สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว วันนี้ผมอยากพูดให้เพื่อนๆ ฟังในประเด็นเรื่องสิทธิความเท่าเทียมกันในที่ทำงานระหว่างหญิงและชาย ในหลายๆ ประเทศทั้งฝั่งยุโรปและอเมริกาจะมีหลายบริษัทที่ให้ความสำคัญเรื่องความเท่าเทียมกันทั้งผู้หญิงและผู้ชายในการทำงานต่างๆ บางบริษัทมีนโยบายว่าถ้างานนี้ผู้ชายทำได้ผู้หญิงเองก็ทำได้ บางงานไม่ได้แบ่งแยกไว้ว่าต้องการสาวๆ เท่านั้น หรืองานนี้จะใช้เฉพาะหนุ่มๆ ลักษณะงานหลากหลายที่สามารถทำได้ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายมีเท่าเทียมกัน ไม่แบ่งแยกกัน ส่วนที่ญี่ปุ่นเพื่อนๆ อาจจะเคยได้ยินมาว่าปกติผู้ชายญี่ปุ่นทำงานนอกบ้านเปรียบเป็นช้างเท้าหน้า ส่วนผู้หญิงเป็นแม่บ้านเปรียบเป็นช้างเท้าหลัง แต่ในสังคมสำนักงานที่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายล่ะครับเพื่อนๆ คิดว่าความเท่าเทียมกันจะเป็นไปในแนวโน้มใด เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังนะครับ
พูดถึงช่วงนี้ที่เมืองไทยอยู่ในช่วงหน้าฝนที่ญี่ปุ่นเองก็เป็นช่วงที่พายุไต้ฝุ่นจ่อคิวเข้าทักทายญี่ปุ่นเช่นกันจะเรียกว่าฤดูไต้ฝุ่นก็คงจะได้ ซึ่งจะอยู่ช่วงระหว่างปลายๆ เดือนสิงหาคมถึงตุลา-พฤศจิกายน แต่ไต้ฝุ่นจะเข้ามาเป็นระยะๆ ตามสภาพอากาศนะครับไม่ใช่ทุกวันถ้างั้นแย่แน่เลย และบางลูกอาจจะเข้ามาแบบเฉียดๆ หรือบางลูกอาจเข้ามากลางประเทศเลยก็ได้ ลูกล่าสุดนี้ชื่อว่า Lionrock (มาแล้ว ~) ลูกนี้เข้าเล่นงานภูมิภาคโทฮกขุและฮอกไกโดหนักหน่อยที่โตเกียวเองอาจจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรหนักมากมายนัก แต่ภาคเหนือหรือฮอกไกโดค่อนข้างได้รับผลประทบเยอะเหมือนกันครับ ทางโทฮกขุหรือแถบฟุกุชิมาที่เคยประสบเหตุสึนามิและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
จากเรื่องพายุพัดฝนตกฟ้าร้องนี้ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนญี่ปุ่นกลัว ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนไปว่าสิ่งที่น่ากลัวสำหรับคนญี่ปุ่นที่พูดกันมาจนเป็นประโยคเชิงเปรียบเปรยคือ แผ่นดินไหว พายุฝนตกฟ้าร้อง ไฟไหม้ และพ่อ 地震雷火事親父 Jishin Kaminari Kaji Oyaji ในเรื่อง "คนญี่ปุ่นบอกเด็กๆ ว่าผีจะมากัดสะดือถ้าไม่ห่มผ้านอน" ซึ่งสิ่งที่น่ากลัวอย่างที่บอกไปเป็นการเรียงลำดับจากความน่ากลัวที่สุดลงมา เมื่อก่อนตอนที่ผมทำงานรับราชการประจำท้องถิ่นที่ญี่ปุ่นนั้น