พรรครัฐบาลญี่ปุ่นชนะการเลือกตั้งวุฒิสภา ยึดที่นั่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของสภา ขาดไปเพียง 1 ที่นั่ง ก็สามารถยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ และเสริมให้ฐานการเมืองของนายกฯ ชินโซ อะเบะ เข้มแข็งอย่างยิ่ง
ผลการนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้ง 4 ชั่วโมง พบว่า พรรค LDP ของ นายกฯ ชินโซ อะเบะ กวาดชัยชนะได้อย่างถล่มทลาย โดยได้ชัยชนะ 56 ที่นั่ง และเมื่อรวมกับที่นั่งในส่วนที่ไม่มีการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรค LDP เพียงพรรคเดียวก็มีเสียงมากเกินครึ่งหนึ่งของวุฒิสภา
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรค LDP และพรรคพันธมิตร รวม 4 พรรค ที่มีแนวคิดต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งเป้ายึดที่นั่งเกินกว่า 2 ใน 3 ของสภา ซึ่งสามารถเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดทางให้กองทัพญี่ปุ่นมีบทบาททางทหารมากยิ่งขึ้นได้ ก่อนที่จะจัดให้ประชาชนลงประชามติ
ผลการสำรวจหลังการเลือกตั้ง พบว่า พรรค LDP และพรรคพันธมิตรจะได้ที่นั่งเกินกว่า 2 ใน 3 ของสภาตามต้องการ แต่เมื่อนับคะแนนเสร็จสิ้นในเช้าตรู่วันจันทร์ กลับพบว่า พรรคพันธมิตรที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญขาดที่นั่งไปเพียง 1 ที่นั่งเท่านั้น เนื่องจากพรรค “โคโคโร” พรรคการเมืองขนาดเล็ก ซึ่งเดิมคาดว่าจะได้ที่นั่ง 1 - 3 ที่นั่ง กลับไม่สามารถทำได้ตามคาดหมาย ไม่ได้ ส.ว. แม้แต่คนเดียว
นายกฯ ชินโซ อะเบะ แถลงหลังทราบผลการเลือกตั้ง ว่า ได้ยืนยันความเชื่อมั่นของประชาชนต่อนโยบายเศรษฐกิจ “อะเบะโนมิกส์” ส่วนการแก้ไข หรือทบทวนรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องที่สามารถถกเถียงกันได้ในรัฐสภาต่อไป นายอะเบะ ระบุว่า เขาจะชักชวนสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เข้าร่วมด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
พรรคฝ่ายค้านของญี่ปุ่นได้ทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งไม่ให้พรรครัฐบาลได้เสียงข้างมากในวุฒิสภา พรรคฝ่ายค้าน 4 พรรค ส่งผู้สมัครร่วมกันในหลายเขตเลือกตั้ง เพื่อแข่งกับผู้สมัครของพรรครัฐบาลแบบ “ตัวต่อตัว”
หากแต่พันธมิตรของพรรคฝ่ายค้านกลับพ่ายแพ้อย่างยับเยิน เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านไม่ได้นำเสนอนโยบายอะไรใหม่ นอกจากการณรงค์เพื่อขัดขวางไม่ให้พรรครัฐบาลได้เสียงข้างมากในสภา แต่ชาวญี่ปุ่นเห็นว่า ถึงแม้รัฐบาลจะเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็ต้องมีการลงประชามติทั่วประเทศอีกครั้ง ซึ่งไม่แน่ว่าจะผ่านหรือไม่?
พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า แกนนำฝ่ายค้าน ได้ที่นั่งเพียง 32 ที่นั่งเท่านั้น ส่วนพรรคคอมมิวนิสต์ และพรรคริเริ่มแห่งโอซากา ก็ทำได้เพียงรักษาที่นั่งเดิมไว้ได้เท่านั้น
“อะเบะ” พยัคฆ์ติดปีก คนรุ่นใหม่ยังหนุน
สถานีโทรทัศน์ NHK วิเคราะห์ว่า ชัยชนะของพรรคร่วมรัฐบาลในการเลือกตั้งวุฒิสภาครั้งนี้ ถือว่า ชาวญี่ปุ่นได้มอบโอกาสแก่รัฐบาลอะเบะ ซึ่งบริหารประเทศมาแล้วเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง ให้บริหารประเทศต่อไปอีกหลายปี
ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า รัฐบาลอะเบะจะปรับปรุงระบบบำเหน็จบำนาญ และระบบประกันสังคมเพราะพรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย และเคยบริหารประเทศมาแล้วก่อนรัฐบาลอะเบะ แต่กลับทำให้ชาวญี่ปุ่นผิดหวังอย่างมาก
ชัยชนะของรัฐบาลอะเบะไม่เพียงแต่ยังคงรักษาฐานเสียงกลุ่มผู้สูงวัยและกลุ่มอนุรักษนิยมได้อย่างเข้มแข็ง แต่คนรุ่นใหม่วัย 18 - 20 ปี กว่า 2.4 ล้านคน ที่ได้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรก ก็สนับสนุนพรรครัฐบาลเช่นเดียวกัน
ผลการสำรวจพบว่า คนรุ่นใหม่ 42% หย่อนบัตรให้พรรครัฐบาล LDP ขณะที่มีเพียง 20% เท่านั้นที่เลือกพรรคฝ่ายค้าน นอกจากนี้ คนรุ่นใหม่ 64% ยังระบุว่าสนับสนุนนโยบาย “อะเบะโนมิกส์” โดยมีกลุ่มที่ไม่สนับสนุนเพียง 36% เท่านั้น
ชัยชนะของพรรครัฐบาลยังเป็นผลจากเงินทุน, กลยุทธ์การหาเสียง และพลังทางการเมืองที่เหนือกว่าพันธมิตรฝ่ายค้านอย่างชัดเจน ทำให้พรรค LDP กวาดที่นั่งทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจรดใต้ โดยมีเพียงพื้นที่โอกินาวะ ที่กระแสต้านฐานทัพสหรัฐฯ และรัฐบาลเป็นทุนเดิม และพื้นที่นครโอซากาเท่านั้นที่พรรค LDP ยังเจาะไม่ได้