นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวกับนักศึกษาของวิทยาลัยป้องกันประเทศว่า กองกำลังป้องกันตนเองจะต้องเตรียมพร้อมรับภารกิจใหม่ หลังญี่ปุ่นแก้ไขกฎหมายความมั่นคง เปิดทางให้เสริมสร้างบทบาททางทหารได้
สำนักข่าว NHK รายงานว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะกล่าวในพิธีสำเร็จการศึกษาที่วิทยาลัยป้องกันประเทศที่โยะโกะซุกะ ใกล้กรุงโตเกียว ในวันจันทร์ที่ 21 มีนาคม ให้กองกำลังป้องกันตนเองจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับหน้าที่ใหม่ตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า
ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า การเตรียมพร้อมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหน้าที่ใหม่ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการคุ้มกันกองกำลังของชาติอื่นที่เข้าร่วมปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ
รัฐบาลของนายอะเบะได้ผลักดันแก้ไขกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาเมื่อเดือนกันยายน ท่ามกลางการประท้วงอย่างกว้างขวาง รวมทั้งความวุ่นวายโกลาหลในรัฐสภา โดยกฎหมายความมั่นคงนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันอังคารที่ 29 มีนาคม
กฎหมายนี้จะเปิดทางให้ญี่ปุ่นสามารถใช้สิทธิ์การป้องกันตนเองร่วมกันและขยายบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเองในต่างประเทศได้ ทำให้ถูกวิจารณ์ว่าจะเป็นการฟื้นฟูกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
คนรุ่นใหม่เมินเข้าร่วมกองทัพ ญี่ปุ่นขาดแคลนทหาร
อย่างไรก็ตาม หนุ่มสาวรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นกลับปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับกองกำลังป้องกันตนเอง แม้แต่นักศึกษาที่จบการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันประเทศของญี่ปุ่น ยังขอถอนตัวที่จะเข้าร่วมกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นหลังสำเร็จการศึกษาเพิ่มขึ้นเกือบเป็นสองเท่า
ทั้งนี้ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันประเทศจะได้รับการบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองในวันเดียวกับที่สำเร็จการศึกษา แต่ก็สามารถปฏิเสธได้เช่นกัน โดยจากจำนวนผู้สำเร็จการศึกษา 419 คนในปีนี้ มี 47 คนได้งานนอกกำลังป้องกันตนเอง เทียบกับจำนวนของปีที่แล้วที่ 25 คน นับว่าเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นลำดับที่ 4 นับตั้งแต่นักศึกษารุ่นแรกสำเร็จการศึกษาในปีพ.ศ. 2500
วิทยาลัยป้องกันประเทศรับทราบถึงจำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้สำเร็จการศึกษาที่ออกไปประกอบอาชีพอื่น แต่ก็ยืนยันว่าการบังคับใช้ชุดร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติชุดใหม่ ไม่น่าใช่สาเหตุของการตัดสินใจถอนตัวจากกองกำลังป้องกันตนเองของผู้สำเร็จการศึกษากลุ่มนี้.