ถ้าพื้นที่ที่รับผิดชอบเกิดแผ่นดินไหวหรือพายุฝนตกฟ้าร้องจนเกิดผลกระทบกับชุมชน ผมหรือคนที่เป็นเวรจะต้องออกไปนอนประจำที่สำนักงานเพื่อแสตนบายให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน แต่พูดไปพายุฝนตกฟ้าร้องยังน่ากลัวน้อยกว่าแผ่นดินไหวนะครับเพราะอย่างน้อยเราสามารถคาดการณ์ได้ เตรียมการรับมือและตั้งฐานอพยพได้ แต่แผ่นดินไหวนี่ครับแทบจะบอกเวลาที่จะเกิดไม่ได้เลยต้องพร้อมรับมือเองตลอดเวลา
เวลาที่ไต้ฝุ่นเข้าท้องถิ่นที่ผมทำงาน หัวหน้าห้ามปิดโทรศัพท์เพราะจะได้โทรติดต่อได้ทันท่วงทีทุกเวลา พูดง่ายๆ คือเรียกตัวได้ทุกครั้งที่ต้องการ บางทีมันทำให้ผมรู้สึกทั้งตื่นเต้นและเบื่อการรอคอย แอบหลอนเล็กๆ เพราะไม่รู้โทรศัพท์จะมาไหมเมื่อไหร่ เรียกว่าบางทีแทบไม่ได้นอนเลย ทั้งๆ ที่บางครั้งไต้ฝุ่นที่เข้ามาเนี่ยฟ้าฝนที่ตก ยังตกน้อยกว่าฝนฟ้าเมืองไทยบางวันซะอีกนะครับ มีวันหนึ่งที่มีไต้ฝุ่นเข้าท้องถิ่นที่ผมอยู่ ก่อนเลิกงานหัวหน้ากำชับผมกับเพื่อนอีกคนว่าห้ามปิดโทรศัพท์นะ ผมกลับไปบ้านแล้วก็ไม่เห็นฝนฟ้าน่ากลัวเท่าไหร่นักจึงนอนหลับไป แต่หัวหน้าก็โทรมาจริงๆ ตอนตีสองให้ไปสำนักงานด่วน!! ตอนแรกที่ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาก็นึกว่าเขาแกล้งหรือเปล่า ดึกดื่นขนาดนี้แล้วก็ง่วงมาก ผมคิดว่ามืดขนาดนี้ฝนก็ตกผมจะไปยังงัยไม่มีรถ หัวหน้าบอกว่าจอดรถรอที่หน้าบ้านแล้วลุกมาเลย!! (´・Д・)」 หัวหน้าผ้มพร้อมมากมารอถึงหน้าบ้านเลย พอไปถึงสำนักงานมีเด็กหนุ่มๆ พนักงานมาอีกสี่ห้าคน อายุยี่สิบกว่าๆ มีหัวหน้าคนเดียวที่อายุหลัก 50 ชายหนุ่มทุกคนดูง่วงมาก มายืนกันแต่ไม่มีอะไรทำ ไม่มีไรเกิดขึ้น คุยกันจนเช้าครับ ผมยังนึกให้มาทำอะไรเนี่ยครับหัวหน้า แต่อันที่จริงแล้วถ้าใครเคยทำงานบริษัทญี่ปุ่นหรือรู้จักสังคมญี่ปุ่นจะรู้ว่าสภาพการทำงานในองค์กรเป็นแบบนี้แหละ บางทีไม่มีอะไรต้องทำหรอกแค่อยู่รวมๆ กัน อยู่ให้เขาเห็นหน้าเห็นตา เป็นพรรคเป็นพวก เป็นกลุ่มเป็นก้อนก็พอแล้ว แบบนี้หัวหน้าไม่ว่า แล้วอีกอย่างงานส่วนใหญ่จะให้ผู้ชายทำ ผู้หญิงไม่ค่อยโดนเรียกใช้ครับบริษัทญี่ปุ่น ผู้หญิงบางคนอยู่ใกล้สำนักงานมากขนาดเดินได้ในห้านาทียังไม่โดนเรียก แต่สำหรับหนุ่มๆ แล้ว บางคนบ้านอยู่ไกลโพ้นขับรถเป็นชั่วโมงๆ ยังต้องมา... พอเช้าอากาศดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใสมากไม่มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นเลย สรุปคือมาทำไรกัน!!
