express Spaceia" แบ่งออกเป็น 2 สาย คือ "Express Spaceia : Kegon สายนี้วิ่งถึงปลายทาง/และออกจากสถานีโทบุนิกโก ส่วน "Express Spaceia : Kinu" เป็นรถไฟที่วิ่งไปถึงสถานีคินุกาวะออนเซ็น แต่ถ้าจะไปที่สถานีนิกโกต้องเปลี่ยนรถเมื่อถึงสถานี Shimoimaichi
โดยสามารถสังเกตง่ายๆ ที่ขบวนรถนั้นจะมีการออกแบบรูปโตเกียวสกายทรีที่ด้านนอกของตู้รถไฟด้วย ที่นั่งเป็นเบาะนุ่มหุ้มกำมะหยี่น่านั่งมาก สามารถปรับเป็นแบบนั่งคู่หรือหันหน้าเข้าหากันแบบ 4 คนก็ได้ เพิ่มความเป็นส่วนตัวในทีมของเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี ในขบวนรถไฟนี้มีตู้เสบียงที่ให้บริการจำหน่ายเครื่องดื่มและอาหารเพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อหาเมื่อใดก็ได้ และถ้าต้องการซื้อของที่ระลึกก็สามารถเพลิดเพลินไปกับของที่วางขายในตู้เสบียงนี้ และมีของที่ระลึกเกี่ยวกับรถไฟขบวนนี้ด้วย
การซื้อตั๋วสามารถซื้อได้ 4 ช่องทาง คือ
①ลงทะเบียนเป็นสมาชิกในอินเตอร์เนตบนมือถือของบริษัทรถไฟ Tobu Railway
เป็นบริการสำหรับสมาชิกเท่านั้นนี่คือบริการที่สะดวกสบายโดยไม่จำเป็นต้องแลกตั๋ว จะสามารถใช้สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกในการซื้อตั๋วผ่านทาง Online ได้ การจองและซื้อตั๋วผ่านทาง Online นั้นไม่จำเป็นต้องไปแลกตั๋วที่สถานีอีก จึงทำให้สะดวกสบายมาก
② จองตั๋วผ่านทางอินเตอร์เนตและไปรับตั๋วที่สถานีรถไฟ Tobu Railway หรือที่บริษัทTobu Travel ก่อนเดินทาง
③ ซื้อผ่านทางช่องขายตั๋วที่สถานีรถไฟ
สถานี Asakusa Tobu ก็ได้ แต่ถ้ากลัวว่าวันที่จะเดินทางจะไม่มีที่นั่งก็สามารถไปจองล่วงหน้าได้เช่นกัน
④ ซื้อตั๋วผ่านทางช่องขายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟนั่นเอง
※สถานีรถไฟ Tobu Asakusa
เวลาเปิด-ปิดบริการ:บริการตั้งแต่รถไฟขบวนแรกถึงรถไฟขบวนสุดท้าย
วันหยุด:ไม่มี
Wi-Fi:-
แค่สามที่เที่ยวชิลๆ ที่เอาใจสายช้อปและแสวงบุญ ก็ต้องลองดูสักครั้งให้ได้