xs
xsm
sm
md
lg

เก้าอี้มนุษย์(ตอนที่ 3)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บทประพันธ์ของ เอะโดะงะวะ รัมโปะ
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์ อัศวเสนา

ตอนที่ 3

โรงแรมนี้ก็เหมือนแห่งอื่นๆ คือมีคนเข้าออกไม่ซ้ำหน้ากันแทบทุกวันบ้างก็เข้าพักบ้างกลับออกไปบ้าง ในจำนวนนั้นมีอยู่เหมือนกันที่พักอยู่นานถึงเดือนหรือสองเดือน ดังนั้นคู่พิศวาสประหลาดล้ำของผมจึงเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามกาลเวลาโดยไม่มีทางที่จะหยุดยั้งเอาไว้ได้ ทราบไหมว่าความทรงจำเกี่ยวกับคู่พิศวาสประหลาดเหลือของผมนั้นไม่ได้อยู่ในภาพลักษณ์ของรูปทรงองค์เอวเช่นคนรักของคนทั่ว ๆ ไป แต่สิ่งที่สลักลึกอยู่ในใจของผมส่วนใหญ่จะเป็นกรอบโครงร่างของเจ้าหล่อนที่ประทับลงมาประชิดติดกายให้ผมสัมผัสและวาดภาพ

บางคนร่างกายปราดเปรียวเด็ดเดี่ยวกล้ามเนื้อแน่นแข็งแรงราวกับลูกม้า บางคนร่างอ่อนนิ่มระทดระทวยเอี้ยวบิดไปมาได้ตามใจเหมือนงูสาวพราวเสน่ห์ บางคนอวบอ้วนสมบูรณ์ เนื้อตัวอุดมไปด้วยไขมันไปเสียทุกส่วน กระเด้งขึ้นลงราวกับลูกบอลยางขนาดใหญ่ บางคนโครงร่างประกอบขึ้นมาด้วยมัดกล้ามที่เติบโตสมบูรณ์เต็มที่เหมือนปฏิมากรรมกรีกที่เกร็งแกร่งแข็งตรง

นอกจากนั้นแล้วยังมีอีกหลากหลายรูปทรง แต่ทุกคนล้วนมีจุดเด่นที่มีเสน่ห์ประทับใจผมทั้งสิ้น

ระหว่างที่ผู้หญิงคนแล้วคนเล่าสับเปลี่ยนกันมานั่งบนผมนั้นเอง ผมก็ได้ลิ้มรสประสบการณ์อันแปลกประหลาดอื่น ๆ ที่ต่างจากที่เคยพบมาแล้วเหล่านั้นในช่วงต่อมา
เก้าอี้มนุษย์
เหตุการณ์หนึ่งในจำนวนนั้นคือ อยู่มาวันหนึ่งท่านทูตของประเทศมหาอำนาจในยุโรปชาติหนึ่ง (ผมได้ยินมาจากที่พวกบ๋อย โรงแรมกระซิบบอกกัน) ทิ้งร่างใหญ่มโหฬารของเขาลงมาบนตักผม จากที่ได้ยินมาคน ๆ นี้ไม่ใช่นักการเมืองแต่เป็นกวีเอกผู้มีชื่อเสียงระดับโลก เด่นดังขนาดที่ใคร ๆ รู้จักกันทั้งนั้น แค่นี้ผมก็ภูมิใจจนบอกไม่ถูกแล้วที่ได้มารู้จักเขาอย่างสนิทเนื้อแนบชิดขนาดนี้ จิตใจเพริดแพร้วระริกระรัวไปหมด กวีเอกนั่งพูดคุยกับคนชาติเดียวกันสองสามคนอยู่บนตักผมราว 10 นาทีก็ลุกไป แน่นอนว่าผมไม่รู้เรื่องที่เขาคุยกันเลยสักนิด แต่ความรู้สึกเหมือนจั๊กจี้เมื่อมีแรงกระเทือนถ่ายทอดลงมาเวลาเขาขยับตัวหยุกหยิกทุกครั้งที่ออกท่าออกทางเวลาพูด และสัมผัสของกายตัวที่อบอุ่นกว่าคนธรรมดานั้น กระตุ้นให้เกิดอะไรบางอย่างที่ประหลาดลึกล้ำเกิดคำบรรยายขึ้นในใจผม