มีเพื่อน ๆ คนไทยของผมมาถามผมว่า ทำไมผู้ชายญี่ปุ่นค่อนข้างมีความคิดมีความเป็นผู้ใหญ่ พูดง่ายๆ คือมีมาตรฐานค่อนข้างดี แต่ทำไมฝ่ายผู้หญิงถึงเลเวลต่ำกว่าที่คิด และนิสัยก็ไม่ค่อยดีเท่าไร ผมเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ค่อยเต็มปากนัก แต่บอกได้แค่ว่าผู้ชายญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไว้ใจในสิ่งที่ให้เขาจัดการ ค่อนข้างทำได้ดี แต่มีหนังสือภาษาไทยบางเล่มอธิบายไว้ประมาณว่า ผู้ชายญี่ปุ่นจะไม่เข้มงวดมาก อย่างไรก็ได้ ส่วนผู้หญิงญี่ปุ่นบางคนที่เก่งหรือมีพรสวรรค์แต่ก็ไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆในบริษัทได้ อันนี้ผมอยากถามว่า จริงเหรอ? ...
ตรงเรื่องสิ่งที่คนญี่ปุ่นกลัวอีกหนึ่งเรื่องที่เขาบอกสิ่งน่ากลัวคือพ่อ หรือถ้าจะให้เปรียบคงประมาณคุณลุงญี่ปุ่นที่มีอารมณ์น่ากลัว หรือดุๆ หน่อยซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกครับ แต่ถ้าความคิดผมแทนที่จะกลัวคุณลุง ผมว่าผู้หญิงญี่ปุ่นน่ากลัวกว่านะ มีเรื่องติดตลกหรือเรื่องโจ๊กแบบญี่ปุ่นเขียนว่า ..女性様 Josei-Sama เขาบอกว่าถ้าเรียงลำดับความใหญ่ ( อำนาจบารมี)ในออฟฟิศสำนักงานละก็ รู้มั้ยว่าใครใหญ่!! เรียงได้แบบนี้ครับ
♢社長の愛人(名目上は秘書or役員)>社長>お局>若い社員♀>部長♂>課長♂>アルバイト♀>ネコ>若い社員♂
♢เมียน้อยของประธาน ( ชื่อตำแหน่งในบริษัทอาจจะเป็นเลขาหรือกรรมการแต่ไม่ต้องทำงานไรมาก) > ประธานบริษัท > สาวๆ รุ่นป้าที่อยู่มานาน > สาวๆ ทั่วไปในสำนักงาน > ผู้จัดการฝ่าย (ผู้ชาย) > ผู้จัดการแผนก (ผู้ชาย) > สาวๆ ฝึกงานหรือทำพาร์ทไทม์ในสำนักงาน > แมว🐈(・ω・`)☺> ผู้ชายหนุ่มน้อยในสำนักงาน ...
