“หมอปิยะสกล” เร่งเคลียร์ “คน สปสช.” ปมเลือกเลขาฯ ขอเดินหน้าเพื่อ ปชช.

รมว.สธ. รุกทำความเข้าใจ สปสช. กรณีเลือกตั้งเลขาฯ ยันไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีล็อบบี ชี้ คนเป็นเลขาฯ คะแนนต้องทิ้งห่างถึงทำงานได้ ไม่ใช่ก้ำกึ่ง ขอทุกคนทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ ปชช. ด้านโฆษก สปสช. ฝากบอร์ดฯ ทำงานอย่างผู้ใหญ่ เลิกทำสงครามน้ำลาย เสียโอกาสออกนโยบายที่เป็นประโยชน์

วันนี้ (7 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้เดินทางมายังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อตรวจเยี่ยม และทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ สปสช. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ถึงกรณีกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมาตลอด ทั้งกรณีการสรรหาเลขาธิการ สปสช. คนใหม่ และกรณี คสช. มีคำสั่ง ม.44 ออกมา

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า การเลือกเลขาธิการ สปสช. คนใหม่ ก็เป็นการดำเนินงานตามระบบ ขณะนี้ดูเหมือนว่าไม่มีความไว้วางใจกัน จึงอยากเข้ามาทำความเข้าใจว่า ตนไม่มีผลประโยชน์และไม่มีการล็อบบีใด ๆ ทั้งสิ้น เห็นได้ชัดจากการประชุมบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่กลับมีข่าวออกมาโจมตีและสร้างความเข้าใจผิด จนทำให้เกิดความขัดแย้งได้ จริง ๆ แล้วสำหรับตนใครจะมาเป็นเลขาฯ สปสช. ก็สามารถทำงานได้ทั้งหมด กับ นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ อดีตรองเลขาธิการ สปสช. ตนก็สามารถทำงานได้ แต่เมื่อผลการเลือกเลขาฯ ออกมาเป็นเช่นนี้ก็ต้องยอมรับ ที่สำคัญคะแนนที่ได้ถือว่าก้ำกึ่งมาก ซึ่งคนที่จะมาเป็นเลขาฯ สปสช. คะแนนควรจะต้องทิ้งห่าง เพื่อที่จะสามารถทำงานกันได้ ไม่เกิดความขัดแย้ง

“ผมมองว่า ท่านประทีปเป็นสุภาพบุรุษพอ และเข้าใจผลคะแนนที่ออกมา และต้องการให้ระบบเดินหน้าต่อไป ดังนั้น ทุกคนควรที่จะต้องร่วมกันในการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนมากกว่า” นพ.ปิยะสกล กล่าว

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษก สปสช. ได้ซักถามภายในห้องประชุม ว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่มาจาก สธ. และย้ายมาทำงานที่ สปสช. ก็ต้องการให้ระบบเดินหน้า และทุกคนใน สปสช. ก็ต้องการเช่นเดียวกัน ซึ่งจริง ๆ ไม่ได้สนใจตัวบุคคลว่าใครจะมาเป็นเลขาฯ แต่ที่คิดว่า นพ.ประทีป น่าจะได้ เพราะเป็นผู้อยู่กับระบบมานาน 10 กว่าปี ย่อมมีความชำนาญ แต่แน่นอนว่า นพ.ประทีป ก็เคยทำงานผิดพลาด ซึ่งก็มีการตำหนิภายในที่ประชุมภายใน สปสช. เช่นกัน แต่เมื่อ นพ.ประทีป ไม่ได้ พวกเรา สปสช. ก็เป็นมืออาชีพพอที่ไม่แต่งด ำหรือขึ้นป้ายคัดค้าน แต่หากมีใครที่ออกไปแสดงความคิดเห็น คือ เป็นเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้ อยากขอ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. อยากให้บอร์ด สปสช. มีการทำงานที่เป็นผู้ใหญ่ เพราะที่ผ่านมาการประชุมบอร์ดเหมือนอยู่ในสงคราม มีการโต้แย้งตลอด ทำให้เสียโอกาสในการออกนโยบายเพื่อประชาชน ส่วนใครจะมาเป็นเลขาฯ ไม่สำคัญ แค่เข้าใจระบบและยึดหลักการเดิม คือ ความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำก็พอ