xs
xsm
sm
md
lg

อบรมพนักงานใหม่ญี่ปุ่นอะไรจะขาโหดขนาดนั้น !?!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้วครับ สมมุติว่าถ้าคุณต้องอาศัยอยู่บนเกาะร้างคนเดียว คุณจะไปไหมครับ ถ้าบนเกาะร้าง ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้า แก๊ส หรือน้ำดื่ม ซึ่งไม่สะดวกต่อการดำเนินชีวิตเท่าไหรนัก ในสภาพเช่นนี้ ถ้าให้เลือกสิ่งของติดตัวไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น ลูกบอล กีตาร์ คนรัก หรือสิ่งจำเป็นสำหรับคุณ อะไรก็ตาม คำตอบของแต่ละคนแน่นอนว่าไม่เหมือนกัน สิ่งของที่นำติดตัวไปจะสะท้อนความเป็นตัวตนของคุณครับ แต่วันนี้เราไม่มาทำนายนิสัยครับ ผมจะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังเกี่ยวกับรูปแบบการทดสอบ หรือการอบรมบุคคลากรที่ประเทศญี่ปุ่นครับ

การติดเกาะ ทำให้ผมนึกถึงนวนิยายของโรบินสัน ครูโซ เพราะมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการติดเกาะร้าง ตอนที่พระเอกติดเกาะร้างได้เจอกับคนป่าที่ชื่อว่า “Friday” ซึ่งเป็นชื่อที่พระเอกตั้งให้เพราะบังเอิญเจอกับคนป่าในวันศุกร์พอดี มีตัวอย่างให้เห็นจากเรื่องนี้ครับ 

ในแง่สไตล์การทำงานแบบคนญี่ปุ่น มักจะมีการวางแผนและกำหนดการไว้ก่อนล่วงหน้า มักจะไม่ชอบถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับแผนที่วางไว้ อาจเพราะว่า การที่ลงมือทำในวันจริงเลยโดยไม่วางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า อาจจะทำให้เกิดสิ่งผิดพลาดที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ เมื่อบริษัทญี่ปุ่นมีประกาศให้พนักงานไปทำงานต่างถิ่น มักจะมีการบอกกล่าวล่วงหน้ามากกว่า 1 ปี และจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการเป็นลายลักษณ์อักษร วันที่กำหนดมักจะไม่เปลี่ยนแปลง เปรียบให้เห็นภาพก็คล้ายกับวันที่เราจะจัดงานแต่งงานส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครเปลี่ยนกันใช่ไหมครับ ถ้าจะยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงจริงๆ โดยไม่มีเหตุผลที่ดี หรือสมเหตุสมผลเพียงพอ ก็จะไม่ได้รับการยอมรับให้เปลี่ยนแปลงกำหนดการ เพราะว่าเป็นกำหนดการที่แจ้งไว้แล้วล่วงหน้า 1 ปี ส่วนเนื้อหาที่ต้องไปพบเจอที่ต่างถิ่นนั้น เป็นเรื่องของเหตุการณ์ในสถานการณ์นั้นๆ อีกที

ส่วนเรื่องการ Training มีบริษัทที่ผลิตเกี่ยวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบริษัทหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในประเทศไทย ได้จัดการทดสอบผู้บริหารระดับสูงสำหรับผู้จัดการแผนกที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีอายุเฉลี่ยโดยประมาณ 40 ปี โดยวิธีการทดสอบคือ ส่งผู้บริหารเหล่านั้นไปอยู่ที่เกาะร้าง 1 สัปดาห์ ห้ามนำกระเป๋าสตางค์ หรือโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย แต่สามารถนำน้ำดื่ม สิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตบางอย่างติดตัวไปได้เล็กน้อย นอกจากนี้บริษัทยังได้ให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทติดตัวไปได้ พวกเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารในบริษัท ทางบริษัทจับตามองอย่างมาก สิ่งที่พวกเขาทำก็ต่างๆ กันไป อย่างแรกอาจจะหาทางจุดไฟ ต้มน้ำร้อน และทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทาน เพื่อให้มีชีวิตรอดใน 1 สัปดาห์บนเกาะร้าง สำหรับการฝึกทดสอบนี้จะถูกติดตามพฤติกรรมโดยบริษัทเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นผู้นำ การแก้ปัญหาต่างๆ หลังจากการฝึกทดสอบเสร็จสิ้น ทางฝ่ายบุคคลจะเป็นผู้รายงานผลให้กับทางบริษัทรับทราบต่อไป

บริษัทนี้ยังไม่ถือว่าเข้มงวดเกินไปครับ เพราะความจริงแล้วมีบางบริษัทที่ฝึกพนักงานใหม่อย่างเข้มงวดกว่านั้น โดยให้รับการฝึกอบรมจากทางทหาร ค่ายทหารจริง สำหรับประเทศญี่ปุ่นมักจะใช้วิธีการนี้เพราะได้ถูกบอกต่อกันมาว่าจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และจะทำให้เกิดเรื่องที่ดีต่อการทำงานในบริษัทมากมาย