#*お局 Otsubone พูดไปเพื่อนๆ อย่าเอาคำนี้ไปเรียกสาวๆ นะครับเจอโกรธได้ครับ วันนี้ผมแค่มาเล่ามาแชร์ข้อมูลเฉยๆ ลักษณะของสาวป้าพวกนี้คือคนที่ทำงานที่เดิมมานาน จนมีพลังอำนาจในตัวเองมาก ทำงานอาจจะทั่วไปเหมือนสาวฝึกงานแต่ด้วยพลังอำนาจทำให้สามารถสั่งการคนที่เลเวลต่ำกว่าได้ทั้งหมดแม้แต่ผู้จัดการเองก็ต้องยอม บางทีมีของใช้สำนักงานที่เป็นของส่วนรวมที่ทุกคนสามารถหยิบใช้ได้ป้าก็จะวางไว้ในที่ที่ตัวเองรู้เพียงคนเดียว แล้วพอมีคนถามหาของนั้นแกก็จะบอกตำแหน่งที่วางอย่างสะใจ เพื่อนๆ อาจจะสงสัยแล้วมันสะใจอย่างไร บางทีสภาพสังคมญี่ปุ่น สภาพจิตใจมนุษย์ป้าญี่ปุ่นมันก็อธิบายยากครับ บางทีป้าชอบกลั่นแกล้งให้เกิดความสะใจ ใครที่ได้รับชาจากป้าบางทีต้องระวังนะอาจจะแอบใส่อะไรมาให้กินก็เป็นได้นะคร้าบ ฮ่าๆ ป้าบางคนมีงานอื่นที่ควรทำด้วยแต่ด้วยอำนาจบารมีป้าแกไม่อยากทำแกอยากนั่งเหลาดินสอเท่านั้นใครจะทำไม เรื่องงานไว้ทำตอนเวลาโอที เป็นแบบนี้ครับ แล้วบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ไล่คนออกก็เลยมีป้าแบบนี้อยู่มากขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งหนึ่งผมต้องไปทำธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคารระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ผมคิดว่าเรื่องที่ผมต้องการคุยและต้องการข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญมากผมจะรีเควสพนักงานผู้ชายครับ แล้วปรากฏว่าเป็นคนที่ให้ข้อมูลได้รู้เรื่อง รู้จริงและตามงานดีมาก และไม่ว่าไปไหนๆ ถ้าต้องการความเป็นงานเป็นงานเมื่อไหร่ผมจะขอพนักงานผู้ชายครับ นี่เองเรื่องสิทธิความเท่าเทียมกันในสังคมออฟฟิศสำนักงานญี่ปุ่นรู้แล้วนะครับว่าใครใหญ่ ใครเลเวลต่ำกว่าแมวน้อยซะอีกช่างน่าสงสาร
ย้อนกลับมาเรื่องไต้ฝุ่น Lionrock อีกหน่อยช่วงที่ไต้ฝุ่นเข้าก็ทำผมคิดถึงเรื่องที่หัวหน้ามาเรียกผมไปเฝ้าออฟฟิศตอนตีสองละครับ พอผมดูข่าวไต้ฝุ่นเข้าญี่ปุ่นทีไรผมเลยนึกถึงเรื่องเฝ้าเวรขึ้นมาทุกที ช่วงนั้นผมและเพื่อนร่วมงานหนุ่มๆ ยังเป็นรุ่นเลเวลต่ำสุด ต่ำกว่าแมวเหมียวซะอีก ในสำนักงานญี่ปุ่นเป็นแบบนี้นี่เอง... เอวังนะครับ แต่อย่างไรคนทำงานก็ต้องทำกันไปล่ะครับ บ่นไม่ได้ เพื่อนๆ ละครับเคยทำงานในบริษัทญี่ปุ่นไหม เป็นอย่างไรบ้าง วันนี้สวัสดีครับ
