การคมนาคมของญี่ปุ่น ซึ่งได้ชื่อว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยสูงต้องสั่นคลอน เมื่อคนขับรถทัวร์กว่าสิบคนถูกพบว่าดื่มสุรา และหลอกกลวงมาตรการตรวจวัดแอลกอฮอล์
บริษัท โตเกียว ยาซะกะ คันโค ผู้ประกอบการรถทัวร์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ถูกสั่งตรวจสอบหลังจากคนขับรถอย่างน้อย 12 คน ถูกพบว่าดื่มสุราและหลีกเลี่ยงการตรวจวัดแอลกอฮอล์ จนอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
ตามระเบียบของกระทรงคมนาคมญี่ปุ่น พนักงานขับรถสาธารณะจะต้องมีระดับแอลกอฮอล์เป็น 0 และจะต้องถูกตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ก่อนนั่งหลังพวงมาลัย แต่คนขับรถจำนวนหนึ่งกลับฝ่าฝืนดื่มเหล้า และเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดื่มเหล้าเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์แทน
ทางบริษัทได้เพิ่มมาตรการตรวจเข้มโดยติดตั้งเครื่องตรวจจับแอลกอฮอล์เข้ากับโทรศัพท์มือถือ เพื่อถ่ายรูปขณะที่คนขับรถเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ รวมทั้งปรับปรุงเครื่องให้รัดกุมยิ่งขึ้น แต่บรรดาคนขับรถขี้เมาก็ยังสรรหาวิธีการมาหลบเลี่ยงได้
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกังวลว่า การฝ่าฝืนดื่มสุราของคนขับรถมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะรถโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยว และกลุ่มทัศนศึกษาของนักเรียนญี่ปุ่น
การท่องเที่ยวบูม ความปลอดภัยลด นักท่องเที่ยวเสี่ยง?
ผู้เกี่ยวข้องในวงการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ระบุว่า ปัญหาที่พบเป็นเพียง “ยอดของภูเขาน้ำแข็ง” เพราะนักท่องเที่ยวเดินทางมาญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมาก ทำให้คนขับรถทัวร์ขาดแคลน และคนขับรถจำนวนมากก็ไม่ตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากหากถูกพบว่าฝ่าฝืนการตรวจวัดแอลกอฮอล์ก็เพียงถูกลงโทษพักงาน 3 - 7 วันเท่านั้น
บริษัท โตเกียว ยาซะกะ คันโค ซึ่งถูกพบว่าคนขับรถกว่า 10 คน ฝ่าฝืนการตรวจวัดแอลกอฮอล์ มีรายได้มหาศาลจากการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ในปี 2015 บริษัทมีรายได้มากถึง 3,500 ล้านเยน และเป็นเจ้าของรถทัวร์มากถึง 158 คัน ถือเป็นบริษัทรถทัวร์รายใหญ่อันดับ 2 ในพื้นที่กรุงโตเกียว
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ลดมาตรการเข้มงวดในการจัดตั้งบริษัทนำเที่ยวและรถทัวร์ตั้งแต่ปี 2000 ทำให้บริษัทรถทัวร์เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัว ในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากเดิม 2,300 ราย เป็นกว่า 4,500 รายในปีที่ผ่านมา และยังมีบริษัทใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น บรรดาคนขับรถจึงไม่เกรงกลัวต่อมาตรการลงโทษ เพราะคิดว่าสามารถหางานใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็น ความเสี่ยงจึงตกอยู่กับบรรดานักท่องเที่ยวที่ต้องฝากชีวิตไว้กับบรรดาคนขับรถขี้เหล้าทั้งหลาย.