ตอนนั้น อยู่ ๆ ผมก็เกิดจินตนาการขึ้นมาว่า ถ้า...ถ้าผมใช้มีดแหลมคมกริบพุ่งแทงอย่างสุดแรงผ่านแผ่นหนังเข้าไปทะลุหัวใจของเขา อะไรจะเกิดขึ้น ใช่...เขาจะต้องตายคาที่ลุกขึ้นมาอีกไม่ได้แน่นอน เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้นอกจากประเทศบ้านเกิดของเขาซึ่งย่อมตื่นตระหนกเป็นธรรมดาแล้ว วงการเมืองของญี่ปุนเองก็จะต้องสับสนวุ่นวายกันไปทั่วเลยทีเดียว หนังสือพิมพ์จะเขียนข่าวให้คนอ่านสยองขวัญกันขนาดไหน ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศของกวีเอกผู้นี้จะต้องได้รับความกระทบกระเทือนอย่างใหญ่หลวง ทั้งเมื่อมองในแง่ของศิลปะวัฒนธรรม การตายของเขาเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ระดับโลกแน่นอน ผมอยู่ในฐานะที่สามารถสร้างเหตุการณ์สำคัญขนาดนั้นให้เป็นจริงขึ้นมาด้วยมือตนเองได้ง่ายดาย เมื่อคิดขึ้นมาดังนั้น ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผยองขึ้นมาอย่างประหลาด

นั่นก็เรื่องหนึ่ง แล้วยังมีอีกเรื่องคือเมื่อนักเต้นรำผู้มีชื่อเสียงของประเทศหนึ่งเดินทางมาญี่ปุ่น และก็บังเอิญที่เจ้าหล่อนเข้าพักในโรงแรมแห่งนั้น เธอมานั่งบนเก้าอี้ผมเพียงครั้งเดียว และครั้งเดียวนั้นเองได้ทำให้ผมเกิดความรู้สึกเช่นเดียวกับคราวที่ท่านทูตผู้นั้นมานั่ง ทั้งยังมอบสัมผัสในความงดงามของเนื้อหนังมังสาที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างที่ผมไม่เคยพบมาก่อน ความงามนั้นเลิศเลอเกินกว่าที่จะทำให้ผมมีเวลาคิดอะไรที่ต่ำทราม เพราะได้แต่เคลิบเคลิ้มไปกับอารมณ์สุนทรีย์เช่นเดียวกับเวลาชมผลงานจิตรกรรมอันล้ำค่าควรแก่การเทิดทูน

ในที่สุดสถานภาพของผมก็เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่มาอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ได้หลายเดือน เมื่อผู้บริหารโรงแรมเดินทางกลับประเทศด้วยเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยได้โอนกิจการให้บริษัทของคนญี่ปุ่นแห่งหนึ่งเข้ามาบริหารแทน ทีนี้พอเข้ามาบริหารกิจการบริษัทของคนญี่ปุ่นก็ปรับเปลี่ยนนโยบายจากเดิมที่เป็นโรงแรมหรูสำหรับบุคคลชั้นสูงไปเป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่นสำหรับคนทั่ว ๆ ไป ด้วยวิสัยทัศน์การบริหารกิจการที่จะอำนวยผลประโยชน์ที่ดีขึ้น ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้บริษัทเครื่องเรือนรายใหญ่แห่งหนึ่งเข้ามาจัดการพวกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ต้องการใช้ ทางบริษัทเครื่องเรือนจึงจัดการประมูลขายเลหลังและเก้าอี้ผมก็อยู่ในรายการประมูลด้วย

พอรู้เรื่องนี้ผมก็ใจเสียไประยะหนึ่ง แต่ไม่นานก็ถึงกับทำใจได้เมื่อคิดว่านั่นเป็นโอกาสที่ผมจะกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งในโลกอันอลวนนี้ เมื่อมาถึงตอนนั้นผมสะสมเงินที่ได้จากการลักขโมยไว้มากพอดูแล้ว ถึงจะกลับไปให้ชีวิตตามปกติก็ไม่ต้องอยู่อย่างยากจนค่นแค้นเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งเมื่อมองย้อนกลับไปก็ได้คิดว่าการต้องออกจากโรงแรมของคนต่างชาติไปเช่นนี้ทำให้ต้องผิดหวังมาก แต่ในเวลาเดียวกันก็มีความหมายมากด้วยเพราะทำให้ผมมีความหวังใหม่ขึ้นมาอย่างหนึ่ง คืออย่างนี้ครับ

...ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แม้ผมจะตกหลุมรักผู้หญิงมากหน้าหลายตามาแล้วขนาดนั้น แต่เจ้าหล่อนทุกคนล้วนเป็นชาวต่างชาติต่างภาษา ดังนั้นไม่ว่าเจ้าของเนื้อหนังมังสาจะเป็นผู้หญิงเลิศเลอน่าพิสมัยเพียงใด ผมก็ยังอดรู้สึกไม่อิ่มอกอิ่มใจอย่างไรไม่รู้ ก็นั่นแหละครับ คนญี่ปุ่นถ้าไม่ใช่คนญี่ปุ่นด้วยกันแล้วจะให้ไปรู้สึกรักจริงจังได้อย่างไร ขณะที่ผมเริ่มคิดทำนองนั้นมากขึ้นทุกที ก็พอดีถึงวันที่เก้าอี้ผมถูกนำออกประมูลขายเลหลัง คราวนี้อาจมีคนญี่ปุ่นมาซื้อไปแล้วผมก็จะได้ไปตั้งอยู่ในบ้านคนญี่ปุ่นเสียที นั่นคือความหวังใหม่ของผมครับ และผมก็คิดที่จะใช้ชีวิตอยู่ในเก้าอี้ตัวนี้ดูต่อไปอีกสักพัก

ช่วง 2-3 วันที่ผมถูกวางอยู่หน้าร้านเครื่องเรือนนั้นผมอึดอัดเป็นที่สุด แต่พอการประมูลเริ่มขึ้นผมก็ต้องดีใจมากเพราะมีคนซื้อเก้าอี้ผมทันที เพราะถึงจะเก่าแต่ก็เป็นเก้าอี้ที่มีสง่าราศรีจับผู้คนพอควรเลยทีเดียว

คนซื้อคือข้าราชการคนหนึ่งอาศัยอยู่ในมหานครไม่ไกลจากเมือง Y เท่าไรนัก ตอนที่ถูกขนจากร้านเครื่องเรือนขึ้นรถบรรทุกไปไม่รู้ว่ากี่กิโลจนถึงบ้านคนซื้อนั้น แรงสั่นสะเทือนของรถที่วิ่งตะบึงไปตามทางทำให้ผมทรมานเกือบตายจากการถูกกระแทกกระทั้นอยู่ในเก้าอี้ แต่นั่นเป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกินเพื่อเทียบกับดีใจที่คนซื้อเป็นคนญี่ปุ่นตามที่ผมปรารถนา

ข้าราชการที่ซื้อเก้าอี้ผมไปอยู่คฤหาสน์ใหญ่โตสง่างามไม่น้อย เก้าอี้ผมถูกยกเข้าไปตั้งไว้ในห้องเขียนหนังสือที่กว้างใหญ่ในเรือนฝรั่ง แต่ที่ผมพอใจเป็นอย่างยิ่งก็คือคนใช้ห้องเขียนหนังสือนั้นส่วนใหญ่ไม่ใช่เจ้าของบ้าน แต่เป็นคุณนายสาวสวยของบ้าน
บรรยากาศห้องเขียนหนังสือที่เรือนฝรั่ง
ตั้งแต่นั้นมา ช่วงประมาณ 1 เดือนผมได้อยู่กับคุณนายตลอดเวลา ร่างนุ่มนิ่มอ่อนละมุนของคุณนายอยู่บนตักผมยกเว้นแค่เวลาอาหารกับเวลานอนเท่านั้น ทั้งนี้เพราะคุณนายกำลังขะมักเขม้นอยู่กับการแต่งบทประพันธ์อยู่ในห้องเขียนหนังสือตลอดเวลานั่นเอง