พูดถึงช่วงนี้ที่เมืองไทยอยู่ในช่วงหน้าฝนที่ญี่ปุ่นเองก็เป็นช่วงที่พายุไต้ฝุ่นจ่อคิวเข้าทักทายญี่ปุ่นเช่นกันจะเรียกว่าฤดูไต้ฝุ่นก็คงจะได้ ซึ่งจะอยู่ช่วงระหว่างปลายๆ เดือนสิงหาคมถึงตุลา-พฤศจิกายน แต่ไต้ฝุ่นจะเข้ามาเป็นระยะๆ ตามสภาพอากาศนะครับไม่ใช่ทุกวันถ้างั้นแย่แน่เลย และบางลูกอาจจะเข้ามาแบบเฉียดๆ หรือบางลูกอาจเข้ามากลางประเทศเลยก็ได้ ลูกล่าสุดนี้ชื่อว่า Lionrock (มาแล้ว ~) ลูกนี้เข้าเล่นงานภูมิภาคโทฮกขุและฮอกไกโดหนักหน่อยที่โตเกียวเองอาจจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรหนักมากมายนัก แต่ภาคเหนือหรือฮอกไกโดค่อนข้างได้รับผลประทบเยอะเหมือนกันครับ ทางโทฮกขุหรือแถบฟุกุชิมาที่เคยประสบเหตุสึนามิและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
จากเรื่องพายุพัดฝนตกฟ้าร้องนี้ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนญี่ปุ่นกลัว ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนไปว่าสิ่งที่น่ากลัวสำหรับคนญี่ปุ่นที่พูดกันมาจนเป็นประโยคเชิงเปรียบเปรยคือ แผ่นดินไหว พายุฝนตกฟ้าร้อง ไฟไหม้ และพ่อ 地震雷火事親父 Jishin Kaminari Kaji Oyaji ในเรื่อง "คนญี่ปุ่นบอกเด็กๆ ว่าผีจะมากัดสะดือถ้าไม่ห่มผ้านอน" ซึ่งสิ่งที่น่ากลัวอย่างที่บอกไปเป็นการเรียงลำดับจากความน่ากลัวที่สุดลงมา เมื่อก่อนตอนที่ผมทำงานรับราชการประจำท้องถิ่นที่ญี่ปุ่นนั้น ถ้าพื้นที่ที่รับผิดชอบเกิดแผ่นดินไหวหรือพายุฝนตกฟ้าร้องจนเกิดผลกระทบกับชุมชน ผมหรือคนที่เป็นเวรจะต้องออกไปนอนประจำที่สำนักงานเพื่อแสตนบายให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน แต่พูดไปพายุฝนตกฟ้าร้องยังน่ากลัวน้อยกว่าแผ่นดินไหวนะครับเพราะอย่างน้อยเราสามารถคาดการณ์ได้ เตรียมการรับมือและตั้งฐานอพยพได้ แต่แผ่นดินไหวนี่ครับแทบจะบอกเวลาที่จะเกิดไม่ได้เลยต้องพร้อมรับมือเองตลอดเวลา
เวลาที่ไต้ฝุ่นเข้าท้องถิ่นที่ผมทำงาน หัวหน้าห้ามปิดโทรศัพท์เพราะจะได้โทรติดต่อได้ทันท่วงทีทุกเวลา พูดง่ายๆ คือเรียกตัวได้ทุกครั้งที่ต้องการ บางทีมันทำให้ผมรู้สึกทั้งตื่นเต้นและเบื่อการรอคอย แอบหลอนเล็กๆ เพราะไม่รู้โทรศัพท์จะมาไหมเมื่อไหร่ เรียกว่าบางทีแทบไม่ได้นอนเลย ทั้งๆ ที่บางครั้งไต้ฝุ่นที่เข้ามาเนี่ยฟ้าฝนที่ตก ยังตกน้อยกว่าฝนฟ้าเมืองไทยบางวันซะอีกนะครับ มีวันหนึ่งที่มีไต้ฝุ่นเข้าท้องถิ่นที่ผมอยู่ ก่อนเลิกงานหัวหน้ากำชับผมกับเพื่อนอีกคนว่าห้ามปิดโทรศัพท์นะ ผมกลับไปบ้านแล้วก็ไม่เห็นฝนฟ้าน่ากลัวเท่าไหร่นักจึงนอนหลับไป แต่หัวหน้าก็โทรมาจริงๆ ตอนตีสองให้ไปสำนักงานด่วน!! ตอนแรกที่ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาก็นึกว่าเขาแกล้งหรือเปล่า ดึกดื่นขนาดนี้แล้วก็ง่วงมาก ผมคิดว่ามืดขนาดนี้ฝนก็ตกผมจะไปยังงัยไม่มีรถ หัวหน้าบอกว่าจอดรถรอที่หน้าบ้านแล้วลุกมาเลย!! (´・Д・)」 หัวหน้าผ้มพร้อมมากมารอถึงหน้าบ้านเลย พอไปถึงสำนักงานมีเด็กหนุ่มๆ พนักงานมาอีกสี่ห้าคน อายุยี่สิบกว่าๆ มีหัวหน้าคนเดียวที่อายุหลัก 50 ชายหนุ่มทุกคนดูง่วงมาก มายืนกันแต่ไม่มีอะไรทำ ไม่มีไรเกิดขึ้น คุยกันจนเช้าครับ ผมยังนึกให้มาทำอะไรเนี่ยครับหัวหน้า แต่อันที่จริงแล้วถ้าใครเคยทำงานบริษัทญี่ปุ่นหรือรู้จักสังคมญี่ปุ่นจะรู้ว่าสภาพการทำงานในองค์กรเป็นแบบนี้แหละ บางทีไม่มีอะไรต้องทำหรอกแค่อยู่รวมๆ กัน อยู่ให้เขาเห็นหน้าเห็นตา เป็นพรรคเป็นพวก เป็นกลุ่มเป็นก้อนก็พอแล้ว แบบนี้หัวหน้าไม่ว่า แล้วอีกอย่างงานส่วนใหญ่จะให้ผู้ชายทำ ผู้หญิงไม่ค่อยโดนเรียกใช้ครับบริษัทญี่ปุ่น ผู้หญิงบางคนอยู่ใกล้สำนักงานมากขนาดเดินได้ในห้านาทียังไม่โดนเรียก แต่สำหรับหนุ่มๆ แล้ว บางคนบ้านอยู่ไกลโพ้นขับรถเป็นชั่วโมงๆ ยังต้องมา... พอเช้าอากาศดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใสมากไม่มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นเลย สรุปคือมาทำไรกัน!!
มีเพื่อน ๆ คนไทยของผมมาถามผมว่า ทำไมผู้ชายญี่ปุ่นค่อนข้างมีความคิดมีความเป็นผู้ใหญ่ พูดง่ายๆ คือมีมาตรฐานค่อนข้างดี แต่ทำไมฝ่ายผู้หญิงถึงเลเวลต่ำกว่าที่คิด และนิสัยก็ไม่ค่อยดีเท่าไร ผมเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ค่อยเต็มปากนัก แต่บอกได้แค่ว่าผู้ชายญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไว้ใจในสิ่งที่ให้เขาจัดการ ค่อนข้างทำได้ดี แต่มีหนังสือภาษาไทยบางเล่มอธิบายไว้ประมาณว่า ผู้ชายญี่ปุ่นจะไม่เข้มงวดมาก อย่างไรก็ได้ ส่วนผู้หญิงญี่ปุ่นบางคนที่เก่งหรือมีพรสวรรค์แต่ก็ไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆในบริษัทได้ อันนี้ผมอยากถามว่า จริงเหรอ? ...
ตรงเรื่องสิ่งที่คนญี่ปุ่นกลัวอีกหนึ่งเรื่องที่เขาบอกสิ่งน่ากลัวคือพ่อ หรือถ้าจะให้เปรียบคงประมาณคุณลุงญี่ปุ่นที่มีอารมณ์น่ากลัว หรือดุๆ หน่อยซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกครับ แต่ถ้าความคิดผมแทนที่จะกลัวคุณลุง ผมว่าผู้หญิงญี่ปุ่นน่ากลัวกว่านะ มีเรื่องติดตลกหรือเรื่องโจ๊กแบบญี่ปุ่นเขียนว่า ..女性様 Josei-Sama เขาบอกว่าถ้าเรียงลำดับความใหญ่ ( อำนาจบารมี)ในออฟฟิศสำนักงานละก็ รู้มั้ยว่าใครใหญ่!! เรียงได้แบบนี้ครับ
♢社長の愛人(名目上は秘書or役員)>社長>お局>若い社員♀>部長♂>課長♂>アルバイト♀>ネコ>若い社員♂
♢เมียน้อยของประธาน ( ชื่อตำแหน่งในบริษัทอาจจะเป็นเลขาหรือกรรมการแต่ไม่ต้องทำงานไรมาก) > ประธานบริษัท > สาวๆ รุ่นป้าที่อยู่มานาน > สาวๆ ทั่วไปในสำนักงาน > ผู้จัดการฝ่าย (ผู้ชาย) > ผู้จัดการแผนก (ผู้ชาย) > สาวๆ ฝึกงานหรือทำพาร์ทไทม์ในสำนักงาน > แมว🐈(・ω・`)☺> ผู้ชายหนุ่มน้อยในสำนักงาน ...
