ถึงแม้สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น จะมีพระราชประสงค์ที่จะสละราชบัลลังก์ หากแต่การแก้ไขกฎมณเฑียรบาลในเรื่องนี้มีความยากลำบากอย่างยิ่ง
ชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศให้ความสนใจต่อการที่ สมเด็จพระจักรพรรดิ แสดงพระราชประสงค์ที่จะสละราชบัลลังก์ และให้เจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมาร เสด็จขึ้นครองราชย์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
สถานีโทรทัศน์ NHK ระบุว่า สมเด็จพระจักรพรรดิ ซึ่งทรงมีพระชนมายุ 82 พรรษา มีพระราชประสงค์ดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่หลายคนของสำนักพระราชวังหลวง และเจ้าหน้าที่กำลังเตรียมวโรกาสที่สมเด็จพระจักรพรรดิจะทรงมีพระราชดำรัสต่อประชาชน
สมเด็จพระจักรพรรดิทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า พระองค์ไม่มีพระราชประสงค์ที่จะครองราชบัลลังก์ต่อไป โดยทรงลดพระราชกรณียกิจลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทน
แหล่งข่าวในสำนักพระราชวังหลวง เปิดเผยว่า สมเด็จพระจักรพรรดินี เจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมาร และ เจ้าชายอะกิชิโนะ พระโอรสองค์เล็ก ทรงน้อมรับพระราชประสงค์ในสมเด็จพระจักรพรรดิแล้ว
อย่างไรก็ตาม กฎมณเฑียรบาลแห่งสำนักพระราชวังหลวง ไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการสละราชบัลลังก์ โดยในอดีตสมเด็จพระจักรพรรดิไทโช ทรงประชวรเป็นเวลานาน มกุฎราชกุมารฮิโรฮิโตะ ปฏิบัติภารกิจแทนพระองค์ จวบจนสวรรคตจึงได้ขึ้นครองราชย์ต่อเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ
หนทางอันยากลำบาก วังหลวงสุดอ่อนไหว
พระราชประสงค์ของสมเด็จพระจักรพรรดิ ที่จะสละราชบัลลังก์ ไม่เพียงแต่ติดขัดเรื่องกฎมณเฑียรบาลเท่านั้น หากแต่บรรดาเชื้อพระวงศ์ และสำนักพระราชวังหลวง ก็มีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่บางคนของสำนักพระราชวังปฏิเสธข่าวที่ออกมาอย่างสิ้นเชิง หากแต่สถานีโทรทัศน์ NHK รวมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนงของญี่ปุ่นต่างรายงานว่า สมเด็จพระจักรพรรดิมีพระประสงค์สละราชบัลลังก์จริง
รัฐบาลญี่ปุ่นที่เพิ่งชนะการเลือกตั้ง แต่ต้องมารับ “เผือกร้อน” ในเรื่องที่อ่อนไหวอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรี ชินโซ อะเบะ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับการสละราชบัลลังก์ และกล่าวเพียงว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้รับทราบเรื่องดังกล่าว แต่ไม่มีแผนจะยืนยันเรื่องนี้กับสำนักพระราชวังหลวง
นายโยะชิฮิเดะ ซุงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีแผนจะแก้กฎหมายเพื่อปูทางสำหรับการสละราชบัลลังก์ แต่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้เตรียมพร้อมสำหรับการแก้กฎหมายที่อาจมีขึ้น กำลังอภิปรายเรื่องมาตรการเพื่อหยุดยั้งการที่พระบรมวงศานุวงศ์มีจำนวนลดลง