อย่าให้ผมบรรยายตรงนี้เลยว่าผมรักเธอแค่ไหน คนฟังจะเบื่อเสียเปล่า ๆ เอาเป็นว่าเธอเป็นคนญี่ปุ่นคนแรกที่ผมได้สัมผัสทั้งยังเป็นผู้หญิงที่มีเรือนร่างงดงามพอดู และตรงนี้เองที่ผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความรักที่แท้จริงเป็นครั้งแรก เมื่อเทียบกันแล้วประสบการณ์หลากหลายที่ผมผ่านพบที่โรงแรมไม่สมควรกับคำความรักเลยแม้แต่รายเดียว สิ่งที่เป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีก็คือความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณนายบ้านนี้เป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยมีมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว คือผมไม่พอใจกับความหรรษาจากการสัมผัสลูบคลำอยู่ลับ ๆ เพียงอย่างเดียว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าตนเองกระวนกระวายใจ เป็นทุกข์อยู่กับความอยากออกมาแสดงตัวอย่างเหลือเกิน

หากเป็นไปได้ ผมปรารถนาที่จะให้คุณนายรู้สึกด้วยว่ามีผมอยู่ในเก้าอี้ตัวนี้ และอาจฟังดูเป็นการเอาแต่ใจตัวมาก ๆ ถ้าจะบอกว่าอยากให้คุณนายมีใจรักตอบผมด้วย แต่ผมจะส่งสัญญาณออกไปอย่างไรดีเล่า ถ้าเปิดเผยออกไปตรง ๆ ว่ามีมนุษย์ซ่อนตัวอยู่ในนี้ เธอจะต้องตกใจสุดขีด และวิ่งเตลิดออกไปแจ้งสามีและพวกคนรับใช้แน่นอน แล้วทุกอย่างก็จะล้มเหลวลงอย่างสิ้นเชิง หลังจากนั้นผมจะถูกจับกุมด้วยข้อหาที่มีชื่อคดีที่น่ากลัวเป็นที่สุดและต้องรับโทษทัณฑ์ตามกฎหมาย

เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมจึงตั้งใจว่าอย่างน้อยที่สุดก็จะพยายามทำให้คุณนายรู้สึกสบายเป็นที่สุดเมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ผม ศิลปินอย่างเธอจะต้องมีความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนกว่าคนธรรมดาแน่นอน และถ้าคุณนายเพียงแต่รู้สึกได้ถึงความมีชีวิตของเก้าอี้ผมตัวนี้ รู้สึกรักมันไม่ใช่แค่ความเป็นวัตถุ แต่รักด้วยความรู้สึกที่มีต่อสิ่งมีชีวิตเท่านั้น ผมก็จะพอใจอย่างไม่มีอะไรจะเปรียบปาน

เวลาที่เธอทรุดตัวลงนั่งบนตัก ผมจะตั้งใจทำตัวให้นุ่มนวลต้อนรับเธอด้วยความอ่อนโยนเป็นที่สุด เวลาที่เธอเหน็ดเหนื่อยอยู่บนตัก ผมจะไหวตัวน้อย ๆ พอให้ไม่รู้สึกผิดปกติเพื่อให้เธอได้เปลี่ยนท่านั่งเสียบ้าง และเวลาที่เธอทำท่าว่าจะเคลิ้มหลับ ผมก็จะทำหน้าที่เป็นเปล ไหวตักเบา ๆ เบาที่สุดให้เธอหลับสบาย

การปรนนิมัติอย่างสุดหัวใจของผมได้รับการปูนบำเหน็จรางวัลหรือว่าผมหลงละเมอไปเอง คือระยะนี้รู้สึกว่าคุณนายดูจะรักเก้าอี้ผมขึ้นมายังไงไม่รู้ เธอทรุดตัวลงให้เก้าอี้ผมโอบอุ้มตัวเธอเอาไว้ด้วยท่าทีที่ไม่ผิดอะไรกับเด็กอ่อนที่ออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดของแม่ หรือ หญิงสาวที่หวานซึ้งอยู่ในอ้อมกอดของคนรัก อากัปกิริยาของเธอแม้จนกระทั่งการเคลื่อนไหวร่างกายบนตักผม ทำให้ดูเหมือนว่าเธอกำลังระลึกถึงความทรงจำดี ๆ ที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น