#*お局 Otsubone พูดไปเพื่อนๆ อย่าเอาคำนี้ไปเรียกสาวๆ นะครับเจอโกรธได้ครับ วันนี้ผมแค่มาเล่ามาแชร์ข้อมูลเฉยๆ ลักษณะของสาวป้าพวกนี้คือคนที่ทำงานที่เดิมมานาน จนมีพลังอำนาจในตัวเองมาก ทำงานอาจจะทั่วไปเหมือนสาวฝึกงานแต่ด้วยพลังอำนาจทำให้สามารถสั่งการคนที่เลเวลต่ำกว่าได้ทั้งหมดแม้แต่ผู้จัดการเองก็ต้องยอม บางทีมีของใช้สำนักงานที่เป็นของส่วนรวมที่ทุกคนสามารถหยิบใช้ได้ป้าก็จะวางไว้ในที่ที่ตัวเองรู้เพียงคนเดียว แล้วพอมีคนถามหาของนั้นแกก็จะบอกตำแหน่งที่วางอย่างสะใจ เพื่อนๆ อาจจะสงสัยแล้วมันสะใจอย่างไร บางทีสภาพสังคมญี่ปุ่น สภาพจิตใจมนุษย์ป้าญี่ปุ่นมันก็อธิบายยากครับ บางทีป้าชอบกลั่นแกล้งให้เกิดความสะใจ ใครที่ได้รับชาจากป้าบางทีต้องระวังนะอาจจะแอบใส่อะไรมาให้กินก็เป็นได้นะคร้าบ ฮ่าๆ ป้าบางคนมีงานอื่นที่ควรทำด้วยแต่ด้วยอำนาจบารมีป้าแกไม่อยากทำแกอยากนั่งเหลาดินสอเท่านั้นใครจะทำไม เรื่องงานไว้ทำตอนเวลาโอที เป็นแบบนี้ครับ แล้วบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ไล่คนออกก็เลยมีป้าแบบนี้อยู่มากขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งหนึ่งผมต้องไปทำธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคารระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ผมคิดว่าเรื่องที่ผมต้องการคุยและต้องการข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญมากผมจะรีเควสพนักงานผู้ชายครับ แล้วปรากฏว่าเป็นคนที่ให้ข้อมูลได้รู้เรื่อง รู้จริงและตามงานดีมาก และไม่ว่าไปไหนๆ ถ้าต้องการความเป็นงานเป็นงานเมื่อไหร่ผมจะขอพนักงานผู้ชายครับ นี่เองเรื่องสิทธิความเท่าเทียมกันในสังคมออฟฟิศสำนักงานญี่ปุ่นรู้แล้วนะครับว่าใครใหญ่ ใครเลเวลต่ำกว่าแมวน้อยซะอีกช่างน่าสงสาร
ย้อนกลับมาเรื่องไต้ฝุ่น Lionrock อีกหน่อยช่วงที่ไต้ฝุ่นเข้าก็ทำผมคิดถึงเรื่องที่หัวหน้ามาเรียกผมไปเฝ้าออฟฟิศตอนตีสองละครับ พอผมดูข่าวไต้ฝุ่นเข้าญี่ปุ่นทีไรผมเลยนึกถึงเรื่องเฝ้าเวรขึ้นมาทุกที ช่วงนั้นผมและเพื่อนร่วมงานหนุ่มๆ ยังเป็นรุ่นเลเวลต่ำสุด ต่ำกว่าแมวเหมียวซะอีก ในสำนักงานญี่ปุ่นเป็นแบบนี้นี่เอง... เอวังนะครับ แต่อย่างไรคนทำงานก็ต้องทำกันไปล่ะครับ บ่นไม่ได้ เพื่อนๆ ละครับเคยทำงานในบริษัทญี่ปุ่นไหม เป็นอย่างไรบ้าง วันนี้สวัสดีครับ