ส่วนเรื่องการฝึกทดสอบบนเกาะร้างนั้น อาจจะมีทั้งคนที่อยากลองทำ และคนที่ไม่อยากทำ ตอนที่ผมเป็นนักศึกษาเคยไปเที่ยวเกาะที่ประเทศมาเลเซีย และหลังจากเรียนจบผมตั้งใจว่าก่อนจะเริ่มทำงาน ผมอยากไปเที่ยวเกาะนั้นอีกครั้ง ผมจึงลองสอบถามไปยังบริษัททัวร์ของประเทศมาเลเซีย บริษัทนั้นได้บอกว่าเกาะนั้นกลายเป็นเกาะร้างไปแล้ว บริษัททัวร์ได้แนะนำให้ลองไปทัวร์ที่เกาะอื่นแต่ไม่ว่าอย่างไรผมอยากไปที่เกาะนั้นอีกครั้ง ผมเลยร้องขออ้อนวอนบริษัททัวร์ให้ช่วยผม( ด้วยความที่อยากไปมากผมให้ทิปไปเยอะเลยครับ !) และในที่สุดทางบริษัทก็จัดหาเที่ยวเรือให้ผมได้

เป็นระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผมไม่ได้ไปที่นั่น เมื่อไปถึงที่นั่นผมมีความสุขที่ได้เห็นทะเลและธรรมชาติของเกาะที่ยังสวยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้หวนคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ครับ แต่ผมลองคิดเล่นๆ ดูว่า ถ้าพระอาทิตย์ตกความมืดเริ่มมาเยือน สมมติว่าเรือไม่กลับมารับผม ผมจะทำอย่างไร น้ำตาก็เริ่มปริ่มออกมานิดหน่อยครับ

และในวันนั้นเรือมารับผมช้ากว่าที่กำหนดไว้ เมื่อเรือมาถึงผมดีใจจนแทบจะร้องไห้ที่เรือไม่ลืมผมและอุตส่าห์ขับกลับมาเพื่อรับผมคนเดียวที่เกาะร้าง ด้วยเหตุนี้เองการฝึกอบรมโดยวิธีการฝึกใช้ชีวิตที่เกาะร้างจึงเป็นสิ่งที่ผมแค่นึกภาพก็ไม่อยากทำแล้วครับ

ผมเองตอนที่เริ่มทำงานที่ญี่ปุ่น วันที่ไปอบรมเป็นวันที่มีอากาศร้อนอบอ้าวมาก ณ หน้าลานกว้างที่สถานีดับเพลิงผมได้เข้าร่วมการฝึกอบรมพนักงานใหม่ด้วยวิธีการ กล่าวคำทักทายด้วยเสียงที่ดังมากตลอดทั้งวัน ผมพยามคิดให้สนุก และได้ตั้งใจฝึกอบรมเป็นอย่างเต็มที่ แต่ตอนนั้นผมคิดตลอดเลยล่ะครับว่า การฝึกพูดทักทายด้วยเสียงที่ดังและรวดเร็วเช่นนี้จะเกี่ยวข้องกับการทำงานอย่างไร!?!?

นอกจากเคยไปฝึกอบรมที่บริษัทดับเพลิงแล้ว ผมยังเคยไปฝึกอบรมที่สถานสงเคราะห์ด้วยครับ วิธีการฝึกอบรมคือ การให้พนักงานไปช่วยงานสถานสงเคราะห์คนชรา 1 วันโดยที่ไม่มีการเตรียมตัวหรือสอนอะไรก่อนล่วงหน้า บริษัทส่งพนักงานให้เข้าไปฝึกอบรมปรนนิบัติดูแลคนชรา แต่ผมลองคิดดูว่าการไม่ได้รับการสอนหรือบอกอะไรก่อนล่วงหน้าที่จะปฏิบัติงาน อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างฝึกอบรม และอาจจะทำให้คนชราได้รับบาดเจ็บก็เป็นไปได้ หลังจากที่ได้ฝีกงานเสร็จสิ้นไป 2 อาทิตย์ผู้หญิงที่อยู่ในทีมเดียวกันถอดใจและได้ลาออกจากงานตอนสิ้นเดือน

หลังจากนั้นไม่นาน มีพนักงานของสถานสงเคราะห์คนชราท่านหนึ่งได้ผลักคนชรา 3 คนตกลงมาจากบันไดเพื่อที่จะฆ่าให้ตาย...สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ถึงแม้ว่าในตอนนั้นจะมีพนักงานระดับชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่างดีอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยก็ตาม ดังนั้นการส่งพนักงานใหม่ที่ไม่เคยเตรียมความพร้อมอะไรมาก่อนล่วงหน้าให้ไปเผชิญหน้าฝึกงานในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความกดดัน ทำให้ผมเกิดคำถามในหัวมากมายเต็มไปหมด(แต่ผมไม่อยากรบกวนเวลางานของพนักงานในสถานสงเคราะห์ที่ต้องเจียดเวลามาเพื่อสอน) ผมจึงได้เขียนเรื่องนี้ลงบนแบบสอบถาม ตอนนั้นผมยังอายุน้อย และมีประสบการณ์ไม่มาก เพียงเพราะหวังว่าอยากสื่อเรื่องราวนี้ไปยังหัวหน้า

คนญี่ปุ่นมักจะมีการตรวจสอบความพร้อมในการทำงานก่อนล่วงหน้าเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นภายหลัง แต่ในทางกลับกันคนญี่ปุ่นชอบอบรมบุคลากรด้วยวิธีการฝึกให้เผชิญหน้ากับหน้างานที่ไม่ได้เตรียมความพร้อมมาก่อนล่วงหน้าเช่นกัน

นี่แหละครับรูปแบบการฝึกอบรม การทดสอบการทำงาน การเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้างาน หลากหลายจริงๆ เพื่อนๆ อยากไปอบรมที่เกาะร้างไหมครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น